เทศกาลแห่งการดูแลรักษาสิ่งสร้าง
(1 กันยายน - 4 ตุลาคม 2023)[1]
แผนกยุติธรรมและสันติ :
สรุปสาระ
11 กันยายน 2023
"ให้ความยุติธรรมและสันติภาพหลั่งไหลเหมือนน้ำ" (อมส 5:24)
เทศกาลแห่งการดูแลรักษาสิ่งสร้าง วันที่ 1 กันยายน - 4 ตุลาคม ของทุกปี เทศกาลที่มีความสำคัญต่อคริสตชนทั่วโลก ถือเป็นห้วงโอกาสของคริสตชนฟื้นฟูความสัมพันธ์กับพระผู้สร้าง
และกับสรรพสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง ผ่านการเฉลิมฉลอง การกลับใจใหม่ และลงมือปฏิบัติร่วมกัน
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส
ทรงกำหนดให้วันที่ 1 กันยายน เป็นวันอธิษฐานภาวนาเพื่อการดูแลสิ่งสร้างของโลก
และตลอดช่วงเวลาหนึ่งเดือน จนถึงวันที่ 4
ตุลาคม ซึ่งเป็นวันฉลองนักบุญฟรังซิส แห่งอัสซีซี พระองค์เชิญชวนให้คริสตชนทั่วโลก ขอบคุณสำหรับความอัศจรรย์ที่พระเจ้าทรงสร้าง
ขออภัยโทษสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์
และให้คำมั่นสัญญากับตัวเองอีกครั้งในการดูแลและปกป้องสิ่งสร้างของโลก
ซึ่งเป็นบ้านของทุกคน ทุกชีวิต
แก่นเรื่องของเทศกาลรณรงค์เพื่อดูแลรักษาสิ่งสร้าง
ปี 2023 "ให้ความยุติธรรมและสันติภาพหลั่งไหลเหมือนน้ำ" ได้รับแรงบันดาลใจจากถ้อยคำของประกาศกอาโมส: "จงให้ความยุติธรรมหลั่งไหลลงเหมือนน้ำ ความชอบธรรมเหมือนลำธารที่ไม่มีวันเหือดแห้ง"
(5:24) แต่สิ่งสร้างของโลกด้านสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศ กำลังได้รับความอยุติธรรมอย่างรุนแรง
ความยุติธรรมจำเป็นต่อการอยู่รอดของมนุษย์ทุกคน
ในฐานะที่ทุกคนต่างก็เป็นลูกของพระเจ้า ความยุติธรรมเปรียบเหมือนน้ำ
เพราะน้ำเป็นสิ่งจำเป็นของชีวิตมนุษย์ หากไม่มีน้ำให้ดื่มเราก็จะตายอย่างแน่นอน
ความยุติธรรมต้องหลั่งไหลออกไปเหมือนน้ำ ไม่ซ่อนอยู่ใต้ผืนดิน หรือระเหยไป พระเจ้าทรงต้องการให้มนุษย์ทุกคน พยายามเป็นคนที่ยุติธรรมในทุกสถานการณ์
ดำเนินชีวิตตามกฎของพระเจ้า โดยรักษาความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้า
กับเพื่อนมนุษย์ และกับธรรมชาติ หากดำเนินชีวิตเช่นนี้ ความยุติธรรม และสันติสุข
ก็เหมือนดังน้ำ ที่หลั่งไหลออกมา หล่อเลี้ยงทั้งชีวิตมนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
เดือนกรกฎาคม
2022
พระสันตะปาปาฟรังซิส เสด็จเยือนทะเลสาบ นักบุญอันนา ประเทศแคนาดา
ซึ่งเป็นสถานที่จาริกแสวงบุญของชนพื้นเมืองหลายชั่วอายุคน
พระองค์ทรงไตร่ตรองถึงสถานที่แห่งนี้ว่า เป็นสถานที่ที่ผู้มีภาระหนักอึ้งในชีวิต
ได้รับการปลอบประโลมใจด้วยน้ำจากทะเลสาบ เพื่อดำเนินชีวิตต่อไป
นอกจากนี้
หากเราจุ่มชีวิตของเรา ลงไปอยู่ท่ามกลางสิ่งสร้างอย่างแท้จริง เราคงสัมผัสได้ถึงจังหวะการเต้นของสรรพสิ่งของโลกนี้
ที่ทำให้เรามีชีวิต ซึ่งไม่ต่างไปจากการเต้นของหัวใจทารกที่สอดคล้องกับจังหวะการเต้นของหัวใจมารดา
เพื่อที่จะเติบโตในฐานะมนุษย์ ทว่าทุกวันนี้ จังหวะการเต้นของหัวใจ
ทั้งของเราเองและของสิ่งสร้างทั้งมวล ไม่สัมพันธ์กัน ไปกันคนละทิศคนละทาง โดยเฉพาะจังหวะการเต้นระหว่างความยุติธรรมและสันติภาพ
ผู้คนจำนวนมากที่ถูกกีดกันไม่ให้เข้าถึง
ไม่มีโอกาสลิ้มรสลำธารน้ำแห่งความยุติธรรม
พวกเขาดิ้นรนเพื่อให้ได้น้ำเพียงพอสำหรับบริโภคและประกอบอาชีพ
ผลกระทบจากภัยแล้งที่รุนแรงมากขึ้น เป็นสัญญาณของการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ
ซึ่งมีจุดมุ่งหมายให้ทุกคนได้แบ่งปัน แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น แม่น้ำหลายสายต้องเหือดแห้งไป
เพราะผลกระทบจากสงคราม สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์
ที่ 16 ทรงกล่าวเปรียบเทียบไว้ว่า ภาวะทะเลทรายที่ขยายพื้นที่เพิ่มขึ้น
มาจากทะเลทรายในจิตใจของมนุษย์ ความโลภ ความเห็นแก่ตัวของมนุษย์กำลังขัดขวางวงจรน้ำของโลก
การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างไม่หยุดยั้ง
การทำลายป่าไม้ เหล่านี้เป็นต้นเหตุของอุณหภูมิที่สูงขึ้นและภาวะแห้งแล้งที่รุนแรง
ส่งผลต่อการขาดแคลนน้ำทั้งในชนบทและในเมือง
อุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมัน
ก๊าซธรรมชาติ และเหมืองแร่ต่าง ๆ รวมทั้งฟาร์มปศุสัตว์ขนาดใหญ่
ก็เป็นตัวการทำลายแหล่งน้ำจืด "น้ำผู้เป็นพี่สาว"
(ตามคำเรียกขานของนักบุญฟรังซิส อัสซีซี) กำลังถูกปล้นและถูกเปลี่ยนเป็นสินค้าในกลไกตลาด
คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เรียกร้องว่าเราต้องลงมือกระทำอย่างมากขึ้นและเร่งด่วน เราต้องเป็นเหมือนสายน้ำ ลำธาร ห้วยหนอง
แม่น้ำสายเล็ก ๆ ที่ไหลมารวมกันกลายเป็นมหานที หล่อเลี้ยงทุกชีวิตบนโลกใบนี้
เพื่อส่งมอบต่อชนรุ่นถัดไป และเพื่อ "ปล่อยให้ความยุติธรรมและสันติภาพหลั่งไหล"
ไปทั่วโลก เราต้องปรับเปลี่ยนใจที่เหือดแห้งของเรา
ใจที่ไม่ตระหนักถึงความทุกข์ยากของเพื่อนพี่น้อง ผู้เดือดร้อนจากปัญหาสิ่งแวดล้อม
และหันมาร่วมมือกันอย่างกล้าหาญ และฟื้นฟูความสัมพันธ์ 4
ประการระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า กับพี่น้องในปัจจุบัน และลูกหลานในอนาคต
กับตัวเราเอง และกับสิ่งสร้าง และตระหนักในคุณค่าของสิ่งสร้างว่าเป็นของประทาน
มากกว่าเป็นวัตถุเพื่อใช้ประโยชน์
ขอให้เรากลับใจจาก
‘บาปทางนิเวศของเรา' ซึ่งเป็นอันตรายต่อโลกแห่งธรรมชาติ และเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเรา โดยอาศัยพระหรรษทานของพระเจ้า ดำเนินชีวิตที่ไม่ฟุ่มเฟือย ใช้ทรัพยากรอย่างพอประมาณ
มีการจัดการเรื่องขยะอย่างถูกต้อง และใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
โดยคำนึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจที่เอื้อความมั่งคั่งต่อคนร่ำรวยเพียงไม่กี่คน
และทำลายธรรมชาติจนเสื่อมโทรมสำหรับประชาชนจำนวนมาก หรือที่เรียกว่า ‘หนี้ทางนิเวศ'
เป็นที่คาดหวังว่า
การประชุมสุดยอด COP 28 ที่เมืองดูไบ
ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 12
ธันวาคม ปี 2024 ผู้นำโลกที่ร่วมประชุม จะรับฟังข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และกระทำการอย่างจริงเพื่อยุติยุคเชื้อเพลิงฟอสซิล
เพื่อควบคุมภาวะโลกร้อน ตามข้อผูกพันที่ดำเนินการในข้อตกลงปารีส
พระศาสนจักรคาทอลิก
มุ่งมั่นที่จะร่วมเดินไปด้วยกัน (Synodality) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วันที่ 4 ตุลาคม วันสิ้นสุดเทศกาลแห่งการดูแลรักษาสิ่งสร้าง ปี 2023 และวันฉลองนักบุญฟรังซิส แห่งอัสซีซี ตรงกับการเปิดสมัชชาการก้าวเดินไปด้วยกัน
ของพระศาสนจักรสากล (Synodality) เช่นเดียวกับแม่น้ำในธรรมชาติ ที่เริ่มต้นจากลำธารเล็ก
ๆ มากมาย มารวมตัวกัน พระศาสนจักรที่ก้าวเดินไปด้วยกัน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021
เป็นแม่น้ำแห่งการไตร่ตรองและฟื้นฟูของสมาชิกพระศาสนจักรทั้งมวล
เพื่อเป็นแหล่งของชีวิต
และสร้างบ้านหลังใหญ่ใบนี้ ให้เป็นบ้านของทุกชีวิตที่อาศัยอยู่ร่วมกัน โดยอาศัยลำธารแห่งความยุติธรรมและสันติ
ที่ไหลออกไปสู่ทุกที่
ทะเลสาบกาลิลี
ซึ่งพระเยซูเจ้า ทรงนำการรักษา และการปลอบประโลมมาสู่ผู้คนมากมาย และทรงประกาศ
"การปฏิวัติด้วยความรัก" ทะเลสาบนักบุญอันนา ประเทศแคนาดา สถานที่แห่งการเยียวยา
การปลอบโยน และปฏิบัติความรัก สถานที่แห่งภราดรภาพ คนที่อยู่ห่างไกลกัน
คนที่แตกต่างกัน แต่เป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะเราทุกคนคือผู้จาริกแสวงบุญในการเดินทาง
สารของสมเด็จพระสันตะปาปา
ในเทศกาลดูแลรักษาสิ่งสร้างปีนี้
จบลงด้วยคำเชิญชวนทุกคน ดำเนินชีวิต ทำงาน และสวดภาวนา
เพื่อบ้านหลังนี้ของพวกเรา จะเต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา และขอพระจิตของพระเจ้าเสด็จลงมาเหนือน้ำอีกครั้ง
เพื่อนำทางพวกเรา ในการทำงานเปลี่ยนโฉมหน้าโลกให้ดีขึ้นใหม่
13 พฤษภาคม 2023
นักบุญยอห์น ลาเตรัน, โรม
[1] สรุปเนื้อหา จากสารของสมเด็จพระสันตะปาปา
ฟรังซิส โอกาสวันอธิษฐานภาวนาเพื่อการดูแลรักษาสิ่งสร้างของโลก 2023 ในเทศกาลแห่งการดูแลรักษาสิ่งสร้าง
วันที่ 1 กันยายน ถึง 4 ตุลาคม 2023 สารฉบับนี้ เผยแพร่เมื่อ 13 พฤษภาคม 2023
Powered by AkoComment 2.0! |