จำนวนผู้เข้าชม |
ขณะนี้มี 2108 บุคคลทั่วไป ออนไลน์ |
ขอบคุณทุกท่าน
ที่แวะเข้ามาค่ะ
|
แนะนำสื่อ ฉบับล่าสุด |
วารสารผู้ไถ่
ฉบับที่ 124
สารวันสันติสากล
1 มกราคม 2024
ปัญญาประดิษฐ์
และสันติภาพ
น้ำแห่งชีวิต
(Aqua fons vitae)
สมณกระทรวงเพื่อ
ส่งเสริมการพัฒนา
มนุษย์แบบองค์รวม
แอมะซอนที่รัก
(QUERIDA AMAZONIA)
สมณลิขิตเตือนใจ...
ของสมเด็จ-
พระสันตะปาปาฟรังซิส
หนังสือแปล
จงสรรเสริญพระเจ้า...
การก้าวออกไป
อย่างต่อเนื่องของเอเชีย
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร
ภาคที่ 2 และ3
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร ภาคที่ 1
หนังสือแปล
Jesus CEO : พระเยซูเจ้า
นักบริหารชั้นนำ
หนังสือ เส้นทางสู่
สิทธิมนุษยชนศึกษา
หนังสือแปล
Caritas in Veritate :
พระสมณสาสน์
ความรักในความจริง
โปสเตอร์
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
แห่งสหประชาชาติ
พ.ศ.2532
|
|
สาระสำคัญของสารวันสันติภาพสากล ปี 1987/2530 : การพัฒนาและความเป็นปึกแผ่น : กุญแจสู่สันติภาพ |
|
Friday, 19 May 2006 |
สาระสำคัญของสารวันสันติภาพสากล ของสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น พอล ที่ 2 1 มกราคม 1987/2530 การพัฒนาและความเป็นปึกแผ่น : กุญแจสู่สันติภาพ
| ปี 1987 เป็นปีครบรอบ 20 ปีของการพิมพ์เผยแพร่เอกสาร “การพัฒนาประชาชาติ” (Populorum Progressio) ซึ่งเป็นสารอันเลื่องชื่อของสมเด็จพระสันตะปาปา พอล ที่ 6 และองค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้ปี 1987 นี้ เป็นปีสากลของผู้ที่ไร้ที่อยู่อาศัย
คำกล่าวของสมเด็จพระสันตะปาปา พอล ที่ 6 ที่ว่า “การพัฒนาเป็นนามใหม่สำหรับสันติภาพ” (การพัฒนาประชาชาติ ข้อ 76, 87) เป็นการให้ความหมายอันเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การแสวงหาสันติภาพ
ในสารฉบับปี 1987 ของสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น พอล ที่ 2 นี้ พระองค์ได้ตั้งคำถามที่น่าสนใจและเชิญชวนให้ไตร่ตรองว่า สันติภาพที่แท้จริงนั้นจะคงอยู่ได้หรือ เมื่อมนุษย์ทั้งชายหญิงและเด็ก ไม่สามารถเจริญชีวิตได้อย่างเป็นมนุษย์ที่มีศักดิ์ศรี สันติภาพถาวรนั้นจะเกิดขึ้นได้อย่างไรในโลก เมื่อความสัมพันธ์ทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของคนกลุ่มเดียว หรือประชาชาติกลุ่มเดียว ในขณะที่ผู้อื่นต้องสูญเสียส่วนของตนไป
สันติภาพที่แท้จริงจะสถาปนาขึ้นได้อย่างไรโดยปราศจากการสำนึกอย่างจริงจังว่า ข้อความจริงที่มหัศจรรย์ก็คือ พวกเราทุกคนเท่าเทียมกันในทางศักดิ์ศรี เท่าเทียมกันเพราะว่าเราถูกสร้างมาตามพระฉายาของพระเป็นเจ้า ซึ่งเป็นบิดาของเรา
สารฉบับนี้ได้ยกข้อความจากสารฉบับก่อน ภายใต้หัวข้อ “เหนือ-ใต้, ตะวันออก-ตะวันตก : มีสันติภาพเดียว” ซึ่งสารฉบับนี้สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น พอล ที่ 2 กล่าวไว้ว่า “...เอกภาพในครอบครัวมนุษย์มีผลกระทบต่อชีวิตของเราและความผูกพันของเราต่อสันติภาพ... ทั้งนี้หมายความว่าเราผูกพันตัวเราเองต่อความเป็นปึกแผ่นใหม่ นั่นคือความเป็นปึกแผ่นของครอบครัวมนุษย์...ความสัมพันธ์ใหม่ ความเป็นปึกแผ่นทางสังคมสำหรับทุกคน” (ข้อ 4)
สารฉบับปี 1987 บอกกับเราว่า เมื่อใดก็ตามที่เราสามารถเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า เราเป็นพี่น้องทั้งชายหญิงในความเป็นมนุษย์ร่วมกัน เมื่อนั้นเราก็จะสามารถสร้างทัศนคติของเราต่อชีวิตอย่างสอดคล้องกับแนวทางแห่งความเป็นปึกแผ่น อันทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกัน สิ่งนี้เป็นจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกี่ยวข้องกับโครงการพื้นฐานสากล : นั่นก็คือสันติภาพ
สารปี 1987 ได้ระบุถึง “สิ่งที่เป็นอุปสรรค” ต่อความเป็นปึกแผ่นของมนุษย์ไว้หลายประการ เช่น
- ลัทธิเกลียดกลัวคนต่างด้าว โดยปิดประเทศหรือออกกฎหมายที่กีดกันคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศของตน
- อุดมการณ์ต่างๆ ซึ่งสั่งสอนความเกลียดชังหรือความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน ระบบซึ่งตั้งเครื่องกีดขวางจอมปลอมขึ้น การเกลียดชังระหว่างเชื้อชาติ การกีดกันทางศาสนา การแบ่งแยกชนชั้น ยังมีอยู่ในหลายๆ สังคม ทั้งอย่างเปิดเผยและอย่างลับๆ เมื่อใดก็ตามที่ผู้นำทางการเมือง สร้างการแบ่งแยกเช่นนี้ในระบบการปกครองภายในหรือนโยบายต่างๆ ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับประเทศอื่นๆ เมื่อนั้นอคติต่างๆ เหล่านี้ก็จะฟาดฟันลงบนแก่นของศักดิ์ศรีของมนุษย์ อคติต่างๆ จะกลายเป็นพลังสำคัญที่ทำให้เกิดการตอบโต้ ซึ่งขยายการแบ่งแยก ความเกลียดชัง การกดขี่ และสงคราม ความเลวร้ายอีกประการหนึ่งที่ทำให้เกิดความทุกข์ยากลำบากอย่างยิ่งต่อประชาชน และความหายนะต่อสังคม ก็คือลัทธิการก่อการร้าย
สารปี 1987 ยังระบุไว้อีกว่า นโยบายใดๆ ก็ตามที่ขัดแย้งกับศักดิ์ศรีพื้นฐานและสิทธิมนุษยชนของบุคคล หรือของกลุ่มบุคคลจะต้องได้รับการปฏิเสธ
ในทางตรงกันข้าม นโยบายและโครงการต่างๆ ที่สมควรส่งเสริม คือโครงการที่ช่วยสถาปนาความสัมพันธ์อันเปิดเผยและจริงใจระหว่างประชาชน ซึ่งทำให้เกิดพันธมิตรที่เสมอภาคกัน และรวมเอาประชาชนไว้ในความร่วมมืออันมีเกียรติ
แต่ความคิดริเริ่มดังกล่าวข้างต้น จะต้องไม่ละเลยข้อแตกต่างระหว่างประชาชนในด้านภาษา เชื้อชาติ ศาสนา สังคม หรือวัฒนธรรม ทั้งไม่ควรปฏิเสธที่จะเผชิญอุปสรรคนานาประการ ในการเอาชนะการแบ่งแยก และความอยุติธรรมที่มีอยู่มานาน และต้องให้ความสำคัญกับความพยายามทั้งหลาย ในการสร้างเอกภาพระหว่างมนุษย์ แม้ว่าจะเป็นความพยายามเล็กน้อยที่ปรากฏอยู่ก็ตาม
สารฉบับนี้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า การแสวงหาความเป็นใหญ่ในทางเศรษฐกิจ การทหาร หรือการเมือง บนความสูญเสียสิทธิของชาติอื่นๆ ย่อมเป็นอันตรายต่อความสำเร็จของการพัฒนาที่แท้จริง หรืออีกนัยหนึ่งคือ เป็นอันตรายต่อสันติภาพที่แท้จริง
สารปี 1987 กล่าวไว้ว่า ความเป็นปึกแผ่นและการพัฒนา คือ “กุญแจสำคัญ 2 ดอกสู่สันติภาพ” และทั้งสองประการนี้ คือสิ่งที่จำเป็นสำหรับจุดหมายที่เราจะไปให้ถึง
“ความเป็นปึกแผ่น” เป็นคุณธรรมทางธรรมชาติ เพราะเหตุว่าสิ่งนี้ยืนยันคุณค่าของมนุษยชาติ และด้วยเหตุผลนี้ การนำไปปฏิบัติเพื่อชีวิตบนโลก และเพื่อความสัมพันธ์ระหว่างนานาชาติก็เป็น จริยธรรมด้วย สายสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์เรียกร้องให้เราอยู่อย่างสามัคคีกัน และให้เราส่งเสริมสิ่งที่ดีสำหรับกันและกัน ผลทางจริยธรรมจากการปฏิบัติดังกล่าวนี้ เป็นเหตุผลที่ทำให้เราเข้าใจว่าเหตุใดความเป็นปึกแผ่นจึงเป็นกุญแจสำคัญสู่สันติภาพ
ส่วน “การพัฒนา” เมื่อเข้าใจความหมายที่แท้จริงครบถ้วนแล้ว ก็มิใช่เป็นเพียงการปรับปรุงสภาพอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือสภาพทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว การพัฒนาในที่สุดก็เป็นปัญหาของสันติภาพ เพราะว่าการพัฒนานั้นช่วยให้ทำสิ่งที่ดีสำหรับผู้อื่น และสำหรับครอบครัวของมนุษย์ด้วยกัน
เนื้อหาของสารกล่าวว่า ความเป็นปึกแผ่นที่แท้จริงจะไม่มีภัยจากการเอารัดเอาเปรียบ หรือการใช้โครงการพัฒนาอย่างผิดๆ เพื่อผลประโยชน์ของคนเพียงไม่กี่คน แต่การพัฒนาจะต้องกลายเป็นกระบวนการที่เกี่ยวพันกับสมาชิกต่างๆ ของครอบครัวมนุษย์เดียวกัน และปรับปรุงเขาเหล่านั้นให้ดีขึ้น
สารฉบับนี้ยังได้มองถึง “ปัญหาบางอย่างในสมัยใหม่” ที่เป็นอุปสรรคต่อสันติภาพที่แท้จริง เช่น หนี้สินภายนอกของประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลาย การแบ่งแยกแบบใหม่ซึ่งมีอิทธิพลสูงระหว่างผู้ที่มีเทคโนโลยีและผู้ที่ไม่มีเทคโนโลยี การลดอาวุธ การแตกสลายของครอบครัว เด็กและเยาวชนถูกทอดทิ้ง ถูกบังคับให้ขายตัว ขายแรงงาน การติดยาเสพติด การมีเพศสัมพันธ์ชั่วครั้งชั่วคราว ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นอุปสรรคขัดขวางการพัฒนาของบุคคลทั้งครบ
สำหรับคริสตชน เราถูกเรียกให้เป็นเหมือนพระคริสต์ เป็นผู้สร้างสันติภาพ โดยอาศัยการคืนดีกัน เป็นผู้ให้ความร่วมมือกับพระองค์ในการนำสันติภาพมาสู่โลกนี้ และคริสตชนต้องไม่ลืมคำกล่าวที่สรุปความหมายของความเป็นปึกแผ่นไว้อย่างชัดเจนที่ว่า “จงปฏิบัติต่อผู้อื่นตามที่ท่านต้องการให้เขาปฏิบัติต่อท่าน” (มธ 7:12) เมื่อบัญญัตินี้ถูกละเมิด คริสตชนก็ควรรับทราบว่าเขาเป็นผู้ที่ก่อให้เกิดการแตกแยกและทำบาป บาปนี้มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อกลุ่มของผู้ที่มีความเชื่อและต่อสังคมทั้งหมด และเป็นการขัดเคืองพระทัยของพระเป็นเจ้าผู้ทรงสร้างชีวิตและเป็นผู้ทรงรักษาชีวิต
ในตอนท้ายของสารในปี 1987 สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น พอล ที่ 2 กล่าวคำเรียกร้องสุดท้ายไว้ว่า “ข้าพเจ้าขอร้องท่านอีกครั้งหนึ่งดังที่เคยขอร้องมาในอดีต ให้หลีกเลี่ยงจากการดำเนินการรุนแรงในการบรรลุเป้าหมายของท่าน ขอร้องท่านให้หลีกเลี่ยงการฆ่าฟันและการกระทำอันตรายต่อผู้ที่ไร้เดียงสา ขอร้องให้ท่านหยุดยั้งการทำลายโครงสร้างของสังคม หนทางแห่งความรุนแรงไม่อาจทำให้เกิดความยุติธรรมสำหรับท่านหรือใครๆ ได้”
“ข้าพเจ้าใคร่วิงวอนท่านทั้งหลาย ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหน หรือกำลังทำอะไรอยู่ ให้ท่านมองเห็นหน้าพี่น้องชายหญิงในมนุษย์ทุกคน เพราะปัจจัยที่รวมเราเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันนั้น ยังมีมากกว่าสิ่งที่แยกและแบ่งเราออกจากกัน นั่นคือ “ความเป็นมนุษย์” เช่นเดียวกันนั่นเอง”
|
Powered by AkoComment 2.0! |
|