เด็ก เยาวชน และครอบครัว ในยุคสมัยแห่งความเปราะบางของชีวิต |
Wednesday, 21 September 2022 | ||||
เด็ก เยาวชน และครอบครัว
สนธยา ตั้วสูงเนิน เมื่อความเจ็บปวดเป็นสิ่งที่ถูกทำให้เก็บเงียบไว้ เหตุผลนานัปการที่ถูกหยิบยกมากล่าวอ้าง ให้เราต้องยอมจำนนต่อบาดแผลที่เกิดขึ้นจากครอบครัว "เพราะเราเลือกเกิดไม่ได้" คำพูดคุ้นหูที่ได้ยินกันบ่อยๆ แต่เป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ด้วยปัจจัยหลายอย่างที่ไม่ได้เอื้อให้ทุกคนมีครอบครัวที่สมบูรณ์ได้ หลายครอบครัวจึงเป็นบ่อเกิดของความเจ็บปวด พ่อแม่หลายคนประกอบสร้างครอบครัวขึ้นมาจากความไม่สมบูรณ์ เมื่อพ่อแม่เป็นสารตั้งต้นที่ไม่แข็งแรง จะหวังส่งต่อความสมบูรณ์ให้ลูก เติบโตอย่างสวยงามได้อย่างไร กลางวงสนทนาเล็กๆ ของคนหนุ่มสาวในวัยนักศึกษา แม้จะต่างที่มา แต่พวกเขาเป็นพี่น้องร่วมสถาบันการศึกษาเดียวกัน นั่นจึงเป็นโอกาสที่ทำให้ทุกคนได้มานั่งพูดคุย แลกเปลี่ยน ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ บทสนทนาเริ่มต้นจากคำถามง่ายๆ ว่า "แต่ละคนมีเป้าหมายในอนาคตอย่างไรบ้าง" เพียงเพราะหวังอยากรู้ว่าตอนนี้พวกเขามีความหวัง ความฝัน เป้าหมาย และมุมมองของชีวิตต่อเรื่องต่างๆ อย่างไร จนนำมาสู่การแบ่งปันปมบาดแผลที่ติดอยู่ในใจของแต่ละคน บรรยากาศการสนทนาคละเคล้าไปด้วยเสียงหัวเราะและหยดน้ำตา พร้อมกับภูมิหลังของแต่ละคนที่ค่อยๆ พรั่งพรูออกมา
ก่อนความฝัน ลูกสาวคนโตจากครอบครัวที่มีฐานไม่แข็งแรงเท่าไหร่นัก มีต้นทุนในชีวิตไม่มาก มีเป้าหมายแรกในชีวิตหลังเรียนจบ คือ การใช้หนี้ให้ครอบครัว และใช้หนี้ กยศ. ของตัวเอง ดูแลพ่อแม่และน้องๆ ที่มีความฝันอยากไปท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติ และทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์เป็นของตัวเอง เพื่อสานต่ออาชีพของครอบครัว ในขณะเดียวกันก็ต้องแบกรับความคาดหวังของพ่อกับแม่ไว้ด้วย การเติบโตพร้อมภาระติดพันอันหนักอึ้ง การทำตามความฝันของตัวเองจึงเป็นสิ่งที่ต้องเสียสละ เพียงเพื่อหวังจะให้พ่อแม่ได้พักจากการทำงานหนัก จึงต้องเลือกเส้นทางที่ทำให้ตัวเองมีรายได้สำหรับครอบครัวให้เร็วที่สุด ก่อนจะได้เริ่มต้นทำตามความฝันของตัวเอง "พ่อแม่ไม่ได้เรียนจบปริญญาตรี หนูเลยรู้สึกว่าต้องมีใบปริญญามาให้เขา พ่อแม่คาดหวังอยากให้สำเร็จ เพื่อมาดูแลน้องๆ ต่อ ต้องรีบเรียนให้จบ รีบสอบ รีบทำงาน เพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัวให้เร็วที่สุด ถ้ารับผิดชอบครอบครัวได้แล้ว จะออกมาทำตามที่ตัวเองชอบและอยากทำ ไม่ได้โกรธพ่อแม่ ที่มีให้เราได้เท่านี้ ไม่ได้ไม่พอใจ แต่บางครั้งก็รู้สึกน้อยใจ ทำไมคนอื่นทำได้มากกว่านี้ ทำไมเราถึงอยู่ได้แค่นี้ แต่ไม่เคยบอกพ่อแม่แบบนี้ เพราะเกรงใจพ่อแม่ กลัวเขาเสียใจถ้ารู้ว่าเรารู้สึกแบบนี้" ความฝันถูกทำให้กลายเป็นสิ่งเล็กน้อย เมื่อเทียบกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ความเข้าใจถูกใช้เพื่อประกอบการยอมรับ และความมุ่งมั่นที่อยากจะทำทุกอย่างให้สำเร็จตามที่หวังไว้ เมื่อครอบครัวถูกปลดเปลื้องจากพันธนาการหนี้ก้อนโต การได้เริ่มทำตามความฝันของตัวเองคงยังไม่สายเกินไป
ราวตากผ้า เชือกที่ผูกกับขื่อกลางบ้านหลังหนึ่ง เต็มไปด้วยเสื้อผ้าของแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่เลี้ยงดูลูกด้วยตัวคนเดียวมาตั้งแต่วันที่ลูกเกิด เพราะพ่อต้องเข้าไปหางานทำในกรุงเทพฯ แม่จึงต้องรับหน้าที่เป็นเสาหลักของครอบครัว ด้วยฐานะครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย ทำให้ชีวิตของคนในบ้านค่อนข้างลำบาก "พ่อเคยบอกกับแม่ว่าจะเข้าไปทำงานที่กรุงเทพฯ จะส่งเงินมาให้ใช้ และจะกลับมาหาเรื่อยๆ แม่เชื่อใจ แต่สุดท้ายพ่อก็ไม่กลับมา แม่ผมกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว รับหน้าที่ดูแลเลี้ยงดูผมมาตั้งแต่ผมเกิด" นับตั้งแต่วันที่พ่อออกจากบ้านไป พ่อไม่เคยติดต่อกลับมาอีกเลย การที่ต้องเติบโตจากการเลี้ยงดูของแม่เพียงคนเดียวจึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ระหว่างทางของการเติบโต ทุกวันจะต้องเจอกับคำบูลลี่ คำล้อเลียนว่าเป็นลูกไม่มีพ่อบ้าง เป็นเด็กอ้วนบ้าง จนนำมาสู่ความรู้สึกน้อยใจและมีภาวะเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าจนอยากจะจบชีวิตตัวเองเพื่อหนีจากทุกสิ่ง "ตอนนั้นไม่มีคนอยู่บ้าน เลยเอาเชือกไปผูกไว้ที่ขื่อบ้าน กำลังจะเอาคอเข้า ก็นึกถึงแม่ ว่าเขาเลี้ยงเรามา ให้เราเป็นความหวัง เลยเอาคอออก แต่ไม่ได้เอาเชือกออก แม่กลับมาไม่รู้ว่าคิดฆ่าตัวตาย ก็เอาเสื้อผ้าไปแขวนตรงที่ผูกเชือกไว้ การเป็นลูกของแม่เลี้ยงเดี่ยว ทำให้รู้สึกน้อยใจอยู่บ้างว่าทำไมเราต้องเกิดมาเป็นแบบนี้ แต่อีกมุมหนึ่ง คือบทท้าทายของชีวิตที่เราต้องสู้ และอยู่ให้ได้ และรู้สึกขอบคุณที่แม่เลี้ยงดูตนเองมาอย่างดี และจะตั้งใจเรียนเพื่อทำตามเป้าหมายที่ตัวเองหวังไว้ให้ได้"
เลือกได้ เด็กหญิงวัยมัธยมฯ ถูกส่งเข้าไปเรียนในโรงเรียนประจำชื่อดังของจังหวัด โรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง เรียนหนักตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ เด็กในวัยที่ควรจะได้เล่นสนุกกับเพื่อน ต้องตั้งหน้าตั้งตาเรียนอย่างหนัก เพื่อทำตามความต้องการของครอบครัว "วันที่ต้องย้ายเข้าไปอยู่ในโรงเรียน ในหัวเต็มไปด้วยคำถามมากมาย ว่าตัวเองทำอะไรผิด พ่อกับแม่ไม่รักแล้วเหรอ ทำไมต้องส่งให้มาอยู่ตัวคนเดียว อยากกลับบ้าน เรียนหนักจนเครียด แพนิก [๑] ครูก็ไม่เข้าใจว่าเด็กเป็นอะไรและบูลลี่เด็ก เด็กส่วนใหญ่ในโรงเรียนต่างก็มีอาการนี้ จนเด็กบางคนเลือกที่จะจบชีวิตตัวเอง" การตั้งใจเรียนและพยายามอย่างหนัก ให้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจสำหรับคนอื่นๆ แต่ยังไม่เป็นที่พึงพอใจของคนเป็นพ่อ การได้เรียน ได้ทดลองทำอะไรหลายๆ อย่าง เพื่อตอบสนองความต้องการของครอบครัว แต่ก็ยังไม่ค้นพบว่าตัวเองอยากทำอะไร สิ่งที่ต้องเผชิญทั้งในโรงเรียนและในครอบครัว ส่งผลต่อสภาพจิตใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ จากความเครียด กลายเป็นความกดดัน แพนิก และกลัวการเข้าสังคม เธอจึงใช้งานศิลปะเข้ามาช่วยเยียวยา เพราะศิลปะมีเส้นโค้งที่เป็นอิสระ อยากแต่งแต้มสีอะไรก็ทำได้ตามใจ ไม่ต้องตามใคร ไม่ต้องเหมือนใคร "หนูมีชีวิตที่ค่อนข้างเรียบง่าย มีโอกาสได้ลองทำหลายอย่าง พยายามค้นหาตัวเองตลอด อยากทำอะไรก็ทำ อยากเรียนอะไรก็เรียน แต่ก็โดนที่บ้านคาดหวังหลายอย่าง บางครั้งก็เจอคำพูดแรงๆ ที่บั่นทอน เคยท้อ หมดหวังจนเคยคิดฆ่าตัวตาย แต่ดีใจที่วันนี้ได้มาถึงจุดนี้ ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ได้เรียนในสิ่งที่อยากเรียน หนูชอบงานศิลปะมาก ถ้าเลือกได้หนูก็อยากเป็นเหมือนงานศิลปะที่หนูวาด แม้ที่บ้านจะไม่เห็นด้วย" ชีวิตที่คนอื่นมองว่าสุขสบาย ชีวิตที่เลือกได้ แต่ลึกกว่านั้นคนที่ใครๆ ต่างก็คิดว่ามีชีวิตที่สุขสบาย ก็มีข้อท้าทายทางจิตใจ ที่ต้องพยายามเอาชนะความรู้สึกต่างๆ เพื่อให้ตัวเองสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามที่หวังไว้
จุดเปลี่ยน จากเด็กชายที่เคยโดนบูลลี่ ถูกเพื่อนล้อ บอกครูเพื่อแก้ปัญหา แต่ก็ไม่มีใครสนใจ จนวันหนึ่งที่ทนไม่ไหว ตัดสินใจใช้กำลังเพื่อตอบโต้ จนกลายมาเป็นเด็กชายเกเรที่ชอบมีเรื่องชกต่อยจนเป็นข่าวดังอยู่ช่วงหนึ่ง วันที่ถูกเรียกพบผู้ปกครอง พ่อไม่ได้ต่อว่าแต่มองด้วยสายตาที่ตำหนิ ทำให้เกิดความรู้สึกผิดกับตัวเอง ว่าทำให้ครอบครัวผิดหวัง เริ่มเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับพี่น้องคนอื่นๆ ที่เก่งกว่า ในขณะที่ตัวเองยังทำตัวเกเร และตอบไม่ได้ว่าชอบหรืออยากทำอะไร จนรู้สึกไม่อยากเรียนต่อ "ตอน ม.๖ ตอบตัวเองไม่ได้ว่าอยากเรียนอะไร ไม่มีความฝันเป็นของตัวเองเลย อิจฉาคนอื่นที่รู้จักตัวเอง รู้สึกเหมือนหลับตาเดินในความมืด คว้าอะไรได้ก็เอา เคยสอบติดวิศวะ แต่ติดวิชาแคลคูลัส พยายามทุกอย่าง แต่ไม่ไหว พ่อก็เข้าใจว่า ไม่ต้องเรียนต่อแล้วก็ได้ แต่ต้องหาอะไรทำ จะอยู่เฉยๆ ไม่ได้ ช่วงที่ดาวน์สุดๆ คือช่วงที่ออกจากเรียน ทำเต็มที่แล้ว ทำไมยังทำไม่ได้ สิ่งไม่ดีที่เคยทำเข้ามาในหัว รู้สึกแย่กับตัวเอง ทำไมเราแย่ขนาดนั้น เราสู้น้องไม่ไหว สู้คนอื่นไม่ไหว แต่พ่อก็เข้ามาพอดี พ่อบอกว่าไม่เป็นไร ก็รู้สึกว่าดีขึ้น แม้จะยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร" การลงโทษตัวเองทางความรู้สึก ว่าเป็นคนที่คอยสร้างแต่ปัญหา การถูกเปรียบเทียบว่ายังไม่ดีเท่ากับคนอื่นๆ การปกป้องตัวเองด้วยการสร้างเกราะป้องกันให้กับความรู้สึกข้างในที่อ่อนไหว ภายนอกที่ดูเข้มแข็ง กับบุคลิกที่เข้มขรึม ขัดกันกับสภาพจิตใจภายในที่อ่อนไหวไร้ทิศทาง "ถ้าไม่เลือกชีวิต ก็ให้ชีวิตเลือกให้" คำพูดของพ่อที่ถูกใช้เป็นหลักในการนำทาง ในวันที่ยังตอบโจทย์ชีวิตของตัวเองไม่ได้ คงไม่เกินจริงมากนัก ในวันที่ยังค้นหาตัวเองไม่เจอ จนกว่าจะค้นพบตัวเองในสักวัน
ความไม่สมบูรณ์แบบของครอบครัวมีส่วนในการสร้างบาดแผลใหญ่ให้ชีวิตและจิตใจ ถ้าเลือกเกิดได้ ไม่ว่าใครก็คงอยากเกิดในครอบครัวที่ตัวเองปรารถนา ครอบครัวที่สมบูรณ์ ครอบครัวที่มีความสุข ครอบครัวที่มีพร้อมทุกอย่าง แต่เพราะเราเลือกเกิดไม่ได้ ชีวิตมันเลยไม่สวยงามดังที่หวัง เรื่องเล่าที่แตกต่าง แต่ทุกคนดูเข้าใจและรับรู้ในความรู้สึกของกันและกันได้เป็นอย่างดี เสมือนว่าพวกเขาเคยผ่านเหตุการณ์นั้นมาด้วยกัน การได้ระบายบางอย่างออกมาจากความอัดอั้น การได้ทำหน้าที่เป็นผู้ฟังที่ดี การพยักหน้าเล็กน้อย ตลอดช่วงเวลาที่ฟังเรื่องราวของคนอื่น สายตาที่ถูกบดบังด้วยหยดน้ำตา แต่แววตากลับแสดงความรู้สึกห่วงใยและปรารถนาดีต่อกันได้อย่างชัดเจน สิ่งที่แต่ละคนเคยเผชิญ ในตอนนี้ บางคนอาจยังต้องทนอยู่ บางคนอาจก้าวข้ามผ่านมาได้แล้ว ผู้เขียนเป็นหนึ่งคนที่ได้ร่วมอยู่ในวงสนทนานี้ เป็นแค่คนที่นั่งฟังเรื่องราวอย่างตั้งใจ ขอใช้โอกาสนี้ในการขอบคุณคนต้นเรื่องทุกคน ที่มีความกล้าหาญในการแบ่งปันเรื่องราวที่เคยทำให้เจ็บปวด ขอบคุณที่ให้โอกาสผู้เขียนในการถ่ายทอดเรื่องราวของทุกคน ผู้เขียนอาจจะกำลังผลิตซ้ำความเจ็บปวด ในขณะที่หวนนึกถึง ในขณะที่ร้อยเรียงเรื่องราว ก็เหมือนกับการพาตัวเองดำดิ่งลงไปในช่วงเวลานั้นอีกครั้ง และเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า หรือความจริงแล้ว การผิดหวังจากความรักที่เจ็บปวดที่สุด อาจไม่ใช่การผิดหวังจากคู่รัก แต่เป็นการผิดหวังจากครอบครัวต่างหาก [๑] panic วิตกกังวล โรคแพนิก (Panic Disorder) คือ โรควิตกกังวลชนิดหนึ่ง หรือเรียกว่า โรคตื่นตระหนก ผู้ที่เป็นมักมีความรู้สึกกลัว ตื่นตระหนกเป็นอย่างมากแบบไม่คาดคิดมาก่อน และเกิดขึ้นซ้ำๆ จนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและมีความกังวลว่าจะเป็นขึ้นมาอีก
Powered by AkoComment 2.0! |
< ก่อนหน้า | ถัดไป > |
---|