มีวันหนึ่งฉันเดินทางเพื่อเข้าป่า
ออกเดินทางเรียนรู้ในพงไพร
ฉันเดินทางไปถึงภูลูกหนึ่ง
มีรถจักรวิ่งตะบันทิ่มไม่ถอย
จากภูเขาที่งามเด่นมีไม้ต้น
ภูลูกนี้คงอยู่ได้อีกไม่นาน
ภูถัดมามีไม้เหี่ยวเขียวเหลือน้อย
ป่าไม่เหลือความเขียวดูเดียวดาย
ถัดมาอีกเจอป่าเขียวชอุ่ม
ป่าผ่านมาดูแห้งแล้งแลเดียวดาย
เขาบอกว่าที่ผ่านมาดูแห้งเหี่ยว
ด้วยป่าไม้มีหลากหลายนานาพันธุ์
ที่เราอยู่ตรงนี้เรียก "ดิบเขา"
มีไม้เล็กไม้ใหญ่คอยค้ำจูง
ฉันเลยอ๋อเสียงดังเข้าใจแล้ว
ป่าคือบ้าน คือชีวิต ลมหายใจ
มาวันนี้ขอโทษทีฉันลืมบอก
มากับพี่จงดี พี่สุนทร
มาวันนี้มางานดีกองบุญข้าว
ทั้งแตกต่างด้วยเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย
เธอกับฉันแม้ต่างกันด้วยภาษา
ฉันก็คนเธอก็คนเหมือนเหมือนกัน
มาวันนี้มางานดีกองบุญข้าว
ไปเชียงใหม่ บ้านผาหมอน ยังคอยเรา
ชาวบ้านกล่าว ว่าข้าว
คือ ชีวิต
สองครอบครัว สามพี่น้องเพื่อนผองไท
เขาว่าห้าเอาไว้เพื่อบวชลูก
เจ็ดเพื่อแลกแก้วแหวนเงินทองใช้
สุดท้ายนี้
คือ เก้า เขาบอกว่า
ที่กล่าวมา ข้าวไม่เพียงเป็นของกิน
|
ออกตามหาท้องฟ้าที่สดใส
ต้นไม้ใหญ่ชวนหลงใหลให้น่ามอง
ภูที่ซึ่งผอมแห้งเรี่ยวแรงน้อย
เพื่อใช้สอยจึงต้องหั่นพังทำลาย
เหลือแต่ฝุ่นฟุ้งขาวโพลนทำลายบ้าน
หากคนผลาญทำลายไม่หยุดมือ
ใบไม้คล้อยร่วงหล่นต่ำพลันใจหาย
เหลือเพียงกิ่งเพียงกายค้ำตนเอง
ฉันเลยกุมขมับชวนสงสัย
จึงถามทายพี่ชายมาด้วยกัน
อยากให้เหลียวมองป่าอีกสักครั้ง
ผ่านมานั้น "เบญจพรรณ" จำจงดี
มีไม้หนาว ไม้กอ
แลที่สูง
ป่าเกื้อหนุนคนอาศัยได้ร่มเย็น
พร้อมตาแป๋วตั้งใจฟังคลายสงสัย
ที่ใครใครก็ต่างต้องดูแล
มาแม่เหาะ แม่สะเรียง
แม่ฮ่องสอน
ที่คอยบอกคอยสอนตลอดทาง
มีเรื่องเล่าวัฒนธรรมอันหลากหลาย
สมุนไพร
อาหารป่า นานาพันธุ์
แต่คุณค่าความเป็นคนเธอเท่าฉัน
สุขกว่านั้นคือการได้พบเจอ
วันรุ่งเช้าออกเดินทางข้ามภูเขา
ถึงตอนเช้าร่วมแห่เดินเพลินอุรา
หนึ่งอุทิศให้ตัวเองเร่งเติบใหญ่
สี่ยากไร้ขาดแคลนแหล่งทำกิน
หกเพื่อสุขของคนสังคมใหม่
แปดสร้างใหม่ให้ชุมชนอยู่ร่มเย็น
เพื่อตัวข้าตายไปวันสูญสิ้น
แต่ช่วยสร้างทุกชีวินให้เติบโต
|