กิจกรรมของ ยส. 2/2007 (ก.ค.-ธ.ค.) |
|
Wednesday, 30 January 2008 |
จดหมายข่าว ยส. ฉบับที่ 2 / 2550
(กรกฎาคม ถึง ธันวาคม 2550)
งานกรณีศึกษานโยบายการพัฒนากระแสหลักที่มีผลกระทบต่อการพัฒนาความเป็นมนุษย์บนจุดยืนของพระศาสนจักรไทย เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี ของสมณสาสน์การพัฒนาประชาชาติในปี 2007
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ ยส. ร่วมกับ CCHD ได้ลงพื้นที่ 4 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนบ้านโคกสะอาด อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร, ชุมชนบ้านขุนแปะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่, ชุมชนบ้านท่าผักชี อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว และชุมชนบ้านทุ่งมะพร้าว อ.กระบุรี จ.ระนอง ได้เก็บข้อมูลพื้นฐานทั้งด้านกายภาพ ประวัติศาสตร์ สภาพเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ศาสนา และวัฒนธรรม พร้อมทั้งข้อมูลสภาพปัญหาของหมู่บ้านตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การเข้ามาทำงานของศูนย์สังคมพัฒนา ของหน่วยงานรัฐและเอกชน ตลอดจนผลกระทบจากโครงการพัฒนาต่างๆ หลังจากได้ข้อมูลทั้งหมดแล้ว ได้วิเคราะห์ถึงผลกระทบของนโยบายการพัฒนาของรัฐที่เข้าสู่หมู่บ้าน ชุมชน และส่งผลต่อความสัมพันธ์ภายในชุมชน เพื่อนำมาสรุปเป็นตัวอย่างบทเรียนต่อการทำงานพัฒนาสังคมของพระศาสนจักรให้แก่ชุมชนและศูนย์สังคมพัฒนา และใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา / ปรับปรุงการทำงานของศูนย์สังคมพัฒนา
แล้วจึงได้นำเสนอผลการศึกษาฯ ในงานสัมมนาเนื่องในโอกาสการประชุมสมัชชาสภากรรมการ คณะกรรมการฯ เพื่อการพัฒนา ในวันที่ 14 สิงหาคม 2550 ที่บ้านผู้หว่าน อ.สามพราน จ.นครปฐม ผลจากการศึกษาพบว่า นโยบายการพัฒนากระแสหลักที่มีระบบเศรษฐกิจหรือทุนนิยมเป็นหลัก ทำให้ชาวบ้านมีหนี้สินเพิ่มขึ้นมากมาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอของชุมชน ในขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอในการทำงานของศูนย์สังคมพัฒนาด้วยเช่นกัน ผลการศึกษาชุมชนครั้งนี้ทำให้ศูนย์ฯ พบว่า การทำงานพัฒนาควรมุ่งเน้นเรื่องการให้การศึกษาปลุกจิตสำนึกแก่ชุมชนให้มากขึ้น และถือเป็นโอกาสให้หันกลับมาทบทวนและแก้ไขการทำงานขององค์กรและวิสัยทัศน์ในการทำงานต่อไป
ค่ายยุวสิทธิมนุษยชนครั้งที่ 2
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อความยุติธรรมและสันติ (ยส.) จัดค่ายยุวสิทธิมนุษยชนครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 4 - 7 ตุลาคม 2550 ณ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องสิทธิมนุษยชนแก่เยาวชนไทย ซึ่งในการจัดค่ายฯ ครั้งนี้มีเยาวชนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนต่างๆ ทั้งในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด รวมจำนวน 39 คน ได้ร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆ ที่ให้ทั้งสาระและความสนุกสนานพร้อมสอดแทรกแนวคิดเรื่องสิทธิมนุษยชนที่พวกเขาจะได้นำไปประยุกต์ใช้ในชีวิต ในการศึกษาระดับสูงขึ้น และการทำงานในอนาคต ทั้งนี้ การจัดค่ายยุวสิทธิมนุษยชน โดย ยส. มุ่งหวังปลูกฝังแนวคิดสิทธิมนุษยชนให้เยาวชนของชาติตระหนักในคุณค่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของตนเองและผู้อื่น ให้เยาวชนได้รู้จักบทบาทหน้าที่ของตน ไม่ไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น ไม่วางเฉยต่อการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในสังคม และตระหนักในการมีส่วนร่วมสร้างชุมชนแห่งสิทธิมนุษยชนให้เกิดขึ้นอย่างเท่าเทียมกันในสังคมไทย
สำหรับเนื้อหาสาระที่เยาวชนได้รับจากการเข้าค่ายยุวสิทธิมนุษยชน ได้แก่ แนวคิดสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์, ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และ อนุสัญญาสิทธิเด็ก โดย คุณอัจฉรา สมแสงสรวง เลขาธิการ ยส. กิจกรรม Human Rights Walk Rally ให้เยาวชนได้เข้าใจเรื่องสิทธิต่างๆ ผ่านฐานสิทธิมนุษยชน ได้แก่ ฐานกล้วยของฉันหายไปไหน ที่ให้แนวคิดว่าคนเราไม่ควรดูกันแต่เพียงเปลือกนอกเพราะทุกคนมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน - ฐานจินตนาการของฉัน ได้เห็นคุณค่าในความพิเศษของมนุษย์แต่ละคนที่มีความคิด มีความสามารถ และมีจินตนาการ - ฐานช่องว่างระหว่างชนชั้น ทำให้เข้าใจว่าสถานะทางสังคมทำให้คนได้รับการพัฒนามีโอกาสทางสังคม มีฐานะทางเศรษฐกิจและการศึกษาที่แตกต่างกัน แต่ด้วยความแตกต่างนี้มิใช่ถูกนำไปเลือกปฏิบัติต่อกันในสังคม - ฐานดาวโมเบียส ให้เข้าใจในสิทธิของตนและสิทธิของผู้อื่น หากมีความขัดแย้งต้องร่วมกันหาข้อยุติความขัดแย้งนั้น และฐานบันไดชีวิต ... สิทธิของฉัน ได้รู้ว่าเราแต่ละคนมีสิทธิในเรื่องใดบ้าง และได้รับความรู้ความเข้าใจเรื่องสิทธิเด็กในปัจจุบัน โดย คุณณัฐวุฒิ บัวประทุม วิทยากรจากมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก ได้นำประสบการณ์จากการทำงานช่วยเหลือเด็กที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ และเด็กที่ถูกทารุณกรรมจากนายจ้าง มาบอกเล่าให้เยาวชนได้รับรู้ว่าในสังคมยังมีปัญหาอีกมากมายโดยเฉพาะเด็กที่ถูกละเมิดสิทธิ
นอกจากนี้เยาวชนยังได้ตระหนักถึงสิทธิชุมชน จากการลงพื้นที่ศึกษาชุมชนมาบตาพุด โดยมีวิทยากรพิเศษจากเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก ที่ร่วมกันคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินของบริษัทไออาร์พีซี คือ คุณรัชยุทธ วงศ์พุชชงค์ และคุณกนิษฐ์ พงษ์นาวิน แกนนำชาวบ้าน ได้ช่วยกันบอกเล่าประสบการณ์และพาไปดูสถานที่ซึ่งประสบปัญหาด้านมลพิษจากโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ ใน จ.ระยอง ต้นเหตุที่ทำให้ชาวระยองป่วยเป็นโรคมะเร็งมากที่สุดจังหวัดหนึ่งของประเทศ โดยเฉพาะมะเร็งในปอด มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงที่สุดในประเทศ และมีอัตราของเด็กแรกเกิดมีร่างกายผิดปกติสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในรอบสิบปีที่ผ่านมา
โครงการสิทธิมนุษยชนศึกษา
จัดอบรมเชิงปฏิบัติการสิทธิมนุษยชนศึกษาในสถานศึกษาคาทอลิก ให้กับครูผู้สอนทุกระดับชั้น รวมทั้งเจ้าหน้าที่-พี่เลี้ยงที่ทำงานในโรงเรียน เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและจิตสำนึกในเรื่องสิทธิมนุษยชน และเกิดการเคารพศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ในสถาบันการศึกษา รวมทั้งสามารถนำสิทธิมนุษยชนบูรณาการเข้าในกิจกรรมหรือการเรียนการสอนได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยผลที่เกิดขึ้นคือ ผู้บริหารแต่ละโรงเรียนเห็นความสำคัญของการสอนสิทธิมนุษยชน จึงสนับสนุนให้เกิดการจัดกิจกรรมอย่างเต็มที่ โดยครูผู้เข้ารับการอบรมได้เข้าใจสาระสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้อง เช่น ความเป็นมาของสิทธิมนุษยชน ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และสิทธิเด็ก อีกทั้งได้ทดลองเขียนแผนการเรียนรู้สิทธิมนุษยชนตามสาระวิชาและช่วงชั้นที่สอน ซึ่งในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาได้จัดการอบรมฯ ให้กับโรงเรียนคาทอลิก 4 แห่ง ดังนี้
โรงเรียนลัมแบรต์พิชญาลัย จ.จันทบุรี เป็นโรงเรียนภายใต้การดูแลของนักบวชคณะรักกางเขน แห่งจันทบุรี จัดอบรมฯ เมื่อวันที่ 9 -10 ตุลาคม 2550 ให้กับครูผู้สอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล – มัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 75 คน
โรงเรียนพระหฤทัยนนทบุรี เป็นโรงเรียนภายใต้การดูแลของนักบวชคณะพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าแห่งกรุงเทพฯ จัดอบรมฯ เมื่อวันที่ 18 -19 ตุลาคม 2550 ให้กับครูผู้สอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล – มัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 176 คน
โรงเรียนแม่พระประจักษ์ กรุงเทพฯ เป็นโรงเรียนภายใต้การดูแลของฝ่ายการศึกษา อัครสังฆ-มณฑลกรุงเทพฯ จัดอบรมฯ เมื่อวันที่ 21 - 23 ตุลาคม 2550 ให้กับครูผู้สอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล – มัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 55 คน
โรงเรียนพระหฤทัยพัฒนเวศม์ เป็นโรงเรียนภายใต้การดูแลของนักบวชคณะพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าแห่งกรุงเทพฯ จัดอบรมฯ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2550 ให้กับครูผู้สอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล – มัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 50 คน
Powered by AkoComment 2.0! |