หน้าหลัก arrow ข่าวย้อนหลัง arrow ถอดรหัสร้อนดาวินชี่ โดย วนิดา ลอยชื่น
หน้าหลัก
รู้จักยส
อยู่กับปวงประชา
ข่าวย้อนหลัง
เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน
ผู้ไถ่ : รายงานสถานการณ์
การศึกษาเพื่อสิทธิ&สันติภาพ
สื่อสิ่งพิมพ์ ยส.
มุมมองสิทธิฯ ในหนัง
กิจกรรม ยส.
คลังภาพ ยส.
เว็บบอร์ด ยส.
เว็บเพื่อนบ้าน
Facebook ยส.

ยส. (ยุติธรรมและสันติ)

จำนวนผู้เข้าชม
ขณะนี้มี 173 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

คลิก เขียนสมุดเยี่ยมคลิก เขียนสมุดเยี่ยม
ขอบคุณทุกท่าน
ที่แวะเข้ามาค่ะ

แนะนำสื่อ ฉบับล่าสุด


วารสารผู้ไถ่ ฉบับที่ 123: ชีวิต การต่อสู้ เพื่อความดีของกันและกัน กำลังใจ ความรัก และความหวัง
 วารสารผู้ไถ่
ฉบับที่ 123


วันสันติสากล 1 มกราคม 2024
 สารวันสันติสากล
1 มกราคม 2024
ปัญญาประดิษฐ์
และสันติภาพ


น้ำแห่งชีวิต (Aqua fons vitae)
 น้ำแห่งชีวิต
(Aqua fons vitae)
สมณกระทรวงเพื่อ
ส่งเสริมการพัฒนา
มนุษย์แบบองค์รวม


สมณลิขิตเตือนใจ...แอมะซอนที่รัก (QUERIDA AMAZONIA)
 แอมะซอนที่รัก
(QUERIDA AMAZONIA)
สมณลิขิตเตือนใจ...
ของสมเด็จ-
พระสันตะปาปาฟรังซิส


จงสรรเสริญพระเจ้า... การก้าวออกไปอย่างต่อเนื่องของเอเชีย
หนังสือแปล
จงสรรเสริญพระเจ้า...
การก้าวออกไป
อย่างต่อเนื่องของเอเชีย


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 2 และ3
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร
ภาคที่ 2 และ3
 


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 1
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร ภาคที่ 1



หนังสือ Jesus CEO :  พระเยซูเจ้า นักบริหารชั้นนำ
หนังสือแปล
Jesus CEO :
พระเยซูเจ้า
นักบริหารชั้นนำ



หนังสือ เส้นทางสู่สิทธิมนุษยชนศึกษา
หนังสือ เส้นทางสู่
สิทธิมนุษยชนศึกษา


พระสมณสาสน์ความรักในความจริง : Caritas in Veritate
หนังสือแปล
Caritas in Veritate :

พระสมณสาสน์
ความรักในความจริง



โปสเตอร์ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ พ.ศ.2532
โปสเตอร์
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
แห่งสหประชาชาติ
พ.ศ.2532


เว็บเพื่อนบ้าน

แวดวงต่างประเทศ

Pax Christi International - PCI

ACPP - Hotline Asia


ดูเว็บอื่นๆ ในหมวด

เว็บน่าสนใจ

เว็บด้านสิทธิฯ

ข่าวสาร/บันเทิง

หน่วยงานองค์กรคาทอลิก

บทความล่าสุด

   อนึ่ง บทความ หรือข้อเขียนทั้งหมดที่นำลงเว็บไซต์ jpthai.org เป็นทัศนะเฉพาะของผู้เขียน
และไม่ผูกพันกับคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อความยุติธรรมและสันติ

ทางเว็บไซต์ jpthai อนุญาตให้คัดลอกบทความ/ข้อมูล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้
แต่กรุณาระบุชื่อผู้เขียน และแหล่งที่มาด้วย ขอบคุณค่ะ

 

Donation / สนับสนุนการดำเนินงาน

  • โอนเข้าบัญชี ในนาม
    คณะกรรมการคาทอลิกฯ แผนกยุติธรรมและสันติ 
    ธนาคารกสิกรไทย สาขาห้วยขวาง บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 084-2-07639-2
    (กรุณา
    ส่งสำเนาการโอนเงินทางอีเมล์ ccjpthai@gmail.com)
    (หรือ ส่งสำเนามาที่ LINE:
    https://lin.ee/LdMulwv)

  • ทางธนาณัติ สั่งจ่ายในนาม “ปริญดา วาปีกัง” ตู้ ปณ. สุทธิสาร (10321)
    114 (2492) ถ.ประชาสงเคราะห์ ซอย 24 ดินแดง กรุงเทพฯ 10400

ถอดรหัสร้อนดาวินชี่ โดย วนิดา ลอยชื่น พิมพ์
Tuesday, 30 May 2006

ถอดรหัสร้อนดาวินชี่

โดย วนิดา  ลอยชื่น

หนังสือนิยาย The Davinci Codeเรื่องราวของ ม้วนบันทึกแห่งทะเลตาย  แมรี่ แมคดาลีน  องค์กรลับโอปุสเดอี  วาติกันเมืองแห่งศาสนา  ภาพปริศนาอาหารค่ำมื้อสุดท้าย  สายเลือดของพระเยซู  เรื่องราวชวนพิศวงเหล่านี้ ถูกเรียงร้อยมาเป็นนิยายดัง “รหัสลับดาวินชี่” การตามล่าล้างสายเลือดของพระเยซูด้วยความเข้มข้น  หักเหลี่ยมลบมุม กลายเป็นประเด็นร้อนว่า นี่คือเรื่องจริงที่พระศาสนจักรโดยพระสันตะปาปาพยายามปกปิด ตามล้างตามล่าคนที่รู้ความลับ  แล้วในความจริงอีกด้านล่ะ นี่คือเรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยรู้

ภาพวาดโมนาลิซ่า : ลีโอนาโด ดาวินชี่รหัสลับดาวินชี่เป็นหนังสือนวนิยาย ใครที่อ่านคำนำในฉบับภาษาไทยถูกเขียนอย่างชัดเจน  ดังนั้นคงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเรื่องราวที่ถูกแต่งขึ้น โดยมีชื่อจริงของคนที่ตายไปนานแล้วและลุกขึ้นมาฟ้องร้องไม่ได้อย่าง ดาวินชี่ที่เป็นเจ้าของผลงานภาพปริศนา  แมรี่  แม็คดาลีน  หรือมารี  มักดาเลนา  ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่โต้อะไรไม่ได้แล้วทั้งสิ้น  หนังสือเล่มนี้ทำลายอัจฉริยภาพของดาวินชี่อย่างสิ้นเชิง หากภาพอาหารค่ำมื้อสุดท้ายแฝงความลับแห่งพระเยซูและสายเลือดของพระองค์ไว้จริงดาวินชี่คงฝีมือห่วย  เพราะวาดมานานแล้วเพิ่งจะมีแดน บราวน์ดูออกเป็นรายแรก นักประวัติศาสตร์ศิลป์ทั้งหลายคงต้องเอาปี๊บคลุมหัว เราลองแกะร่องรอยแบบง่ายๆตามรอยประวัติศาสตร์ไปกันดู

กษัตริย์คอนสแตนตินม้วนแห่งทะเลตายหรือบันทึกจากเด๊ดซี เป็นม้วนหนังแกะที่ถูกพบโดยคนเลี้ยงแกะในถ้ำใกล้เมืองกุมรานประเทศปาเลสไตน์เมื่อปีค.ศ.1950 ตอนนี้ยังไม่สามารถแกะอ่านเป็นเรื่องเป็นราวได้ เนื่องจากถูกจารึกลงในหนังสัตว์บรรจุในไห คาดว่าน่าจะเป็นผลงานของกลุ่มชนที่เรียกตนเองว่า แอสซีน ในสมัยพระเยซูพวกนี้จะรวมตัวกันเป็นชุมชนริมทะเลสาบเด๊ดซี เคร่งครัดในศาสนายูดาห์  ไม่ข้องเกี่ยวกับใคร มีการสะสมอาวุธเตรียมกู้ชาติจากการเป็นเมืองขึ้นของโรมัน ม้วนดังกล่าวแกะยากมากเพราะถูกเก็บนานกว่า 2000 ปี เท่าที่แกะออกแล้วเป็นเรื่องราวของพระธรรมเดิมหรือพระธรรมเก่าซึ่งเป็นคัมภีร์ของชาวยิว  เป็นเรื่องราวก่อนที่พระเยซูทรงบังเกิด ดังนั้นบันทึกนี้ไม่เกี่ยวกับพระเยซู และวาติกันก็ไม่ได้ไปตามเก็บทำลายเพราะไม่เกี่ยวกับวาติกัน กษัตริย์คอนสแตนตินเองไม่จำเป็นต้องไปล่าล้างใคร เพราะสมัยนั้นคริสต์ศาสนาถูกเบียดเบียนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ กษัตริย์คอนสแตนตินเป็นคนให้เสรีภาพทางศาสนาแก่คริสตชน ด้วยเหตุผลที่ตนเองรบชนะเพราะเครื่องหมายกางเขน 

ภาพอาหารค่ำมื้อสุดท้าย : The Last Supperภาพอาหารค่ำมื้อสุดท้าย ขอพูดแบบคนไม่ความรู้ทางศิลปะแต่พอมีความรู้ทางศาสนาบ้างแล้วกัน ภาพนี้ถูกเขียนโดยหลายศิลปินหลายรูปแบบแต่ที่โด่งดังที่สุดคือของดาวินชี่ เพราะได้รับการยอมรับว่ามีความงดงามมาก ดาวินชี่เป็นคนมีความรู้ทางศาสนาอย่างลึกซึ้งจริง เพราะภาพนี้สะท้อนเรื่องราวในพระคัมภีร์อย่างชัดเจน 

เริ่มที่ยอห์นอัครสาวก ในพระคัมภีร์บอกเราว่าท่านเป็นสาวกที่หนุ่มที่สุดอายุท่านคงประมาณ 17 - 18 ปีในเวลานั้น ดังนั้นภาพท่านจึงออกมาเป็นเด็กหนุ่มไร้หนวดเคราต่างจากคนอื่น ท่านเป็นศิษย์ที่พระเยซูเจ้ารักมากที่สุด เมื่อพระเยซูเสด็จไปไหนมาไหนก็จะนำท่านไปด้วยร่วมกับท่านยากอบที่อยู่อีกข้าง  ในภาพท่านเอนมาทางเซนต์ปีเตอร์จนเกิดช่องว่างที่แดน บราวน์ นำไปทำมาหากินได้ และถ้าสังเกตชัดจะเห็นถึงโต๊ะอาหารกำลังปั่นป่วน คนโน้นถามคนนี้ วุ่นไปหมด คนที่นิ่งมีเพียงพระเยซูเท่านั้น นั่นเป็นสัญลักษณ์แห่งการเป็นพระเจ้าของพระองค์นั่นคือความมั่นคงนิ่งสงบ ดาวินชี่สะท้อนว่าพระเจ้าเป็นผู้ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงแม้ท่ามกลางความวุ่นวายปั่นป่วนใดใด 

นักบุญยอห์น อัครสาวก : St.John Baptist ที่ดาวินชี่วาดออกมาดูคล้ายผู้หญิงตอนนี้หลังจากพระเยซูพูดว่าจะมีคนทรยศอยู่ร่วมโต๊ะกับพระองค์ (พระธรรมยอห์นบทที่ 13 ข้อที่ 21) นั่นก็สร้างความปั่นป่วนแก่สาวก ต่างคนต่างถามกันวุ่น ปีเตอร์ดึงยอห์นเข้ามาหา แล้วกระซิบว่าให้ถามพระองค์ว่าเป็นใคร ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างพระเยซูกับยอห์น ในพระคัมภีร์พระธรรมใหม่จารึกเรื่องนี้อย่างชัดเจน ส่วนปีเตอร์เองมือของท่านมีมีดอยู่เพราะว่าหลังจากนี้ในสวนเกสเสเมนีท่านได้ใช้มีดปาดหูผู้รับใช้ของสมณะชื่อมัลคัสขาด (พระธรรมยอห์นบทที่ 18 ข้อที่ 10) ภาพนี้สะท้อนให้เห็นเรื่องราวในอนาคตอีกด้วย 

นครรัฐวาติกันวาติกันนครรัฐแห่งสันตะปาปาและศูนย์กลางคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิก วาติกันตั้งอยู่ในกรุงโรม มีสถานะเป็นประเทศหนึ่งที่ปกครองโดยสันตะปาปาเป็นศูนย์รวมจิตใจชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกแต่ไม่มีผลกับการเมืองในปัจจุบัน  มีรายได้จากการบริจาคของชาวคริสต์ทั่วโลก คงไม่รวยพอจะนำเงินไปจ้างใครทำอะไรผิดๆอย่างที่แดน บราวน์เขียน ลำพังการให้การอุปถัมภ์ประเทศยากจน เด็กกำพร้า ประเทศที่อยู่ในภาวะสงครามผู้อพยพทั่วโลกก็สาหัสสากรรจ์อยู่แล้ว รายละเอียดต่างๆ ติดตามได้จากเว็บไซต์ของคาทอลิกต่างๆ 

แมรี่  แมคดาลีน  หรือมารีอา  มักดาเลนา  ท่านมีชื่ออยู่ในพระคัมภีร์จริง เป็นสาวกหญิงท่านหนึ่งที่ติดตามพระเยซู แต่ข้อจำกัดของสตรีในสมัยนั้นทำให้ท่านไม่โดดเด่น เช่น อัครสาวก ครั้งหนึ่งพระเยซูได้ไล่ผีเจ็ดตนออกจากหญิงผู้หนึ่งคาดเดากันว่าคือมารีอา มักดาเลนาคนนี้  การที่มีผีเจ็ดตนสิงแสดงถึงความชั่วร้ายที่สิงสู่เธอ สิ่งเลวร้ายที่สุดของผู้หญิงทุกยุคทุกสมัยคือการขายเนื้อหนังมังสาหรือโสเภณีนั่นเอง พระคัมภีร์ไม่เคยบอกว่าท่านมีอาชีพโสเภณี เป็นการคาดเดาของคนในสมัยหนึ่งที่คิดถึงผีเจ็ดตนต้องชั่วสุดสุด คือ เป็นโสเภณี ในพระคัมภีร์บอกว่าท่านเป็นคนแรกที่พบว่าอุโมงค์ฝังศพพระเยซูว่างเปล่า เธอสะเทือนใจจนถึงกับร้องให้คิดว่าศพของพระเยซูถูกขโมย พระเยซูเองประจักษ์กับเธอเป็นคนแรก  พระศาสนจักรมิได้รังเกียจ ตามราวีเธอ กีดกันเธอออกไป หรือป้ายสีใส่ความว่าเธอเป็นโสเภณี แต่พระศาสนจักรประกาศเกียร์ติคุณยกย่องเธอเป็นนักบุญซึ่งเป็นเกียร์ติสูงสุดที่คนธรรมดาสามัญคนหนึ่งจะได้รับจากพระศาสนจักร

สุดท้ายคงเป็นเรื่องราวของพระเยซูกับการมีเมีย ถ้าพระองค์มีเมีย ก็ โอเค นะ เพราะศาสดาของทุกศาสนาในโลกก็มีเมียทั้งนั้น หรือว่าความเป็นพระเจ้าของพระองค์จะคลอนแคลนเพราะมีเมีย คงไม่ใช่ เพราะเทพของศาสนาต่างๆ ล้วนแต่มีชายาทั้งนั้น เทพของชาวโรมันในสมัยพระเยซูมีเมียมากอีกต่างหาก เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องปกปิดอะไร โดยส่วนตัวดิฉันฐานะคริสตชนคนหนึ่งยอมรับได้ค่ะ  ขอให้เป็นเรื่องจริงเถอะ

ภาพนักบุญยอห์นที่ดูคล้ายผู้หญิงมีเรื่องราวหลากหลายนิยายที่หยิบประวัติศาสตร์มาเติมสีสันเป็นนวนิยาย เช่น ที่เราคุ้นเคยก็ เรื่องผู้ชนะสิบทิศ เรื่องของพระศรีสุริโยทัย เรื่องของพระสุพรรณกัลยา ซึ่งหากถามว่าเป็นเรื่องจริงไหม ใช่บุคคลต่างๆที่เป็นตัวหลักมีตัวตนจริงแต่ที่เหลือคือสีสันที่โลดแล่นชวนติดตาม  เรื่องที่อยากให้เห็นภาพอีกเรื่องคือ เรื่องตาม่องล่าย ยายรำพึง นิทานเรื่องเล่าที่เรียงร้อยชื่อเกาะแก่งในอ่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จนถึงสุราษฏร์ธานีมาเป็นนิทาน  เรื่องราวของเกาะแก่งในทะเลตรัง หรือเรื่องราวพื้นบ้านในภาคต่างๆของบ้านเรา  การเขียนเรื่องรหัสลับดาวินชี่ก็ใช้หลักการเดียวกัน จับแพะชนแกะวุ่นไปหมด  แล้วสำเร็จด้วยเพราะเป็นหนังสือที่ขายดีมาก อันนี้ไม่โทษแดน บราวน์ เขามีความสามารถในการเขียนดีมาก เขาเองยืนยันว่านี่คือนิยาย แต่คนอ่านต่างหากที่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง

ดิฉันเองมีโอกาสอ่านเรื่องนี้ 2 รอบ ยอมรับว่าลีลาการเขียนพี่แกเหลือร้ายจริงๆ น่าเชื่อถือซะไม่มี แต่อย่างไรความจริงก็คือความจริง เรื่องราวในนิยายไม่ใช่สิ่งที่คลางแคลงหรือจะทำให้ความศรัทธาในศาสนาของดิฉันหมดไป

สิ่งที่สะเทือนความรู้สึกดิฉันที่สุดในฐานะเป็นครูสอนวิชาคริสตศาสนาคือ แดน บราวน์ เขียนตอนหนึ่งในหนังสือ

ที่นางเอกเล่าให้พระเอกฟังว่าเห็นคุณตาของเธอทำพิธีทางศาสนาในห้องใต้ดิน ในพิธีกรรมนั้นมีการร่วมเพศด้วย พระเอกเองซึ่งเป็นนักประวัติศาสตร์ก็พูดสนับสนุนว่าพิธีกรรมดังกล่าวเป็นพิธีกรรมโบราณที่ศักดิ์สิทธิ์  สามารถใช้การร่วมเพศเป็นการภาวนาอย่างหนึ่ง ข้อความตอนนี้ต่างหากที่น่าสะเทือนใจ  รวมถึงข้อความอีกหลายๆ ตอนที่เอ่ยซ้ำซากถึงเรื่องเซ็กซ์อย่างน่าละอาย เช่น อ้างถึงภาพยนตร์เรื่อง เดอะ ไลอ้อนคิง ดิฉันเปิดดูไงไงก็ไม่เป็นคำว่า SEX ในฉากที่แดน บราวน์ อ้าง

และอีกมากมายที่เรื่องนี้พูดถึงสัญลักษณ์ทางเพศมากมายตั้งแต่เรื่องของจอกและอื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต่อมโนธรรมทางเพศ

หากทุกคนที่อ่านเชื่อว่ารหัสลับดาวินชี่เป็นเรื่องจริง สิ่งที่ตามมาคือจริยธรรมทางเพศของสังคมจะเสื่อมลงอย่างแน่นอน  เพราะไม่มีศาสนาไหนในโลกหรอกคุณที่จะสั่งสอนว่าการมั่วสุมทางเพศ มองอะไรเป็นเรื่องเพศ รวมทั้งการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงที่ไม่ใช่ภรรยาเป็นเรื่องถูกต้อง ทดแทนการภาวนาหรือกิจศรัทธาได้

เพราะในสังคมปัจจุบันที่ฟอนเฟะเรื่องศีลธรรมทางเพศอยู่แล้วหากเชื่อการชี้นำของ แดน บราวน์ เข้าไป ดิฉันเดาอนาคตมโนธรรมทางเพศของสังคมไม่ออกจริงๆ



ความคิดเห็น
เขียนโดย เปิด 2008-10-22 21:07:17
:) :) :) :) :) :) :) :) :)  
 
นายยอดจิงๆๆๆ 
 
 
นับถือๆๆๆๆ
เขียนโดย เปิด 2007-10-29 15:52:08
:grin เห็นด้วยมาก ๆ เก่งคะ คุณวนิดา
เขียนโดย มาโนช เปิด 2007-06-25 10:18:45
ผมเชื่อ อ่านประวัติศาสตร์โลกด้วยสิครับ อย่าอ่านแต่พระคัมภีร์ เราจะเห็นอะไรต่ออะำไรในมุมที่คาดไม่ถึง
งิ
เขียนโดย ง่ะ เปิด 2006-06-17 01:48:49
เขาหมายถึงการหมกมุ่นทางเพศนะ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับชายาเทพ
ฟังดูแรกๆ เหมือนจะดี
เขียนโดย ผู้เยี่ยมชม เปิด 2006-06-11 15:44:30
แต่ตอนหลังไหงสรุปงั้นล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องแอนตี้การที่เทพมีเมียหลายคนด้วยสิ จริงมะ
ไม่เห็นด้วยแรงๆ
เขียนโดย ผู้เยี่ยมชม เปิด 2006-06-12 09:15:27
ผมไม่เห็นด้วยอย่างแรงครับ 
 
มีหลายศาสนาบางนิกายครับ ที่ใช้การ สังวาส เป็นหนทางในการลุ โมกสะ  
 
เช่น ฮินดูตันตระ และ พุทธตันตระ ในบางสมัย ร่วมถึง พวก เพเกินบางนิกาย ซึ่ง ถ้าชาวคริสต์อย่างพวกคุณมีสิทธิทางความเชื่อที่สมควรได้รับการค ุ้มครอง พวกเขาก้ควรจะมีเช่นกัน 
 
การสังวาสเพื่อบรรลุโมกสะ หรือหลุดพ้นนั้น แตกต่างจาก การมั่วสุ่มทางเพศ การมีเพศสมัพันธ์ที่ผิดศีลธรรมอย่างที่คุณเข้าใจคนละเรื่องเลยน ะครับ 
 
ผมอ่านนิยายเรื่องนี้เพียงรอบเดียว จำไม่ได้แน่ชัดนัก แต่เข้าใจเอาว่า ความเชื่อของพวก ไพออรี่ ในเรื่องนี้ มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับ ความเชื่อของเพเกินบางนิกาย ในการประกอบพิธิกรรมเพื่อ บรรลุธรรมผ่านการสังวาส ซึ่ง...แน่นอนว่า อะดรีนารีน+แอยโดรฟีน ในจังหวะที่ถึงจุดสุดยอดน่าจะทำให้ จิตเข้าสู่ สภาวะ จิตว่างได้ชั่วคราว ซึ่งมันก็เรื่องของเขา  
 
นี่เป็น การบำเพ็ญภาวนานะครับ ไม่ใช่การ**กันเพื่อความมันสื พูดง่ายๆก็คือ มันถูกมาตรฐานศีลธรรมของเขา ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะเอามาตรฐานศีลธรรมของตัวเองเข้าไป***  
 
พิธีกรรมทางศาสนา หรือ ทางความเชื่อ ย่อมถูกกำกับโดยชุดศีลธรรมของศาสนาและความเชื่อนั้นๆอยู่แล้ว คนละเรื่องกับ การมั่วสุมทางเพศ การสำส่อน บลาบลาบลา ในสังคมปัจจุบัน ที่โยนศีลธรรมทิ้งแล้วเอาชุดความคิดแบบบริโภคนิยมเข้าสวมแทน 
 
คนละเรื่องกันเลย  
 
ผมเข้าใจสิ่งที่คุณเป็นห่วง แต่มันห่วงผิดเรื่องครับ  
 
การสังวาสเพื่อลุโมกสะ ที่มีศีลธรรมของตัวเองกำกับนั้น จะน่าเป็นห่วงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับศีลธรรมชุดที่กำกับเป็นอย่างไร ถ้าศีลธรรมของไพออรี่ในเรื่องนี้ว่าด้วยการบูชาเพศหญิงแล้ว ผมว่าเป็นเรื่องที่ควรสนับสนุนด้วยซ้ำ 
 
เพราะ มันก็สนับสนุนให้ "**กัน" แบบมีสติเป็นพิธีการมีเป้าหมายสูงส่ง ไม่**กันมั่วๆสั่วๆ (ไม่ดีตรงไหน**) 
 
ส่วนการสังวาสแบบที่ไม่มีศีลธรรมอะไรมากำกับต่างหากที่น่าเป็นห ่วง  
 
ห่วงให้ถูกเรื่องหน่อยก้ดีครับ  
 
เขียนโดย ผู้เยี่ยมชม เปิด 2006-06-10 09:17:37
:upset :zzz :sigh :?

เขียนความคิดเห็น
ชื่อ:
หัวเรื่อง:
BBCode:Web AddressEmail AddressBold TextItalic TextUnderlined TextQuoteCodeOpen ListList ItemClose List
ความคิดเห็น:



รหัส:* Code

Powered by AkoComment 2.0!

< ก่อนหน้า   ถัดไป >