หน้าหลัก arrow หน้าหลัก
หน้าหลัก
รู้จักยส
อยู่กับปวงประชา
ข่าวย้อนหลัง
เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน
ผู้ไถ่ : รายงานสถานการณ์
การศึกษาเพื่อสิทธิ&สันติภาพ
สื่อสิ่งพิมพ์ ยส.
มุมมองสิทธิฯ ในหนัง
กิจกรรม ยส.
คลังภาพ ยส.
เว็บบอร์ด ยส.
เว็บเพื่อนบ้าน
Facebook ยส.

ยส. (ยุติธรรมและสันติ)

จำนวนผู้เข้าชม
ขณะนี้มี 557 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

คลิก เขียนสมุดเยี่ยมคลิก เขียนสมุดเยี่ยม
ขอบคุณทุกท่าน
ที่แวะเข้ามาค่ะ

แนะนำสื่อ ฉบับล่าสุด


วารสารผู้ไถ่ ฉบับที่ 124: เรียนรู้โลกยุคใหม่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ชีวิต จิตวิญญาณ!?
 วารสารผู้ไถ่
ฉบับที่ 124


วันสันติสากล 1 มกราคม 2024
 สารวันสันติสากล
1 มกราคม 2024
ปัญญาประดิษฐ์
และสันติภาพ


น้ำแห่งชีวิต (Aqua fons vitae)
 น้ำแห่งชีวิต
(Aqua fons vitae)
สมณกระทรวงเพื่อ
ส่งเสริมการพัฒนา
มนุษย์แบบองค์รวม


สมณลิขิตเตือนใจ...แอมะซอนที่รัก (QUERIDA AMAZONIA)
 แอมะซอนที่รัก
(QUERIDA AMAZONIA)
สมณลิขิตเตือนใจ...
ของสมเด็จ-
พระสันตะปาปาฟรังซิส


จงสรรเสริญพระเจ้า... การก้าวออกไปอย่างต่อเนื่องของเอเชีย
หนังสือแปล
จงสรรเสริญพระเจ้า...
การก้าวออกไป
อย่างต่อเนื่องของเอเชีย


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 2 และ3
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร
ภาคที่ 2 และ3
 


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 1
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร ภาคที่ 1



หนังสือ Jesus CEO :  พระเยซูเจ้า นักบริหารชั้นนำ
หนังสือแปล
Jesus CEO :
พระเยซูเจ้า
นักบริหารชั้นนำ



หนังสือ เส้นทางสู่สิทธิมนุษยชนศึกษา
หนังสือ เส้นทางสู่
สิทธิมนุษยชนศึกษา


พระสมณสาสน์ความรักในความจริง : Caritas in Veritate
หนังสือแปล
Caritas in Veritate :

พระสมณสาสน์
ความรักในความจริง



โปสเตอร์ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ พ.ศ.2532
โปสเตอร์
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
แห่งสหประชาชาติ
พ.ศ.2532


เว็บเพื่อนบ้าน

แวดวงต่างประเทศ

Pax Christi International - PCI

ACPP - Hotline Asia


ดูเว็บอื่นๆ ในหมวด

เว็บน่าสนใจ

เว็บด้านสิทธิฯ

ข่าวสาร/บันเทิง

หน่วยงานองค์กรคาทอลิก

บทความล่าสุด

   อนึ่ง บทความ หรือข้อเขียนทั้งหมดที่นำลงเว็บไซต์ jpthai.org เป็นทัศนะเฉพาะของผู้เขียน
และไม่ผูกพันกับคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อความยุติธรรมและสันติ

ทางเว็บไซต์ jpthai อนุญาตให้คัดลอกบทความ/ข้อมูล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้
แต่กรุณาระบุชื่อผู้เขียน และแหล่งที่มาด้วย ขอบคุณค่ะ

 

Donation / สนับสนุนการดำเนินงาน

  • โอนเข้าบัญชี ในนาม
    คณะกรรมการคาทอลิกฯ แผนกยุติธรรมและสันติ 
    ธนาคารกสิกรไทย สาขาห้วยขวาง บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 084-2-07639-2
    (กรุณา
    ส่งสำเนาการโอนเงินทางอีเมล์ ccjpthai@gmail.com)
    (หรือ ส่งสำเนามาที่ LINE:
    https://lin.ee/LdMulwv)

  • ทางธนาณัติ สั่งจ่ายในนาม “ปริญดา วาปีกัง” ตู้ ปณ. สุทธิสาร (10321)
    114 (2492) ถ.ประชาสงเคราะห์ ซอย 24 ดินแดง กรุงเทพฯ 10400

ชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์ การศึกษาทางเลือก เพื่อกลุ่มชาติพันธุ์ : องอาจ เดชา พิมพ์
Wednesday, 13 September 2023

Image


วารสารผู้ไถ่

ปีที่ ๔๔
ฉบับที่ ๑๒๒ พ.ค. - ส.ค. ๒๕๖๖



ชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์
การศึกษาทางเลือก เพื่อกลุ่มชาติพันธุ์

องอาจ  เดชา
 


Image 

ชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์ ( Xavier Learning Community) ตั้งอยู่ในเขต ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน จ.เชียงราย สถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนบ้านสำหรับน้อง ๆ เยาวชนชาติพันธุ์ที่มาอาศัยอยู่และเรียนรู้ร่วมกัน มีหอพัก มีห้องเรียน มีทุ่งนา ให้เยาวชนได้ลงมือ ปลูกข้าว เกี่ยวข้าว ปลูกผัก ได้รู้จักชีวิต รู้จักตนเอง ในโลกใบนี้มากยิ่ง ๆ ขึ้น

       จึงถือว่าชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์ เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการศึกษาทางเลือกในประเทศไทยของเราในขณะนี้  

       บาทหลวงวินัย บุญลือ S.J. คณะเยสุอิตในไทย และเป็นผู้ดูแลชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์ เชียงราย  บอกว่า ถ้าพูดถึงประวัติของคณะเยสุอิต ที่เข้ามาทํางานในด้านการศึกษาในไทยนั้นมีมาตั้งแต่สมัยพระนารายณ์ ที่ลพบุรี (ราว ๆ ค.ศ. ๑๖๘๕ นำโดย Chevalier de Chaumont พร้อมด้วยสมาชิกของคณะเยสุอิตหกคน) จะทําวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เสร็จแล้วก็มีการเปลี่ยนแผ่นดิน จนมาถึงในสมัยรัตนโกสินทร์ ทางกรุงเทพฯ จึงได้เชิญคณะทำงาน เข้ามาทํางานกับการศึกษา ก็เลยไปสอนหนังสือที่จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ ขอนแก่น เชียงใหม่ ยกตัวอย่างที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ก็ไปสร้าง ไปดูแลนักศึกษาที่อยู่ในสถาบันต่าง ๆ

       "ถือได้ว่า ตั้งแต่จัดการศึกษามานั้น คณะเยสุอิต ไม่ได้คิดที่จะทําการศึกษาในระบบเลย ก็ทําการศึกษาแบบนี้มาตลอด แล้วก็ให้การศึกษาอยู่ทั่วโลกที่มีเครือข่าย เป็นการศึกษาอยู่ในชุมชนของคนท้องถิ่น ของคนพื้นเมือง ได้ต่อสู้เพื่อสิทธิของคนพื้นเมือง มาตั้งนานแล้ว เพราะฉะนั้น ในการทํางานการศึกษาของคาทอลิก เยสุอิต ที่เข้ามาอยู่ในช่วงหลัง ก็มีคนรุ่นใหม่ที่สนใจการศึกษาที่อยากจะทําตามแนวทางของเราเอง ยกตัวอย่างเช่น ทีมมิชชันนารีที่ไปสอนภาษาศาสตร์  ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์"

       บาทหลวงวินัย บอกว่า สิ่งสําคัญที่สุดที่เรากำลังทำ คือเพื่อจะให้สังคมไทยเปลี่ยนจากด้านล่างขึ้นบน เป็นการให้การศึกษาที่มีคุณภาพสําหรับผู้ที่ด้อยโอกาส ดูแล้วก็เป็นการศึกษาคาทอลิกนี่แหละ ที่จะเป็นแนวทาง

       "การจัดการศึกษาของชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์ จึงเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่สําคัญก็คือ สิ่งที่เราทำมันไม่ใช่แค่การศึกษาแบบการเรียนหนังสือ แต่เขาเรียกว่า formation คือการฝึกฝนชีวิตของคน จึงเกิดความคิดและวางแผน จัดวางพื้นที่ที่สอดคล้องกับเรื่องของการดูแลสิ่งแวดล้อม เป็นสถาบันสีเขียวที่จะต้องพยายามทํา จึงมาเริ่มกันที่เชียงรายตรงนี้"

       ที่น่าสนใจคือ มีภารกิจที่ชัดเจน คือเน้นกลุ่มเป้าหมายหลัก คือกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีความหลากหลาย

       "ที่เราตั้งใจมาเลือกพื้นที่เชียงราย เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีกลุ่มชาติพันธุ์ที่อยู่ทางภาคเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่มีบัตร ไม่มีสัญชาติ ตอนนั้น ก็คิดถึงเด็กไร้สัญชาติที่เราจะต้องทําการศึกษา ซึ่งมีปัญหาเรื่องการเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัย ระดับอุดมศึกษาเยอะมาก ปัจจุบันกฎหมายเปลี่ยนแล้ว เด็ก ๆ เยาวชนก็สามารถที่จะเรียนได้จนถึงปริญญาตรี ตอนนี้ เราจึงเน้นในกลุ่มชาติพันธุ์ ที่ไม่ค่อยมีโอกาสเข้าไปเรียนในระบบ แล้วเป็นการช่วยเหลือพ่อแม่ ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสิน พอเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว ไม่มีงานทําอีก มันก็จะมีปัญหา ก็เลยทำชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์ ที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์สําหรับคนชาติพันธุ์แถวลาว พม่า ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับ จ.เชียงราย รวมไปถึงเด็กเยาวชนชาติพันธุ์ที่มาจาก จ.แม่ฮ่องสอน จาก อ.แม่สอด อ.แม่ระมาด จ.ตาก จาก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ นอกจากนั้น ยังมีเยาวชนที่มาจาก จ.กาญจนบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่อยู่ตามรอยตะเข็บชายแดน ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ปกาเกอะญอ โดยเราจะเปิดรับสมัครเด็กที่เรียนจบชั้น ม.ปลาย เข้ามาเรียนต่อที่นี่"

 

เน้นชีวิตการอยู่รวมกลุ่ม เน้นชีวิตจิต ฝ่ายวิญญาณ

       พิมลแข ปัญญาฤทธิรงค์ ฝ่ายกิจการนักศึกษา ชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์ บอกว่า ชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์ จะเน้นชีวิตการอยู่รวมกลุ่ม และเน้นชีวิตจิต ฝ่ายวิญญาณ ซึ่งทางคณะเยสุอิต จะเน้นและถนัดในเรื่องนี้อยู่แล้ว

       "ชีวิตจิตก็คือ การดูจากตัวเอง ทํายังไงให้รู้จักตัวเองมากขึ้น แล้วก็การอยู่ร่วมกับคนอื่น ทํายังไงให้อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้  ขณะเดียวกัน ชีวิตเราก็เติบโตขึ้นทุก ๆ วัน และอีกอันหนึ่ง ก็คือเน้นเรื่องการศึกษา ก็ต้องไปควบคู่กันไป อย่างในปีนี้ มีนักศึกษาหลายคน ที่เรียนจบปี ๔ ซึ่งก่อนจบ เขาได้ไปฝึกงาน บางคนเรียนจบ ป.ตรี ก็มาขอทํางานในที่นี่ต่อเลย โดยทางคณะเยสุอิต ได้เห็นความสําคัญของการศึกษา ก็จะส่งเรียนต่อระดับ ป.โท ต่อไปด้วย"

       พิมลแข บอกว่า การจัดการศึกษาที่นี่ ก็มีความแตกต่างกับข้างนอก คือจะได้รับการดูแลเอาใจใส่จากผู้ใหญ่สูงมาก ก็คือเขาดูแลทุกอย่าง แต่ถ้าอยู่ข้างนอก นักศึกษาก็ต้องช่วยเหลือตัวเองหมดเลย ต้องดิ้นรนด้วยตัวเองทุกอย่าง แล้วการใช้ชีวิต  โลกข้างนอกมันจะต่างกันมาก ก็คือมีการแข่งขันสูง

       "แต่ถ้ามาเรียนที่ชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์แห่งนี้ ซึ่งมีทุกอย่างพร้อมสำหรับนักศึกษา ช่วยทำให้นักศึกษาไปโฟกัสในเรื่องการเรียนได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องพะวง เรื่องทำงานรับจ้าง หาเงิน ส่งตัวเองเรียนเหมือนกับข้างนอก"

 

มุมมองของนักศึกษา ชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์
ให้โอกาส เติมเต็มชีวิต ฝ่ายจิตวิญญาณ

       แดน-วัชรพล จะโม นักศึกษาปี ๔ และเพิ่งเรียนจบปริญญาตรี หมาด ๆ เล่าให้ฟังว่า ตนเองเป็นชาติพันธุ์ปกาเกอะญอ ภูมิลำเนามาจาก อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน หลังจากจบชั้น ม.๖ ตอนแรกตนเองอยากไปเรียนที่เชียงใหม่ แต่ด้วยสถานะทางการเงินของครอบครัวไม่พร้อมเท่าไหร่ พอดีมีรุ่นพี่ที่เมืองปายประมาณ ๓ คน มาเรียนที่นี่ เขาก็บอกว่าที่นี่ให้การศึกษาฟรี ทุกอย่างฟรี มีที่พักให้ฟรี จึงตัดสินใจมาเรียนที่นี่

       "มาเรียนตอนแรก ๆ นั้น ก็รู้สึกว่าเรียนยากเหมือนกัน เพราะว่าต้องสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ แต่ก็พยายามเรียน จนเรียนจบชั้นปี ๔ รูปแบบการเรียนการสอน ผมว่าแตกต่างกับที่อื่น เพราะเขาจะสอนให้เราอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม เนื่องจากพวกเรามาจากหลากหลายชาติพันธุ์ สอนให้เราทำงานร่วมกัน สอนให้เรามีความรับผิดชอบในตัวเอง มีกฎที่เราต้องเคารพแล้วก็ปฏิบัติร่วมกัน ผมมองว่า เรามีโอกาสเยอะกว่านักศึกษาข้างนอกนะ คือเราไม่ต้องกังวลเรื่องสถานที่พัก อาหารหรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ  สิ่งที่เราสู้อย่างเดียว ก็คือ การเรียน แต่ถ้าเปรียบเทียบกับนักศึกษาข้างนอกเขาต้องดิ้นรนต่อสู้ ต้องทำงานหาเงินมาเป็นค่าเทอม ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ผมจึงรู้สึกว่าโชคดีนะครับ ที่ได้มาเรียนร่วมกับเพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่นี่"

       แดน บอกอีกว่า หลังจากเรียนจบปริญญาตรี ก็อยากไปทำงานที่ตนเองชอบ โดยอยากนำความรู้ที่ได้เรียนมา คือ ภาษาอังกฤษ มาใช้ในการทำงานให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

       ยอด-ยศพัฒน์ สกุลญาดา เพิ่งเรียนจบปริญญาตรีมาหมาด ๆ บอกว่า ตนเองเป็นชาวปกาเกอะญอ จาก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ที่ตัดสินใจมาเรียนที่นี่ เนื่องจากสนใจเรื่องภาษาอังกฤษอยู่แล้ว

       "จุดเด่นของชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์ ก็คือ  สอนให้เราได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง คือถ้าเราอยู่ด้วยกันใช้ชีวิตอยู่กับผู้อื่นได้ แล้วพอไปอยู่ข้างนอก ไปอยู่กับสังคมข้างนอกได้สบาย ๆ ซึ่งนอกจาก ผมสนใจภาษาอังกฤษแล้ว ก็สนใจเรื่องอาหารด้วย ก็เลยมีความคิดว่า เรียนจบแล้ว จะไปทำงานอยู่ในร้านอาหารสักแห่งหนึ่งครับ"

       ใจ-อาใจ มาเยอะ เด็กหนุ่มชาติพันธุ์อาข่า จากชุมชนบ้านพญาละอู อ.เทิง จ.เชียงราย บอกเล่าว่า เขาเป็นเด็กทุนจากโรงเรียนคริสต์แห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย และมีอาจารย์ที่เคยทำงานอยู่โรงเรียน แล้วก็มาทำงานที่นี่แนะนำมา ครั้งแรกเข้ามาเรียนได้หนึ่งปี แต่ก็ขอดรอปพักเรียนไป เพราะอยากจะไปทำงานรับจ้างดูว่าจะไหวมั้ย แต่สุดท้าย ได้ตัดสินใจกลับเข้ามาเรียนต่อที่นี่อีกครั้งหนึ่ง

       "ช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผมทำงานอยู่ข้างนอก ผมมาเริ่มคิดดูว่า เราน่าจะไปได้ไกลกว่านี้ อีกอย่างเรามีความชอบเรื่องภาษาอังกฤษด้วยครับ แล้วผมคิดว่าเราก็ควรจะหาสิ่งแปลกใหม่ดู ก็เลยเปิดโอกาส กลับเข้ามาเรียนต่อ จนจบชั้นปริญญาตรีในปีนี้"

       ใจ บอกว่า สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือ ตนเองเป็นชาติพันธุ์ในเชียงราย ที่ยังไม่มีบัตร ไม่มีสัญชาติ ซึ่งตอนนี้ ก็ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการขอสัญชาติอยู่ แล้วมันมีกฎหมายของการทำบัตรที่ต้องระบุว่าจบระดับชั้นอะไร ก็เป็นแนวทางอีกเป้าหมายหนึ่ง ที่ทำให้ตนเองตัดสินใจมาศึกษาต่อ จนจบ ป.ตรี จะได้นำไปใช้ในการรองรับสิทธิตรงนี้ได้

       ชัยชนะ เล่าให้ฟังว่า ตนเองเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ปกาเกอะญอ หรือกะเหรี่ยง ซึ่งพ่อแม่อพยพหนีภัยสงครามจากฝั่งพม่า เข้ามาอยู่ในพื้นที่ จ.ตาก ตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ชัยชนะมาเกิดในฝั่งไทย แต่เนื่องจากช่วงวัยเด็ก พ่อแม่ไม่ได้ไปยื่นขอใบเกิด ก็เลยตกหล่น

       "ทุกวันนี้ ใช้ชื่อ ชัยชนะ แต่ไม่มีนามสกุลเหมือนคนอื่นเขา แต่ตามสิทธิทางกฎหมาย เมื่อผมเกิดในไทย ก็ย่อมมีสิทธิขอสัญชาติไทย ปัจจุบันกำลังยื่นขอสถานะทางกฎหมายอยู่ เพื่อจะให้กระบวนการขอยื่นสัญชาติไทยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผมจึงตัดสินใจมาเรียนที่นี่ เพื่อจะได้นำวุฒิ ป.ตรี ไปประกอบยืนยันการขอสัญชาติให้ถูกต้องและครบขั้นตอน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เผื่อมันติดขัดอะไร เราสามารถนำใบปริญญานี้ยื่นดำเนินการให้แล้วเสร็จเลย"

       ล่าสุด ชัยชนะ เรียนจบในระดับชั้นปริญญาตรีแล้ว พร้อมกับความหวัง ความใฝ่ฝันของชีวิต

       "ตอนนี้ ผมเรียนจบ ป.ตรีแล้ว วางอนาคตตัวเองไว้ว่า ถ้ามีโอกาสก็อยากไปทำงานที่ต่างประเทศ อยากจะทำอะไรให้กับชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่ตัวเอง แต่เพื่อครอบครัวของผมด้วย"

       ในขณะที่ คุกกี้-ภูริชญา สันติมโนกุล เยาวชนชาติพันธุ์ปกาเกอะญออีกคนหนึ่งที่มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เธอเล่าให้ฟังว่า ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจว่าจะมาเรียนต่อที่นี่ คงเหมือนเด็กทั่วไปที่เรียนหนังสือ เลิกเรียนแล้วก็ไปเรียนพิเศษ เพื่อที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย อยากเรียนมหาวิทยาลัยกับเพื่อน ๆ ซึ่งเราก็คิดแบบนี้ ตามเทรนด์ของนักเรียนทั่วไป

       "แต่หนูเริ่มมีความรู้สึกว่า ระบบการศึกษาไทย ทำไมเราต้องสอบทีแคส เราสอบนู่นนี่นั่น เอาคนทุกคนมาวัดด้วยข้อสอบที่มันเหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่แต่ละคนมีศักยภาพไม่เหมือนกัน ณ ตอนนั้นรู้สึกต่อต้านระบบ คือมันไม่แฟร์ เพราะว่าเด็กแต่ละคนมีศักยภาพที่ต่างกัน แต่คุณใช้ข้อสอบชุดเดียวในการตัดสินเด็ก พอได้มารู้จักชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์ ตอนแรกก็ไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับที่นี่ แต่ว่าหนูศึกษาเกี่ยวกับบาทหลวงเยสุอิตที่นี่ หนูก็รู้สึกว่าโอเคเลยตัดสินใจเรียนที่นี่ เพราะว่าภาษาอังกฤษมันก็มีความสำคัญ แล้วครอบครัวหนูก็ไม่ได้รวยขนาดที่จะส่งเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษแบบโรงเรียนอินเตอร์ซึ่งแพงมาก คิดว่าตรงนี้ได้ช่วยในเรื่องของค่าใช้จ่ายด้วย"

       คุกกี้ มองระบบการศึกษาไทยว่า การศึกษาไทย เหมือนเขาพยายามจะสร้างให้เด็กเรียนจบมา แล้วได้ทำงานได้อาชีพ ได้งานดี ๆ แต่การศึกษาไทยไม่ได้สร้างเด็กให้มีความคิดที่มีความคิดสร้างสรรค์ หรือคิดริเริ่มอะไรเลย

       "คุณเป็นวิศวะ คุณเป็นหมอ คนสอบติดข้าราชการ ถือว่าคุณเป็นคนเก่ง  แล้วอาชีพอื่นล่ะ ฟรีแลนซ์ล่ะทำไมคุณไม่ยอมรับ นี่คือความรู้สึกส่วนตัวหนู จึงตัดสินใจมาเรียนที่นี่ และอีกอย่างที่เราเห็นก็คือ ชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์ นั้นเปิดโอกาสให้กับกลุ่มชาติพันธุ์ หนูรู้สึกมาที่นี่แล้วประทับใจก็คือ ทางคณะเยสุอิต เขาค่อนข้างที่จะโฟกัสในเรื่องของสิทธิของความเป็นมนุษย์ ถึงแม้ว่าคุณจะมาจากชาติพันธุ์ คุณจะมาอย่างนี้ คุณจะมีบัตร หรือไม่มีบัตร คือตรงนี้ไม่มีเลย ทุกคนเท่ากัน สิทธิของมนุษย์คือเท่าเทียมกัน คุณพ่อจะย้ำตลอด สิทธิของเรา เราต้องเคารพสิทธิของคนอื่น ในเรื่องของความเป็นมนุษย์ที่มีศักดิ์ศรี ทำให้หนูประทับใจ กับการศึกษาที่นี่ ว่านี่แหละ มันสร้างคนให้เป็นคนจริง ๆ ไม่ใช่แค่การศึกษาตามระบบ จบมาไปทำงาน แต่คุณจะไปเป็นคนที่สมบูรณ์ยังไง"

       ปัจจุบัน คุกกี้เรียนจบระดับชั้นปริญญาตรี และตัดสินใจทำงานในชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์ โดยทางคณะเยสุอิต มอบทุนสำหรับศึกษาต่อในระดับปริญญาโทไปด้วย

       บาทหลวงวินัย กล่าวว่า ชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์ เราอยู่กันแบบบ้าน แบบครอบครัว ก็มีตารางสอน มีตารางเรียน แต่เรามีการฝึกฝนทั้งชีวิต ต้องทํางานร่วมกัน การทําเป็นชุมชนการเรียนรู้ ก็ต้องเรียนรู้ด้วยกัน หาโอกาสให้เขาได้เรียน ตามสิ่งที่เขาชอบ แล้วก็ค่อย ๆ ดูโดยหลักการการศึกษาที่สอดคล้องกับคําสอนของทางเยสุอิต

       "เรามีข้อปฏิบัติเรื่องหนึ่ง คือใช้หลักของการอบรมทางศาสนา ให้เป็นแนวทางในการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของชีวิตที่นอกเหนือจากชีวิต คือการพัฒนาทางด้านจิตวิญญาณ และต้องให้เขามีโอกาสในการเดินร่วมกับคนยากคนจน ต้องไปสัมผัสคนยากคนจน ไม่ดูถูกความจน ความจนคือสิ่งที่เรียนรู้ เพราะฉะนั้น ปีแรก เราบอกว่าจะต้องเรียนรู้ ก็คือเหมือนกับถอดรหัสที่ติดกับชีวิตของเขา ให้เขามั่นใจ เห็นคุณค่าในตัวตน แล้วเมื่อเห็นคุณค่าในตัวตน สิ่งอื่นมันก็ค่อย ๆ ขยับ ผมคิดว่า เพราะบางทีในสังคมใหญ่ที่เขาเข้าไปอยู่นั้น มันเป็นพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัยทางวัฒนธรรม ของความเป็นตัวตนของเขา"

       นอกจากนี้ บาทหลวงวินัย ยังสะท้อนว่า การศึกษาในระบบ ที่ผ่านมานั้นชอบด้อยค่ากลุ่มชาติพันธุ์ ทำให้พวกเขาสูญเสียตัวตน ตอนที่เด็ก ๆ เรียนในระบบ เขากลายเป็นคนแปลกหรือว่าถูกมองเป็นเหมือนกับผู้ถูกปฏิบัติแบบนั้นมาตลอด ตั้งแต่สมัยโรงเรียน เขาไม่มีความมั่นใจที่จะเรียนในระบบมากนัก และต้องต่อสู้ในใจเล็ก ๆ จนทำให้จิตใจเกิดความฮึกเหิมและนำไปสู่ความรุนแรง เวลาเขามาอยู่ที่นี่ พวกเขาล้วนเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ต่างวัฒนธรรมกันหมด เราก็พยายามที่จะให้เขาเรียนรู้จากที่นี่ แล้วก็ใช้วัฒนธรรมการอยู่ร่วมกัน ตรงนี้ถือว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัยของการเรียน

       "เพราะผมคิดว่า บางที น้อง ๆ จากกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ที่ลงไปเรียนในระบบ แล้วไม่ค่อยประสบความสําเร็จ อันหนึ่งก็คือ เขาหงอตั้งแต่เข้าไปในห้องแล้ว เขารู้สึกถูกมองเวลาออกมาพูดที่สาธารณะ พูดภาษาไทยไม่เหมือนคนอื่นเขา ก็คือเสียกําลังใจไปครึ่งหนึ่งแล้ว  มันก็เรียนยากนะ เรียนรู้ยาก แต่พอมาเรียนอยู่ในชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์แห่งนี้ เขามีพื้นที่ปลอดภัยพอสมควร ถ้าพูดอย่างง่าย ๆ ก็คือ พูดภาษาไทยไม่ชัดเหรอ? ทุกคนก็ไม่ชัดเหมือนกันหมด ซึ่งจริง ๆ แล้ว คนมาจากอีสาน คนมาจากที่อื่น ๆ มันก็แตกต่างกันไป คนมักจะมีสําเนียงที่ต่างกัน เราก็พยายามละลายความรู้สึกด้อยค่าของตนในเรื่องนี้ก่อน แล้วก็ค่อย ๆ เสริมในสิ่งที่เขาต้องเรียนรู้ เพราะที่นี่เป็นชุมชนที่จะต้องช่วยเหลือกัน ไม่มีการแข่งขัน"

 

วุฒิการศึกษา คือใบเบิกทาง
แต่ประสบการณ์ที่แท้ คือการเรียนรู้ชีวิตจิตวิญญาณ

       บาทหลวงวินัย บอกว่า เนื่องจากชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์ ยังไม่ได้เป็นวิทยาลัยอย่างสมบูรณ์ เพราะกำลังอยู่ในกระบวนการจัดตั้ง เราจึงไม่สามารถมอบวุฒิการศึกษาหรือปริญญาให้กับนักศึกษาของเราได้ ดังนั้น ณ ขณะนี้ ทางชุมชน จึงให้นักศึกษาเรียนหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) ควบคู่ไปด้วย เพื่อจะได้รับปริญญาตรี เอกภาษาอังกฤษ

       "นอกจากนั้น ที่ผ่านมา เรายังทำงานร่วมกับ มหาวิทยาลัยในเครือข่ายของเยสุอิต จากอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย มาช่วยกันจัดการเรียนการสอนให้ด้วย ทำให้เขามีโอกาสในการฝึกฝนกับอาสาสมัครเครือข่ายและได้ความเป็นเพื่อน มีเพื่อนที่สามารถพูดภาษาอื่นได้ด้วย มันจะทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในเด็กเหล่านี้ สมมุติเราพูดภาษาไทยได้ไม่ชัด แต่เขาสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดี ก็จะทำให้เกิดการสร้างพลังภายในให้เขาได้เห็นพลังคุณค่าของตนเอง ว่าเขาก็ทําได้นะ ก็เป็นการศึกษาเชิงการเปลี่ยนแปลงของแต่ละบุคคลไปด้วย"

       ล่าสุด ในปี ค.ศ. ๒๐๒๓ นี้ ทางชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์ได้ร่วมมือกับวิทยาลัยแสงธรรม โดยยกชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์ เป็นวิทยาเขต เพื่อให้นักศึกษาได้รับปริญญาบัตรอีกหนึ่งใบ จากวิทยาลัยแสงธรรมด้วย ซึ่งวิทยาลัยแสงธรรมเป็นวิทยาลัยที่ผลิตบุคลากรมากมายในพระศาสนจักรไทย โดยมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "วิทยาลัยแสงธรรม วิทยาเขตเซเวียร์" โดยพวกเราหวังว่า ในอนาคตชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์จะได้เป็นมหาวิทยาลัยด้วย

       "รูปแบบการเรียนการสอน ส่วนหนึ่งในการเรียน เราก็ต้องทําให้สอดคล้องกับหลักสูตรของรัฐบาล คือ มีหลักสูตรภาษาอังกฤษ เป็นพื้นฐาน หลักสูตรปริญญาตรี ซึ่งกำลังเปิดหลักสูตรใหม่ เป็นวิทยาเขตใหม่ ให้กับน้อง ๆ เยาวชนที่มาเรียนที่นี่ได้เรียนกันต่อไป เราก็คงไม่ต้องไปพึ่ง มสธ. มากเกินไป"

 

การศึกษาทางเลือก คือหนทางออก

       บาทหลวงวินัย บอกว่า การปฏิรูปการศึกษาไทย มีความจําเป็นอย่างยิ่ง และมองว่าการศึกษาทางเลือกนั้นสำคัญกว่า จะทำให้คนคิดได้กว้างกว่า

       "เพราะดูเหมือนว่าการศึกษาในระบบที่ผ่านมา เราถูกบังคับให้เชื่อให้คิดตามนั้น แต่การศึกษาทางเลือกนั้นก็คือ อาชีพในอนาคตของพวกเขา จะต้องกลับไปสร้างงานในชุมชนมากกว่าจะไปอาศัยงานในระบบ งานที่เป็นของบริษัทอย่างนี้ มันก็ไม่ได้เป็นอิสระแก่ตนเสมอตลอดไป ดังนั้น น่าจะให้ทางเลือกทางการศึกษาที่เน้นให้ทุกคนสามารถทํามาหากินได้อย่างสุจริต ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่เห็นแก่สังคม ตอนนี้การศึกษายุคนี้ ข้อมูลต่าง ๆ ที่เราเคยสอน ทุกคนก็สามารถที่จะหาในสื่อต่าง ๆ ได้เยอะ ได้ทันที เร็วกว่าเราด้วย เพราะฉะนั้น เราจะทำข้อมูลเหล่านี้ให้กลายเป็นปัญญาได้ยังไง  แน่นอน ข้อมูลมันสามารถที่จะเสิร์ชได้ทันที แต่การฝึกชีวิตนี่มันต้องใช้เวลาเยอะ ว่าเราจะนำไปดํารงชีวิตได้อย่างไร จะสําคัญมากกว่า"

       กระบวนการปรับเปลี่ยนชีวิต คือการศึกษาในสิ่งที่เป็นแก่นแท้ของชีวิต

       "ผมก็คิดว่า กระบวนการปรับเปลี่ยนชีวิต จากสิ่งที่เราไม่รู้เป็นอคติบางอย่างของชีวิต  มาเป็นการศึกษาในสิ่งที่เป็นแก่นแท้ของชีวิตมากกว่า และเกิดความคิดได้เอง ดังนั้น การศึกษาแบบอยู่ร่วมกัน มันจะทําให้เกิดความสว่างบางอย่าง เรียนรู้บางอย่าง เสร็จแล้วก่อเกิดพลังเปลี่ยนแปลงภายใน"

 

ย้ำปฏิรูปการศึกษา เพื่อเปลี่ยนแปลงตน ผู้อื่น สังคม และประเทศชาติ

       บาทหลวงวินัย ย้ำว่า ที่จำเป็นต้องปฏิรูปการศึกษากัน เพราะว่าตอนนี้ การศึกษาที่เรามีอยู่เป็นเพียงการตอกย้ำ แล้วก็สร้างความชอบธรรม ให้กับระบบบางอย่าง เป็นระบบการศึกษาที่ทําให้คนอื่นมีอํานาจมากขึ้น มันทําให้เกิดสังคมไทยที่ทับซ้อนกัน  คือ ไม่ต้องรู้จริง เพียงแค่ไปเรียนในระบบบางอย่าง เป็นการสร้างเครือข่ายของตนเอง สร้างเส้นสาย  สร้างอํานาจ เป็นการศึกษาที่สร้างมนุษย์ที่ไม่ได้เป็นการช่วยเหลือคนอื่น

        "เราจำต้องปฏิรูปการศึกษา เพื่อจะได้เปลี่ยนแปลงคน คนจะต้องเป็นคนเพื่อผู้อื่น คนที่เห็นแก่สังคม คนที่เห็นแก่คนอื่น ๆ  ก็อยากให้เป็นเหมือนต้นไม้ ให้คิดเหมือนกับว่า เราจะปลูกต้นไม้สักต้นหนึ่ง ให้กิ่งก้านใบของเขาทั้งหลาย ให้ออกซิเจน ให้ชีวิตแก่คนอื่น ไม่ใช่การศึกษาเพื่อการเห็นแก่ตัว หรือเป็นการศึกษาเพื่อการเสริมสร้างอํานาจบารมีของตน หรือการศึกษาเพื่อมาตอกย้ำความเป็นชนชั้นเกินไป หรือการศึกษาที่จะทําให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบกันมากขึ้น แข่งขันจนไม่มีพื้นที่ให้กับคนอื่นเลย ดังนั้น การศึกษาที่ดีจะต้องไม่เห็นแก่ตัว ไม่ใช่ว่าคนอ่อนแอจะไม่มีพื้นที่ชีวิตของตนเอง ที่สำคัญ การศึกษานั้นจะต้องสร้างคนที่ดี ทําให้เกิดความคิดเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เพราะว่า การศึกษาที่เป็นประชาธิปไตย ก็คือการเคารพสิทธิของคนอื่น การช่วยเหลือคนอื่นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนที่ด้อยโอกาส"

 

 

       ชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์ เปิดรับสมัครน้อง ๆ เยาวชนชาติพันธุ์จากภาคเหนือและทั่วประเทศ รวมทั้งเยาวชนชาติพันธุ์จากประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีความสนใจเรียนต่อระดับปริญญาตรี เอกภาษาอังกฤษ โดยคุณสมบัติของผู้สมัคร ต้องเป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ หรือจบการศึกษาชั้น ม.๖ หรือเทียบเท่ามาแล้ว ไม่จำกัดเพศ รับทั้งหญิงและชาย จำนวน ๔๐ คน/รุ่น โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายกลุ่มชาติพันธุ์ ที่มีความสนใจในการเรียนต่อและขาดโอกาสทางการศึกษา ทางบ้านมีฐานะยากจน ได้เข้ามาเรียนและพักอยู่ที่นี่ตลอด หลักสูตร ๔ ปี

       ปัจจุบัน ชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์ ได้ร่วมมือกับวิทยาลัยแสงธรรมในการเป็นวิทยาเขต เพื่อให้นักศึกษาได้รับปริญญาบัตรอีกหนึ่งใบจากวิทยาลัยแสงธรรมด้วย ซึ่งวิทยาลัยแสงธรรมเป็นวิทยาลัยที่ผลิตบุคลากรมากมายในพระศาสนจักรไทย โดยชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์ได้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "วิทยาลัยแสงธรรม วิทยาเขตเซเวียร์"  โดยในอนาคตชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์จะได้เป็นมหาวิทยาลัยอย่างเต็มรูปแบบต่อไป

       สนใจ สอบถามข้อมูล สมัครเรียน หรือร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้ที่ ชุมชนการเรียนรู้เซเวียร์ สถานที่ตั้ง ๒๑๙ หมู่ ๘ ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน จ.เชียงราย ๕๗๑๑๐ เบอร์โทรศัพท์ ๐ ๕๒๐๒ ๐๑๘๓ หรือติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.jesuits-thailand.org หรือเพจ FB: xavierlearningcommunity

 
 

ความคิดเห็น

เขียนความคิดเห็น
ชื่อ:
หัวเรื่อง:
BBCode:Web AddressEmail AddressBold TextItalic TextUnderlined TextQuoteCodeOpen ListList ItemClose List
ความคิดเห็น:



รหัส:* Code

Powered by AkoComment 2.0!

< ก่อนหน้า   ถัดไป >