บทความล่าสุด |
---|
ถอดรหัสร้อนดาวินชี่ โดย วนิดา ลอยชื่น |
Tuesday, 30 May 2006 | |||
ถอดรหัสร้อนดาวินชี่โดย วนิดา ลอยชื่น เรื่องราวของ ม้วนบันทึกแห่งทะเลตาย แมรี่ แมคดาลีน องค์กรลับโอปุสเดอี วาติกันเมืองแห่งศาสนา ภาพปริศนาอาหารค่ำมื้อสุดท้าย สายเลือดของพระเยซู เรื่องราวชวนพิศวงเหล่านี้ ถูกเรียงร้อยมาเป็นนิยายดัง “รหัสลับดาวินชี่” การตามล่าล้างสายเลือดของพระเยซูด้วยความเข้มข้น หักเหลี่ยมลบมุม กลายเป็นประเด็นร้อนว่า นี่คือเรื่องจริงที่พระศาสนจักรโดยพระสันตะปาปาพยายามปกปิด ตามล้างตามล่าคนที่รู้ความลับ แล้วในความจริงอีกด้านล่ะ นี่คือเรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยรู้ รหัสลับดาวินชี่เป็นหนังสือนวนิยาย ใครที่อ่านคำนำในฉบับภาษาไทยถูกเขียนอย่างชัดเจน ดังนั้นคงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเรื่องราวที่ถูกแต่งขึ้น โดยมีชื่อจริงของคนที่ตายไปนานแล้วและลุกขึ้นมาฟ้องร้องไม่ได้อย่าง ดาวินชี่ที่เป็นเจ้าของผลงานภาพปริศนา แมรี่ แม็คดาลีน หรือมารี มักดาเลนา ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่โต้อะไรไม่ได้แล้วทั้งสิ้น หนังสือเล่มนี้ทำลายอัจฉริยภาพของดาวินชี่อย่างสิ้นเชิง หากภาพอาหารค่ำมื้อสุดท้ายแฝงความลับแห่งพระเยซูและสายเลือดของพระองค์ไว้จริงดาวินชี่คงฝีมือห่วย เพราะวาดมานานแล้วเพิ่งจะมีแดน บราวน์ดูออกเป็นรายแรก นักประวัติศาสตร์ศิลป์ทั้งหลายคงต้องเอาปี๊บคลุมหัว เราลองแกะร่องรอยแบบง่ายๆตามรอยประวัติศาสตร์ไปกันดู ม้วนแห่งทะเลตายหรือบันทึกจากเด๊ดซี เป็นม้วนหนังแกะที่ถูกพบโดยคนเลี้ยงแกะในถ้ำใกล้เมืองกุมรานประเทศปาเลสไตน์เมื่อปีค.ศ.1950 ตอนนี้ยังไม่สามารถแกะอ่านเป็นเรื่องเป็นราวได้ เนื่องจากถูกจารึกลงในหนังสัตว์บรรจุในไห คาดว่าน่าจะเป็นผลงานของกลุ่มชนที่เรียกตนเองว่า แอสซีน ในสมัยพระเยซูพวกนี้จะรวมตัวกันเป็นชุมชนริมทะเลสาบเด๊ดซี เคร่งครัดในศาสนายูดาห์ ไม่ข้องเกี่ยวกับใคร มีการสะสมอาวุธเตรียมกู้ชาติจากการเป็นเมืองขึ้นของโรมัน ม้วนดังกล่าวแกะยากมากเพราะถูกเก็บนานกว่า 2000 ปี เท่าที่แกะออกแล้วเป็นเรื่องราวของพระธรรมเดิมหรือพระธรรมเก่าซึ่งเป็นคัมภีร์ของชาวยิว เป็นเรื่องราวก่อนที่พระเยซูทรงบังเกิด ดังนั้นบันทึกนี้ไม่เกี่ยวกับพระเยซู และวาติกันก็ไม่ได้ไปตามเก็บทำลายเพราะไม่เกี่ยวกับวาติกัน กษัตริย์คอนสแตนตินเองไม่จำเป็นต้องไปล่าล้างใคร เพราะสมัยนั้นคริสต์ศาสนาถูกเบียดเบียนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ กษัตริย์คอนสแตนตินเป็นคนให้เสรีภาพทางศาสนาแก่คริสตชน ด้วยเหตุผลที่ตนเองรบชนะเพราะเครื่องหมายกางเขน ภาพอาหารค่ำมื้อสุดท้าย ขอพูดแบบคนไม่ความรู้ทางศิลปะแต่พอมีความรู้ทางศาสนาบ้างแล้วกัน ภาพนี้ถูกเขียนโดยหลายศิลปินหลายรูปแบบแต่ที่โด่งดังที่สุดคือของดาวินชี่ เพราะได้รับการยอมรับว่ามีความงดงามมาก ดาวินชี่เป็นคนมีความรู้ทางศาสนาอย่างลึกซึ้งจริง เพราะภาพนี้สะท้อนเรื่องราวในพระคัมภีร์อย่างชัดเจน เริ่มที่ยอห์นอัครสาวก ในพระคัมภีร์บอกเราว่าท่านเป็นสาวกที่หนุ่มที่สุดอายุท่านคงประมาณ 17 - 18 ปีในเวลานั้น ดังนั้นภาพท่านจึงออกมาเป็นเด็กหนุ่มไร้หนวดเคราต่างจากคนอื่น ท่านเป็นศิษย์ที่พระเยซูเจ้ารักมากที่สุด เมื่อพระเยซูเสด็จไปไหนมาไหนก็จะนำท่านไปด้วยร่วมกับท่านยากอบที่อยู่อีกข้าง ในภาพท่านเอนมาทางเซนต์ปีเตอร์จนเกิดช่องว่างที่แดน บราวน์ นำไปทำมาหากินได้ และถ้าสังเกตชัดจะเห็นถึงโต๊ะอาหารกำลังปั่นป่วน คนโน้นถามคนนี้ วุ่นไปหมด คนที่นิ่งมีเพียงพระเยซูเท่านั้น นั่นเป็นสัญลักษณ์แห่งการเป็นพระเจ้าของพระองค์นั่นคือความมั่นคงนิ่งสงบ ดาวินชี่สะท้อนว่าพระเจ้าเป็นผู้ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงแม้ท่ามกลางความวุ่นวายปั่นป่วนใดใด ตอนนี้หลังจากพระเยซูพูดว่าจะมีคนทรยศอยู่ร่วมโต๊ะกับพระองค์ (พระธรรมยอห์นบทที่ 13 ข้อที่ 21) นั่นก็สร้างความปั่นป่วนแก่สาวก ต่างคนต่างถามกันวุ่น ปีเตอร์ดึงยอห์นเข้ามาหา แล้วกระซิบว่าให้ถามพระองค์ว่าเป็นใคร ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างพระเยซูกับยอห์น ในพระคัมภีร์พระธรรมใหม่จารึกเรื่องนี้อย่างชัดเจน ส่วนปีเตอร์เองมือของท่านมีมีดอยู่เพราะว่าหลังจากนี้ในสวนเกสเสเมนีท่านได้ใช้มีดปาดหูผู้รับใช้ของสมณะชื่อมัลคัสขาด (พระธรรมยอห์นบทที่ 18 ข้อที่ 10) ภาพนี้สะท้อนให้เห็นเรื่องราวในอนาคตอีกด้วย วาติกันนครรัฐแห่งสันตะปาปาและศูนย์กลางคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิก วาติกันตั้งอยู่ในกรุงโรม มีสถานะเป็นประเทศหนึ่งที่ปกครองโดยสันตะปาปาเป็นศูนย์รวมจิตใจชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกแต่ไม่มีผลกับการเมืองในปัจจุบัน มีรายได้จากการบริจาคของชาวคริสต์ทั่วโลก คงไม่รวยพอจะนำเงินไปจ้างใครทำอะไรผิดๆอย่างที่แดน บราวน์เขียน ลำพังการให้การอุปถัมภ์ประเทศยากจน เด็กกำพร้า ประเทศที่อยู่ในภาวะสงครามผู้อพยพทั่วโลกก็สาหัสสากรรจ์อยู่แล้ว รายละเอียดต่างๆ ติดตามได้จากเว็บไซต์ของคาทอลิกต่างๆ แมรี่ แมคดาลีน หรือมารีอา มักดาเลนา ท่านมีชื่ออยู่ในพระคัมภีร์จริง เป็นสาวกหญิงท่านหนึ่งที่ติดตามพระเยซู แต่ข้อจำกัดของสตรีในสมัยนั้นทำให้ท่านไม่โดดเด่น เช่น อัครสาวก ครั้งหนึ่งพระเยซูได้ไล่ผีเจ็ดตนออกจากหญิงผู้หนึ่งคาดเดากันว่าคือมารีอา มักดาเลนาคนนี้ การที่มีผีเจ็ดตนสิงแสดงถึงความชั่วร้ายที่สิงสู่เธอ สิ่งเลวร้ายที่สุดของผู้หญิงทุกยุคทุกสมัยคือการขายเนื้อหนังมังสาหรือโสเภณีนั่นเอง พระคัมภีร์ไม่เคยบอกว่าท่านมีอาชีพโสเภณี เป็นการคาดเดาของคนในสมัยหนึ่งที่คิดถึงผีเจ็ดตนต้องชั่วสุดสุด คือ เป็นโสเภณี ในพระคัมภีร์บอกว่าท่านเป็นคนแรกที่พบว่าอุโมงค์ฝังศพพระเยซูว่างเปล่า เธอสะเทือนใจจนถึงกับร้องให้คิดว่าศพของพระเยซูถูกขโมย พระเยซูเองประจักษ์กับเธอเป็นคนแรก พระศาสนจักรมิได้รังเกียจ ตามราวีเธอ กีดกันเธอออกไป หรือป้ายสีใส่ความว่าเธอเป็นโสเภณี แต่พระศาสนจักรประกาศเกียร์ติคุณยกย่องเธอเป็นนักบุญซึ่งเป็นเกียร์ติสูงสุดที่คนธรรมดาสามัญคนหนึ่งจะได้รับจากพระศาสนจักร สุดท้ายคงเป็นเรื่องราวของพระเยซูกับการมีเมีย ถ้าพระองค์มีเมีย ก็ โอเค นะ เพราะศาสดาของทุกศาสนาในโลกก็มีเมียทั้งนั้น หรือว่าความเป็นพระเจ้าของพระองค์จะคลอนแคลนเพราะมีเมีย คงไม่ใช่ เพราะเทพของศาสนาต่างๆ ล้วนแต่มีชายาทั้งนั้น เทพของชาวโรมันในสมัยพระเยซูมีเมียมากอีกต่างหาก เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องปกปิดอะไร โดยส่วนตัวดิฉันฐานะคริสตชนคนหนึ่งยอมรับได้ค่ะ ขอให้เป็นเรื่องจริงเถอะ มีเรื่องราวหลากหลายนิยายที่หยิบประวัติศาสตร์มาเติมสีสันเป็นนวนิยาย เช่น ที่เราคุ้นเคยก็ เรื่องผู้ชนะสิบทิศ เรื่องของพระศรีสุริโยทัย เรื่องของพระสุพรรณกัลยา ซึ่งหากถามว่าเป็นเรื่องจริงไหม ใช่บุคคลต่างๆที่เป็นตัวหลักมีตัวตนจริงแต่ที่เหลือคือสีสันที่โลดแล่นชวนติดตาม เรื่องที่อยากให้เห็นภาพอีกเรื่องคือ เรื่องตาม่องล่าย ยายรำพึง นิทานเรื่องเล่าที่เรียงร้อยชื่อเกาะแก่งในอ่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จนถึงสุราษฏร์ธานีมาเป็นนิทาน เรื่องราวของเกาะแก่งในทะเลตรัง หรือเรื่องราวพื้นบ้านในภาคต่างๆของบ้านเรา การเขียนเรื่องรหัสลับดาวินชี่ก็ใช้หลักการเดียวกัน จับแพะชนแกะวุ่นไปหมด แล้วสำเร็จด้วยเพราะเป็นหนังสือที่ขายดีมาก อันนี้ไม่โทษแดน บราวน์ เขามีความสามารถในการเขียนดีมาก เขาเองยืนยันว่านี่คือนิยาย แต่คนอ่านต่างหากที่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ดิฉันเองมีโอกาสอ่านเรื่องนี้ 2 รอบ ยอมรับว่าลีลาการเขียนพี่แกเหลือร้ายจริงๆ น่าเชื่อถือซะไม่มี แต่อย่างไรความจริงก็คือความจริง เรื่องราวในนิยายไม่ใช่สิ่งที่คลางแคลงหรือจะทำให้ความศรัทธาในศาสนาของดิฉันหมดไป สิ่งที่สะเทือนความรู้สึกดิฉันที่สุดในฐานะเป็นครูสอนวิชาคริสตศาสนาคือ แดน บราวน์ เขียนตอนหนึ่งในหนังสือ ที่นางเอกเล่าให้พระเอกฟังว่าเห็นคุณตาของเธอทำพิธีทางศาสนาในห้องใต้ดิน ในพิธีกรรมนั้นมีการร่วมเพศด้วย พระเอกเองซึ่งเป็นนักประวัติศาสตร์ก็พูดสนับสนุนว่าพิธีกรรมดังกล่าวเป็นพิธีกรรมโบราณที่ศักดิ์สิทธิ์ สามารถใช้การร่วมเพศเป็นการภาวนาอย่างหนึ่ง ข้อความตอนนี้ต่างหากที่น่าสะเทือนใจ รวมถึงข้อความอีกหลายๆ ตอนที่เอ่ยซ้ำซากถึงเรื่องเซ็กซ์อย่างน่าละอาย เช่น อ้างถึงภาพยนตร์เรื่อง เดอะ ไลอ้อนคิง ดิฉันเปิดดูไงไงก็ไม่เป็นคำว่า SEX ในฉากที่แดน บราวน์ อ้าง และอีกมากมายที่เรื่องนี้พูดถึงสัญลักษณ์ทางเพศมากมายตั้งแต่เรื่องของจอกและอื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต่อมโนธรรมทางเพศ หากทุกคนที่อ่านเชื่อว่ารหัสลับดาวินชี่เป็นเรื่องจริง สิ่งที่ตามมาคือจริยธรรมทางเพศของสังคมจะเสื่อมลงอย่างแน่นอน เพราะไม่มีศาสนาไหนในโลกหรอกคุณที่จะสั่งสอนว่าการมั่วสุมทางเพศ มองอะไรเป็นเรื่องเพศ รวมทั้งการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงที่ไม่ใช่ภรรยาเป็นเรื่องถูกต้อง ทดแทนการภาวนาหรือกิจศรัทธาได้ เพราะในสังคมปัจจุบันที่ฟอนเฟะเรื่องศีลธรรมทางเพศอยู่แล้วหากเชื่อการชี้นำของ แดน บราวน์ เข้าไป ดิฉันเดาอนาคตมโนธรรมทางเพศของสังคมไม่ออกจริงๆ
Powered by AkoComment 2.0! |
< ก่อนหน้า | ถัดไป > |
---|