บทความล่าสุด |
---|
อนึ่ง บทความ หรือข้อเขียนทั้งหมดที่นำลงเว็บไซต์ jpthai.org เป็นทัศนะเฉพาะของผู้เขียน
ทางเว็บไซต์ jpthai อนุญาตให้คัดลอกบทความ/ข้อมูล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้
Donation / สนับสนุนการดำเนินงาน
|
จาริกในใจ | ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ |
Wednesday, 01 June 2011 | ||||
จาริกในใจ ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ มีคนเคยถามผมว่าการเป็น "นักบวช" กับ "ฆราวาส" ต่างกันตรงไหน? สำหรับผมแล้ว คำถามในข้างต้นค่อนข้างยากและมีนัยบางอย่างต่อความรู้สึกของผู้คนค่อนข้างมาก คนจำนวนหนึ่งมักตั้งคำถามธรรมในเชิงเล่นโวหารว่า หากนักบวชต่างกับฆราวาสเพียงแค่เครื่องนุ่งห่ม ทรงผม หรือความสามารถในการท่องจำบทสวดมนต์ เราจะนำแรงศรัทธาของคนไว้ที่ใด ในทางกลับกัน หากฆราวาสชื่นชอบแต่การแข่งขันสร้างเจดีย์หรือบริจาคเงินเข้าวัด หน้าที่ของนักบวชคงทำได้เพียงสวดมนต์ ทว่า... จนแล้วจนรอดผมก็ยังนึกไม่ออกเสียทีว่า นักบวชกับฆราวาสต่างกันตรงไหน?
หลายเดือนก่อน ระหว่างที่ผมขับรถลัดเลาะอยู่กลางหุบเขาแห่งหนึ่งในภาคเหนือ ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุในช่วงเวลาบ่ายโมงเศษ สายตาของผมเหลือบไปเห็นพระรูปหนึ่งยืนโบกรถอยู่ไกลๆ แต่จนแล้วจนรอดรถยนต์ที่นำหน้าเราไปแต่ละคันกลับพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างไม่สนใจ บางคันชะลอความเร็วลงช้าๆ ตรงบริเวณที่พระรูปนั้นยืนอยู่และเลยผ่านไป ผมมองหน้ากับภรรยาที่นั่งมาด้วยกันด้วยอาการงงๆ
"เอาไงดี รับไม๊..." ผมถามภรรยา ขณะที่ในใจกระหวัดนึกถึงบางเรื่องราวที่ชวนสงสัย อาทิ กลางป่ากลางเขาแบบนี้ ทำไมมีพระมาเดินกลางถนนร้อนๆ เราจะเชื่อได้อย่างไรว่าเป็นพระจริงไม่ใช่พระเก๊มาขออาศัยแล้วจี้เราระหว่างทาง ในถุงย่ามนั่นมีอะไรอยู่ ทำไมรถหลายคันข้างหน้าไม่มีใครรับ "เอาไงดี" ผมทบทวนข้อมูลข่าวสารในแง่ดีเกี่ยวกับพระสงฆ์ในปัจจุบันเท่าที่จะนึกได้ "ก็แล้วแต่พี่ตัดสินใจสิ เรามากันสองคนคงไม่เป็นไร" ภรรยาของผมเอ่ยขึ้น จากนั้นไม่นาน รถของเราจอดลงห่างจากจุดที่พระยืนโบกรถประมาณสองร้อยเมตร ผมรีบลงจากรถเพื่อเก็บข้าวของที่เบาะท้ายรถให้เรียบร้อย ระหว่างที่กำลังเก็บของบางส่วน สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นพระรูปนั้นเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ผมจึงรีบเดินไปหาพระรูปนั้นทันที และเมื่อระยะทางของเราใกล้จนเห็นสีหน้าท่าทาง ตลอดจนสัมภาระต่างๆ ความรู้สึกละอายใจจึงเกิดขึ้นกับผมราวโดนหมัดน็อกของนักมวย "ไม่ได้ขอขึ้นรถ...โยม ขอน้ำ..." พระวัยกลางคนเอ่ยขึ้นด้วยริมฝีปากที่แห้งผากและแตก ใบหน้าของท่านซึ่งมีร่องรอยแดดเผา ซีดและชุ่มไปด้วยเหงื่อ ผมจึงรีบวิ่งกลับไปที่รถเพื่อจัดแจงธุระให้ตามคำขออย่างเร่งด่วน หลังจากที่ท่านฉันน้ำเป็นที่เรียบร้อย ผมจึงทราบว่า ท่านเป็นพระธุดงค์จริงๆ เดินมาตั้งแต่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยตั้งใจจะไปจำพรรษาที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี "แล้วระหว่างทางมีคนจอดรถรับบ้างไหมครับ" ผมจำได้ว่าจากต้นทางมาถึงจุดที่เราพบกันนั้นมีระยะทางอย่างน้อยประมาณสามร้อยกว่ากิโลเมตรเห็นจะได้ "ไม่มีโยม โยมเป็นคนแรก อาตมาคงแย่ถ้าไม่มีน้ำขวดนี้ มาๆ รับพรก่อน เดี๋ยวค่อยแยกย้าย" จากนั้น ผมกับภรรยาก็นั่งรับพรด้วยกัน ระหว่างที่ท่านสวด สายตาผมเหลือบไปเห็นเท้าที่เปลือยเปล่าของพระรูปนั้น มันหนาและพองเพราะเดินบนพื้นยางมะตอยมานาน ซอกเล็บของบางนิ้วมีเลือดซึมออกมาบางๆ ผมคะยั้นคะยอให้ท่านนั่งรถไปกับผมเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนและย่นระยะทาง แต่ท่านปฏิเสธด้วยแววตาที่มุ่งมั่นบางอย่าง
หลังจากที่เราแยกย้ายกัน บรรยากาศในรถของผมค่อนข้างเงียบคล้ายทบทวนและจดจำเหตุการณ์เมื่อครู่อย่างละเอียด ระยะห่างสองร้อยเมตรจากจุดจอดรถของผมกับพระรูปนั้นบรรจุไปด้วยสิ่งที่ไม่อาจบรรยายได้แจ่มชัดนัก มันมีทั้งความกังวลเรื่องพระจริงหรือแก็งค์มิจฉาชีพ ความรู้สึกไม่แน่ใจในมนุษย์ เรื่องเล่าของการดักปล้นระหว่างทาง รวมไปถึงความรู้สึกเสียดายที่ในรถผมไม่มีอุปกรณ์อันใดเลยที่จะใช้เป็นอาวุธป้องกันตนเองและภรรยายามฉุกเฉิน ทว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ระยะห่างของเราใกล้กันเรื่อยๆ มิใช่ผมแต่เป็นพระรูปนั้นที่เริ่มเดินเข้ามาหาผมก่อน
"อาตมาเดินธุดงค์เพราะมีเหตุต้องเดิน นั่งรถไม่ได้ โยมไปเถอะ หากวันไหนขับรถผ่านพระธุดงค์ก็อย่าลืมแวะทัก แวะคุย หาน้ำให้ท่านบ้าง" เสียงของพระรูปนั้นยังคงดังอยู่ในหูของผมตลอดการเดินทางในครั้งนั้น บางทีการออกธุดงค์ของพระรูปนั้นหรือพระรูปอื่นๆ คงเป็นการเดินทางซึ่งใช้ฝ่าเท้าที่ย่ำผ่านภูมิประเทศต่างๆ เปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ในใจ ผมไม่คาดหวังว่าพระทุกรูปที่ปฏิบัติเช่นนี้ จะบรรลุอรหันต์หรือแม้กระทั่งโสดาบัน แต่นี่กระมัง คือความต่างประการหนึ่งระหว่างนักบวชกับฆราวาสโดยมิต้องยึดติดกับเครื่องแบบและทรงผม
ไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมานี้ ผมขับรถออกมาเติมน้ำมันที่ปั้มใกล้บ้านเพื่อเตรียม "จาริก" (?) ในแบบของผมบ้าง สายตาเจ้ากรรมดันไปเห็นพระรูปหนึ่งมีท่วงทีลักษณะคล้ายพระธุดงค์ทุกประการกำลังยืนบิณฑบาตอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่ คาดว่าท่านคงยืนมาได้สักพักแล้ว สังเกตจากถุงขนมและน้ำผลไม้จำนวนหนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ "พระรูปนี้คงวางแผนการเดินทางมาดี..." ผมบอกกับตัวเอง ------------ จาก หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ : จุดประกาย ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
Powered by AkoComment 2.0! |
< ก่อนหน้า | ถัดไป > |
---|