หน้าหลัก arrow ข่าวย้อนหลัง arrow เพียงผีเสื้อกระหยับปีก : มะลิ ณ อุษา
หน้าหลัก
รู้จักยส
อยู่กับปวงประชา
ข่าวย้อนหลัง
เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน
ผู้ไถ่ : รายงานสถานการณ์
การศึกษาเพื่อสิทธิ&สันติภาพ
สื่อสิ่งพิมพ์ ยส.
มุมมองสิทธิฯ ในหนัง
กิจกรรม ยส.
คลังภาพ ยส.
เว็บบอร์ด ยส.
เว็บเพื่อนบ้าน
Facebook ยส.

ยส. (ยุติธรรมและสันติ)

จำนวนผู้เข้าชม
ขณะนี้มี 658 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

คลิก เขียนสมุดเยี่ยมคลิก เขียนสมุดเยี่ยม
ขอบคุณทุกท่าน
ที่แวะเข้ามาค่ะ

แนะนำสื่อ ฉบับล่าสุด


วารสารผู้ไถ่ ฉบับที่ 124: เรียนรู้โลกยุคใหม่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ชีวิต จิตวิญญาณ!?
 วารสารผู้ไถ่
ฉบับที่ 124


วันสันติสากล 1 มกราคม 2024
 สารวันสันติสากล
1 มกราคม 2024
ปัญญาประดิษฐ์
และสันติภาพ


น้ำแห่งชีวิต (Aqua fons vitae)
 น้ำแห่งชีวิต
(Aqua fons vitae)
สมณกระทรวงเพื่อ
ส่งเสริมการพัฒนา
มนุษย์แบบองค์รวม


สมณลิขิตเตือนใจ...แอมะซอนที่รัก (QUERIDA AMAZONIA)
 แอมะซอนที่รัก
(QUERIDA AMAZONIA)
สมณลิขิตเตือนใจ...
ของสมเด็จ-
พระสันตะปาปาฟรังซิส


จงสรรเสริญพระเจ้า... การก้าวออกไปอย่างต่อเนื่องของเอเชีย
หนังสือแปล
จงสรรเสริญพระเจ้า...
การก้าวออกไป
อย่างต่อเนื่องของเอเชีย


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 2 และ3
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร
ภาคที่ 2 และ3
 


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 1
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร ภาคที่ 1



หนังสือ Jesus CEO :  พระเยซูเจ้า นักบริหารชั้นนำ
หนังสือแปล
Jesus CEO :
พระเยซูเจ้า
นักบริหารชั้นนำ



หนังสือ เส้นทางสู่สิทธิมนุษยชนศึกษา
หนังสือ เส้นทางสู่
สิทธิมนุษยชนศึกษา


พระสมณสาสน์ความรักในความจริง : Caritas in Veritate
หนังสือแปล
Caritas in Veritate :

พระสมณสาสน์
ความรักในความจริง



โปสเตอร์ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ พ.ศ.2532
โปสเตอร์
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
แห่งสหประชาชาติ
พ.ศ.2532


เว็บเพื่อนบ้าน

แวดวงต่างประเทศ

Pax Christi International - PCI

ACPP - Hotline Asia


ดูเว็บอื่นๆ ในหมวด

เว็บน่าสนใจ

เว็บด้านสิทธิฯ

ข่าวสาร/บันเทิง

หน่วยงานองค์กรคาทอลิก

บทความล่าสุด

   อนึ่ง บทความ หรือข้อเขียนทั้งหมดที่นำลงเว็บไซต์ jpthai.org เป็นทัศนะเฉพาะของผู้เขียน
และไม่ผูกพันกับคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อความยุติธรรมและสันติ

ทางเว็บไซต์ jpthai อนุญาตให้คัดลอกบทความ/ข้อมูล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้
แต่กรุณาระบุชื่อผู้เขียน และแหล่งที่มาด้วย ขอบคุณค่ะ

 

Donation / สนับสนุนการดำเนินงาน

  • โอนเข้าบัญชี ในนาม
    คณะกรรมการคาทอลิกฯ แผนกยุติธรรมและสันติ 
    ธนาคารกสิกรไทย สาขาห้วยขวาง บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 084-2-07639-2
    (กรุณา
    ส่งสำเนาการโอนเงินทางอีเมล์ ccjpthai@gmail.com)
    (หรือ ส่งสำเนามาที่ LINE:
    https://lin.ee/LdMulwv)

  • ทางธนาณัติ สั่งจ่ายในนาม “ปริญดา วาปีกัง” ตู้ ปณ. สุทธิสาร (10321)
    114 (2492) ถ.ประชาสงเคราะห์ ซอย 24 ดินแดง กรุงเทพฯ 10400

เพียงผีเสื้อกระหยับปีก : มะลิ ณ อุษา พิมพ์
Wednesday, 23 October 2013

เพียงผีเสื้อกระหยับปีก

โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 11 เดือนสิงหาคม 2556


เพียงการกระหยับปีกของผีเสื้อหนึ่งครั้ง โลกทั้งใบก็สะเทือนเลื่อนลั่น พลิกผันแปรเปลี่ยน ทั้งการก่อเกิดและดับสูญ ณ ที่แห่งนั้น บทเพลงแห่งมรณานุสติจะเริ่มบรรเลง การร่ายรำอันวิจิตรจะเริ่มขึ้น... การร่ายรำของชีวิตจะเริ่มขึ้น... เพียงชั่วขณะผีเสื้อกระหยับปีก

หากใครเคยประสบอุบัติเหตุ จะเข้าใจความหมายของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในเวลาเพียงชั่วผีเสื้อกระหยับปีกได้อย่างลึกซึ้ง ไม่มีสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าใดๆ เราอาจล้มลงในขณะที่กำลังยิ้มหัวอยู่ก็ได้

"ถ้ารู้อย่างนี้...ฉันคงจะ..."
คือ ประโยคที่แสดงความสายเกินไปเสมอ

ในวงสนทนาระหว่างการอบรม หลายครั้งมักมีประเด็นคำถามที่ว่า ถ้าเรามีเวลาในชีวิตเหลืออยู่เพียงแค่ 7 วัน เราจะทำอะไรบ้าง เพราะอะไร

แม้จะต่างกรรมต่างวาระ แต่เรื่องราวที่เราแลกเปลี่ยนกันแทบจะไม่แตกต่างกันเลย

ไม่น่าแปลกใจเท่าไรนักที่ผลลัพธ์ท้ายที่สุดปรากฏออกมาคล้ายคลึงกัน แต่ที่น่าแปลกใจคือ เรื่องราวในวงสนทนาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ผู้คนต่างบอกเล่าถึงเป้าหมายและความปรารถนาในชีวิตที่แตกต่างหลากหลาย สุดแท้แต่ใครจะรังสรรค์ให้กับชีวิตของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็น การเลื่อนขั้น/ตำแหน่ง มีรายได้ที่มั่นคง การงานที่มีเกียรติ มีสวัสดิการที่ดี มีบ้าน มีรถ ธุรกิจทำกำไร ไปเที่ยวต่างประเทศ/รอบโลก ได้กินอาหารที่ดีๆ มีสุขภาพที่แข็งแรง สอบเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง/คณะในฝัน เที่ยวรอบโลก ตีตั๋วไปดวงจันทร์/ ดาวอังคาร เจอเนื้อคู่ แต่งงานกับคนที่แอบรัก ปิดการขายที่ยากๆ มีบริษัท/ธุรกิจของตัวเอง ฯลฯ

แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ 7 วันสุดท้ายของชีวิต...

"บ้าน" คือ ที่ที่คนส่วนใหญ่เลือก บ้านในที่นี้ไม่ได้หมายความเพียงแค่สิ่งปลูกสร้างบนผืนแผ่นดินเท่านั้น แต่ยังกินความครอบคลุมถึง "คนที่รัก" ด้วย

การได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา การไปเที่ยวด้วยกัน ฯลฯ รวมความได้ว่า การได้ใช้เวลา "อยู่" กับคนที่รักและมีความหมายสำหรับเรา คือ ท่วงท่าที่เราเลือกเพื่อเริงร่ายก่อนจะถึงบทเพลงท่อนสุดท้าย

เมื่ออ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว หากมีความรู้สึกหดหู่หม่นมัวก่อตัวขึ้นในหัวใจของเรา นั่นอาจหมายความว่า เรายังไม่พร้อม หวั่นไหว และมีสิ่งที่ติดค้างอยู่ ยิ่งความรู้สึกรุนแรงเท่าใด ก็อาจหมายถึงปริมาณของสิ่งที่ค้างคาอยู่มากมายเท่านั้น ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา...

บางทีการให้เวลาถึง 7 วันก็ถือว่ายาวนานเกินไป ในความเป็นจริงไม่ใช่ทุกคนที่รู้เวลาล่วงหน้ายาวนานขนาดนั้น ดังนั้น ถ้าหากเรามีเวลาในชีวิตเหลืออยู่เพียงแค่ 24 ชั่วโมงนับจากนี้ เราจะทำอะไรบ้าง เพราะอะไร

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ดำเนินเป็นกิจวัตรปกติ ตื่นเช้า กินข้าว เดินทางไปทำงาน/เรียนหนังสือ คุยกับเพื่อน ดูหนัง ฯลฯ แล้วจู่ๆ ก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้น ทำให้ชีวิตของเราเหลือเวลาแค่เพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น

บางที "บ้าน" และ "คนที่รัก" อาจอยู่ไกลเกินกว่าจะมา "อยู่" ด้วยกันภายในเวลา 24 ชั่วโมง แล้วเราจะทำอย่างไร?

บางคนบอกว่า จะเบิกเงินที่มีอยู่ในธนาคารทั้งหมดออกมา ซื้อ กิน ดื่ม เดินทาง ฯลฯ ทำทุกอย่างที่อยากจะทำ บางคนก็บอกว่าทำพินัยกรรมเพื่อจัดการทรัพย์สินให้คนที่อยู่ข้างหลังไม่เดือดร้อน บางคนก็บอกว่าเข้าวัด/ศาสนสถานเพื่อทำใจให้สงบ บางคนก็ใช้เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงถึง "คนที่รัก" จากที่ที่ห่างไกล และบางคนยังยืนยันที่จะกลับ "บ้าน" แม้จะไปถึงแค่ครึ่งทางก็ยังดี ฯลฯ

บางคนเลือกที่จะอยู่ท่ามกลางผู้คน ในขณะที่บางคนแยกตัวออกมาเพียงลำพัง

ความรู้สึกหดหู่บีบคั้นหัวใจยังคงมีอยู่ไหม? นั่นเป็นเรื่องธรรมดา...

เราต่างได้รับโจทย์ในการล่วงรู้เวลาสุดท้ายแห่งชีวิตที่แตกต่างกัน ก่อนหน้านี้เราพูดถึงเหตุการณ์สมมติที่อาจเกิดขึ้นได้ ภายในช่วงเวลาต่างๆ ทั้ง 7 วันและ 24 ชั่วโมง และถ้าหากเรามีเวลาในชีวิตเหลืออยู่เพียงแค่ 60 นาทีล่ะ เราจะทำอะไรบ้าง เพราะอะไร

เวลา 60 นาทีอาจดูเหมือนยาวนาน สำหรับการรอคอยใครสักคน แต่เวลา 60 นาทีช่างน้อยนิดเสียเหลือเกินกับการเตรียมตัวจากลาทุกๆ คน แต่นี่คือสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นเรื่องธรรมดา...

"บ้าน" ที่คนส่วนใหญ่เลือกเป็นแหล่งพักพิงสุดท้าย คือ "ร่างกายกับลมหายใจ" และสิ่งที่คนส่วนใหญ่เลือก "ทำ" เพื่อ "คนที่รัก" คือ การกล่าวขอบคุณและขอโทษสำหรับเรื่องราวที่ผ่านมา แม้กระทั่ง "คนที่ไม่รัก" การกล่าวคำขอโทษก็เป็นสิ่งที่หลายคนเลือกเพื่อชำระสะสางสิ่งที่ติดค้างในใจตลอดชีวิตที่ผ่านมาด้วย

คำถามสำคัญก่อนปิดวงสนทนาแต่ละครั้งมีอยู่ว่า แล้วทำไมเราจึงไม่เริ่มทำสิ่งเหล่านี้เสียตั้งแต่วันนี้ล่ะ จะรอให้ถึงเวลานั้นทำไม ใครจะรู้ว่าโจทย์ที่เราได้รับนั้น จะเป็น 3 เดือน 7 วัน 24 ชั่วโมง หรือเสี้ยววินาที

ก็เพราะ...ฉันยังอยู่ในวัยเรียน มีเรื่องราวสนุกๆ อีกมากมายรออยู่ ฉันยังแข็งแรงและสามารถเติบโตต่อไปได้อีกนาน จะมาคิดเรื่องนี้ให้เสียเวลา(สนุก)ทำไม

ก็เพราะ...ฉันยังอยู่ในวัยทำงาน ชีวิตอันอิสรเสรีเพิ่งเริ่มต้นขึ้น ฉันกำลังมีความรักและกำลังวางแผนอนาคตกับคนที่รัก ฉันกำลังจะเริ่มต้นก่อร่างสร้างตัว กำลังมีครอบครัวของตัวเอง ชีวิตเพิ่งเริ่มต้น การงานกำลังก้าวหน้า มีเรื่องท้าทายความสามารถให้ฉันต้องคิดและไต่ระดับให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ การคิดถึงความตายเป็นเรื่องเศร้าเกินไป ฉันยังไม่อยากสูญเสียดอกไม้ที่เพิ่งเบ่งบานไป

ก็เพราะ...ฉันเพิ่งดื่มกินดอกผลจากการตรากตรำทำงานตลอดชีวิตที่ผ่านมา หลังของฉันเพิ่งได้เอนพัก ร่างกายเพิ่งได้หลับเต็มตื่น ลูกกำลังจะประสบความสำเร็จ หลานกำลังจะเติบโต ฉันยังอยากเห็นชีวิตที่สวยสดงดงามของพวกเขา การคิดถึงความตายทำให้ฉันห่อเหี่ยวเกินไป ฯลฯ

เพียงชั่วขณะที่ผีเสื้อกระหยับปีก กระแสลมวูบหนึ่งก็พัดผ่านไป ใบไม้ปลิดปลิวจากขั้ว ลอยคว้างอยู่ในอากาศเพียงครู่ ก่อนที่จะทิ้งตัวสู่ผืนดิน คุณรู้ไหมบนผืนแผ่นดินแห่งนั้น มีใบไม้ทั้งสีน้ำตาลแห่งกรอบ สีเหลืองที่มีรูพรุน และสีเขียวอ่อนแรกผลิ

ใครจะรู้ว่าในการกระหยับปีกของผีเสื้อครั้งต่อไป ใบไม้ใบไหนจะร่วงหล่นลงมาบ้าง...

และ หากความรู้สึกหดหู่บีบคั้นหัวใจยังคงมีอยู่ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา...

มะลิ ณ อุษา

 

ที่มา เครือข่ายพุทธิกา | ใน คอลัมน์ มองย้อนศร : http://www.budnet.org/

 

ความคิดเห็น

เขียนความคิดเห็น
ชื่อ:
หัวเรื่อง:
BBCode:Web AddressEmail AddressBold TextItalic TextUnderlined TextQuoteCodeOpen ListList ItemClose List
ความคิดเห็น:



รหัส:* Code

Powered by AkoComment 2.0!

< ก่อนหน้า   ถัดไป >