หน้าหลัก
หน้าหลัก
รู้จักยส
อยู่กับปวงประชา
ข่าวย้อนหลัง
เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน
ผู้ไถ่ : รายงานสถานการณ์
การศึกษาเพื่อสิทธิ&สันติภาพ
สื่อสิ่งพิมพ์ ยส.
มุมมองสิทธิฯ ในหนัง
กิจกรรม ยส.
คลังภาพ ยส.
เว็บบอร์ด ยส.
เว็บเพื่อนบ้าน
Facebook ยส.

ยส. (ยุติธรรมและสันติ)

จำนวนผู้เข้าชม
ขณะนี้มี 79 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

คลิก เขียนสมุดเยี่ยมคลิก เขียนสมุดเยี่ยม
ขอบคุณทุกท่าน
ที่แวะเข้ามาค่ะ

แนะนำสื่อ ฉบับล่าสุด


วารสารผู้ไถ่ ฉบับที่ 123: ชีวิต การต่อสู้ เพื่อความดีของกันและกัน กำลังใจ ความรัก และความหวัง
 วารสารผู้ไถ่
ฉบับที่ 123


วันสันติสากล 1 มกราคม 2024
 สารวันสันติสากล
1 มกราคม 2024
ปัญญาประดิษฐ์
และสันติภาพ


น้ำแห่งชีวิต (Aqua fons vitae)
 น้ำแห่งชีวิต
(Aqua fons vitae)
สมณกระทรวงเพื่อ
ส่งเสริมการพัฒนา
มนุษย์แบบองค์รวม


สมณลิขิตเตือนใจ...แอมะซอนที่รัก (QUERIDA AMAZONIA)
 แอมะซอนที่รัก
(QUERIDA AMAZONIA)
สมณลิขิตเตือนใจ...
ของสมเด็จ-
พระสันตะปาปาฟรังซิส


จงสรรเสริญพระเจ้า... การก้าวออกไปอย่างต่อเนื่องของเอเชีย
หนังสือแปล
จงสรรเสริญพระเจ้า...
การก้าวออกไป
อย่างต่อเนื่องของเอเชีย


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 2 และ3
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร
ภาคที่ 2 และ3
 


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 1
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร ภาคที่ 1



หนังสือ Jesus CEO :  พระเยซูเจ้า นักบริหารชั้นนำ
หนังสือแปล
Jesus CEO :
พระเยซูเจ้า
นักบริหารชั้นนำ



หนังสือ เส้นทางสู่สิทธิมนุษยชนศึกษา
หนังสือ เส้นทางสู่
สิทธิมนุษยชนศึกษา


พระสมณสาสน์ความรักในความจริง : Caritas in Veritate
หนังสือแปล
Caritas in Veritate :

พระสมณสาสน์
ความรักในความจริง



โปสเตอร์ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ พ.ศ.2532
โปสเตอร์
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
แห่งสหประชาชาติ
พ.ศ.2532


เว็บเพื่อนบ้าน

แวดวงต่างประเทศ

Pax Christi International - PCI

ACPP - Hotline Asia


ดูเว็บอื่นๆ ในหมวด

เว็บน่าสนใจ

เว็บด้านสิทธิฯ

ข่าวสาร/บันเทิง

หน่วยงานองค์กรคาทอลิก


คุณพ่อสุวัฒน์ เหลืองสอาด "งานแพร่ธรรมคือการพัฒนามนุษย์ให้มีศักดิ์ศรี" พิมพ์
Wednesday, 14 October 2015

คุณพ่อสุวัฒน์ เหลืองสอาด

"งานแพร่ธรรม คือ การพัฒนามนุษย์ให้มีศักดิ์ศรี"

วรพจน์ สิงหา สัมภาษณ์

Image 

ทุกครั้งที่มีโอกาสคุยกับ "พ่อเผือก" หรือ "คุณพ่อสุวัฒน์ เหลืองสอาด" ในประเด็นการทำงานของศูนย์สังคมพัฒนา สังฆมณฑลสุราษฎร์ธานี มักจะมี "ความคิด" หลายอย่างนอกเหนือจากต้นฉบับอยู่เสมอ

ครั้งนี้ก็เช่นกันที่มีหลายประเด็นระหว่างการพูดคุยกันที่ทำให้เราได้ย้อนมองตนเองกันอีกครั้งว่า ...คาทอลิกเรากำลังทำอะไร? เรากำลังเดินหลงทางไปบ้างหรือไม่?และการแพร่ธรรมที่แท้จริงเป็นเช่นใด?

พ่อเผือกบอกไว้ตอนหนึ่งว่า "คาทอลิกอยู่ในแวดวงคนชั้นกลางถึงสูง ถ้าเราลงมาช่วยคนจน เราจะลงมาเพียงเป็นครั้งเป็นคราว เหมือนคุณหญิงคุณนายที่มีเงินแล้วมาบริจาค ลงมาสัมผัสเป็นครั้งคราว แต่เราไม่ได้คลุกคลี อยู่กับชุมชนที่เป็นคนพื้นล่างจริงๆ"

  Image

                             ภาพ : www.firstcovers.com                              

"พระศาสนจักรเราโตมาจากคนจน เราเริ่มมาจากมิชชันนารีที่ช่วยเหลือคนจน แต่ทีนี้พอโรงเรียนของเราเริ่มเป็นที่นิยม คาทอลิกเริ่มร่ำรวยขึ้น คำถามคือว่าเราจะเริ่มเดินออกจากบ้านสวยๆ ที่เราสร้างไว้ ออกมาข้างนอกบ้างหรือเปล่า ออกมาอยู่กับคนจนบ้างไหม ตรงนี้เป็นคำถามท้าทายเพราะเราเริ่มสบาย แต่พ่อไม่ได้บอกว่าเราจะไม่ต้องอยู่สบาย ก็อยู่ได้ แต่ลงมาด้วย อย่างน้อยให้พอเหมาะพอควร บางทีเราก็เอามาตรฐานของเรา ที่เป็นมาตรฐานแบบคนชั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไม้สอย ไม่เหมือนคนธรรมดา เรากลายเป็นต้องมีชีวิตอีกแบบหนึ่ง"

"เรามักจะมองว่าคนจนไม่มีเงิน เราก็แค่ให้เงิน แต่เราไม่ได้คิดว่าการพัฒนาคนไม่ใช่เพียงเรื่องเศรษฐกิจ แต่เป็นเรื่องศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ตรงนี้เป็นหัวใจของการพัฒนา โรงเรียนก็เหมือนกัน ไม่ใช่แค่พัฒนาให้เด็กเป็นคนเก่ง ควรพัฒนาศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเขาด้วย แต่เราไม่ได้สนใจเลย เราไปสนใจหลักสูตร สนใจจะต้องตอบ สมศ. ซึ่งก็จำเป็น แต่เราไม่ได้ตั้งจากฐานของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตรงนี้ทำให้โรงเรียนคาทอลิกออกไปในแนวธุรกิจมากเกินไป"

"เข้าใจว่าโรงเรียนต้องมีรายได้ แต่เราต้องตอบคำถามเรื่องศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เพราะนี่คือคำสอนของเรา เพราะพระเจ้าสร้างมนุษย์มาให้มีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เรามีหน้าที่ในการร่วมงานกับพระองค์ในการพัฒนาให้มนุษย์มีศักดิ์ศรี และเคารพซึ่งกันและกัน"


หน้าที่ของ "ศาสนา" คือการทำให้สังคมดีขึ้น

Image
    ภาพ : artteacherchronicles.blogspot.com   

พ่อเผือกบอกว่าหลายครั้งที่คาทอลิกเราลงไปช่วยเหลือคนอื่น เรามักจะคิดว่าทุกอย่างที่เราคิดจะต้องดีสำหรับเขา ซึ่งในความเป็นจริงสิ่งที่เราคิดอาจจะไม่ดีสำหรับชาวบ้านก็เป็นได้ "คือเหมือนเรามีมาตรฐานการทำดีมาแบบนี้ ถูกอบรมมาแบบนี้ ซึ่งสิ่งนี้น่ากลัว พอลงไปทำงานกับคนจนหรือคนที่เขาอยู่ในบริบทอีกแบบหนึ่ง เราก็บอกเขาว่า ผมให้คุณทำอย่างนี้อย่างนั้น ทำไมคุณไม่เอา คือคิดว่าเราดี แต่ความดีของเรา ก็เป็นของเรา ไม่เกี่ยวกับเขา คนต้องพัฒนาความดีงามจากตัวตนของตัวเอง จากบริบทของชุมชนตัวเอง คนเราต้องพัฒนาจากภายในของเราเอง เพราะฉะนั้นสิ่งที่เรามักจะทำก็คือว่า ฉันดีแบบนี้แล้วคนอื่นจะต้องดีแบบนี้ด้วย อันนี้เป็นทัศนคติที่อันตราย เราคิดว่าเรามีเจตนาดี แต่อาจจะไม่ดีสำหรับคนอื่น"

"เราต้องถามตัวเองว่าฐานของเราอยู่ที่ไหน รากที่แท้จริงของพระศาสนจักรคาทอลิกคืออะไร ถ้าเราบอกว่าพระศาสนจักรคาทอลิกมีหน้าที่แพร่ธรรมประกาศข่าวดี และพูดถึงการแพร่ธรรมแบบลอยๆ คำพูดเหล่านี้ไม่ได้แตะเลยว่าพระเจ้าสร้างมนุษย์ให้มีศักดิ์ศรี เพราะฉะนั้นงานแพร่ธรรมของเราคือการพัฒนามนุษย์ให้มีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์"

"หน้าที่ของเรา หน่วยงานศาสนาเราไม่ใช่ธุรกิจที่จะต้องทำเพื่อผลประโยชน์ของใคร หน้าที่ของเราต้องทำตามจิตตารมณ์ แล้วจิตตารมณ์ของเราคืออะไร เราต้องชัดเจน การทำเพื่อสังคมไม่ใช่เรื่องเงินเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการทำให้สังคมดีขึ้นด้วยการทำงานของเรา"

"ถ้าเรายังไม่สามารถแตะตรงนี้ได้ การแพร่ธรรมประกาศข่าวดีของเราก็แค่เอาพระวรสารไปให้คนอ่าน จัดบอร์ดพระคัมภีร์ให้เด็กที่ไม่นับถือศาสนาคาทอลิกได้ดู มีพิธีกรรม มีมิสซา ให้เด็กเข้าร่วม ก็เป็นแค่ความรู้เท่านั้น"

"มันต้องออกมาจากการปฏิบัติว่าคาทอลิกเราเคารพศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ให้ความหมายของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างไร เราก็วัดแค่กิจกรรมแบบที่กล่าวมา เหมือนเราทุ่มเงินจำนวนมหาศาลกับดอกไม้ไฟ จัดอีเว้นต์ใหญ่ๆ แล้วก็เหมือนเดิม เราทุ่มเงินกับแบบนี้ แล้วเราก็บอกว่าฉันทำแล้ว สบายใจ แต่เราไม่ได้ให้ความสำคัญว่าจริงๆ รากฐานการศึกษาคาทอลิกของเรา หรือแม้กระทั่งรากฐานการแพร่ธรรมของเรา เริ่มจากพระเจ้าสร้างมนุษย์ให้มีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ต้องย้อนกลับไปที่นั่น และจริงๆ งานด้านสังคมเริ่มจากตรงนี้ เริ่มจากการพัฒนามนุษย์ให้มีศักดิ์ศรี คนจนเขามีศักดิ์ศรี ไม่ใช่แค่เขาไม่มีเงิน เลยไม่มีศักดิ์ศรี แต่เขาถูกลดศักดิ์ศรี เขาถูกดูหมิ่น ก็ต้องดึงเขาขึ้นมาให้มีศักดิ์ศรี"


พระศาสนจักรคาทอลิกคือพระศาสนจักรเพื่อคนยากจน

Imageพ่อเผือกบอกว่าโรงเรียนคาทอลิกอาจจะให้ความสำคัญกับชื่อเสียงหรือรางวัลต่างๆ มากเกินไป"ในโรงเรียนคาทอลิกเราทำอย่างไรให้เกิดกลไกหรือมิติของการเคารพศักดิ์ศรีซึ่งกันและกัน ให้เด็กตระหนักในศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์ซึ่งกันและกัน ซึ่งเราไปเน้นแค่การจัดบอร์ดพระคัมภีร์หรือจัดกิจกรรมวันพระคัมภีร์"

"และเราก็หลงอยู่กับสิ่งเหล่านี้ว่าโรงเรียนได้รางวัลอะไรต่างๆ ซึ่งก็เข้าใจ เพราะถูกกดดัน เราไม่ได้ตัดสิน แต่มันใช่สิ่งเหล่านี้หรือเปล่า มันถึงเวลาที่เราต้องทบทวนหรือยังว่าสิ่งที่เราควรจะทำจริงๆ คืออะไร เราให้ความสำคัญกับชื่อเสียงโรงเรียนมากกว่าตัวเด็ก เราอยากให้โรงเรียนผ่านการตรวจในแบบต่างๆ แต่เราละเลยศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เราต้องพัฒนาขึ้นมา"

"ถ้าเราสนใจในเรื่องการพัฒนาศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เราจะไม่สนใจว่าเด็กของเราเข้ามหาวิทยาลัยได้กี่คน เด็กของเราจะสอบแข่งแล้วได้รางวัล ชนะโรงเรียนอื่น ไม่ใช่ตรงนั้น ซึ่งก็รู้ว่ามันยาก คงจะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ แล้วเราก็วัดความสำเร็จของโรงเรียนจากจำนวนเด็กที่เข้ามหาวิทยาลัย แต่ทำไมเราไม่วัดความสำเร็จของโรงเรียนจากเด็กที่เกเร พ่อแม่ไม่เอาใจใส่ ครอบครัวแตกแยก พอเข้ามาในโรงเรียนคาทอลิกเราแล้วพฤติกรรมดีขึ้น ซึ่งในความเป็นจริง ถ้าเกิดกรณีแบบนี้ เราก็เอาเด็กแบบนี้ออกจากโรงเรียน เพราะว่าไม่เข้าพวกกับโรงเรียนที่เป็นโรงเรียนเก่งและดีอย่างของเรา"

"เราไปคิดแค่ว่าเด็กเข้ามหาวิทยาลัยได้กี่คน ส่งประกวดวงโยธวาทิตได้ชนะอะไรต่างๆ บางคนก็บอกว่าพ่อไม่ได้ทำโรงเรียน ไม่รู้หรอก เขาบอกว่านี่เป็นสิ่งที่ผู้ปกครองเขาต้องการ เอาลูกเข้าโรงเรียนเขาก็ดูว่าโรงเรียนมีชื่อเสียงไหม อาคารสถานที่ดีไหม ชนะที่ไหนบ้าง เข้ามหาวิทยาลัยได้หรือเปล่า กลายเป็นว่าโรงเรียนของเราเป็นเครื่องมือของกระแสสังคมแบบสมัยใหม่ คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป เทคโนโลยีสมัยใหม่ โรงเรียนคาทอลิกของเรามีหมดเลย และก็มาก่อนหมด เรากลายเป็นโรงงานผลิตคนสำหรับยุคใหม่ ทำไมเราไม่สวนกระแส พระศาสนจักรของเราเป็นพระศาสนจักรเพื่อคนยากจน แต่เราไม่ได้ทำ"

มุมมองของ "พ่อเผือก" น่าจะเป็นสิ่งที่หลายครั้งคาทอลิกส่วนใหญ่อาจจะหลงลืม หรือแม้กระทั่งอาจมีพระสงฆ์นักบวชหรือฆราวาสบางคนอาจไม่เห็นด้วยทั้งหมด ซึ่งก็คงเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่อย่างน้อยความคิดมุมมองของพ่อเผือกทำให้เราฉุกคิดและทบทวนในสิ่งที่คาทอลิกเรากำลังทำอยู่ในปัจจุบันว่า... เรากำลังแพร่ธรรมอยู่จริงๆ หรือไม่? หรือว่าเราหลอกตัวเองไปวันๆ ว่าเรากำลังเดินไปบนเส้นทางที่ถูกต้อง?

 

------------------------------

จาก วารสารผู้ไถ่ ปีที่ ๓๕ ฉบับที่ ๙๖
"สิทธิ คุณค่า ศักดิ์ศรี" สิ่งที่มนุษย์พึงมีเท่าเทียมกัน



เว็บ 

ความคิดเห็น

เขียนความคิดเห็น
ชื่อ:
หัวเรื่อง:
BBCode:Web AddressEmail AddressBold TextItalic TextUnderlined TextQuoteCodeOpen ListList ItemClose List
ความคิดเห็น:



รหัส:* Code

Powered by AkoComment 2.0!

< ก่อนหน้า   ถัดไป >