หน้าหลัก arrow ข่าวย้อนหลัง arrow การเมืองร้อนรุ่ม แต่ใจสงบเย็น : พระไพศาล วิสาโล
หน้าหลัก
รู้จักยส
อยู่กับปวงประชา
ข่าวย้อนหลัง
เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน
ผู้ไถ่ : รายงานสถานการณ์
การศึกษาเพื่อสิทธิ&สันติภาพ
สื่อสิ่งพิมพ์ ยส.
มุมมองสิทธิฯ ในหนัง
กิจกรรม ยส.
คลังภาพ ยส.
เว็บบอร์ด ยส.
เว็บเพื่อนบ้าน
Facebook ยส.

ยส. (ยุติธรรมและสันติ)

จำนวนผู้เข้าชม
ขณะนี้มี 689 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

คลิก เขียนสมุดเยี่ยมคลิก เขียนสมุดเยี่ยม
ขอบคุณทุกท่าน
ที่แวะเข้ามาค่ะ

แนะนำสื่อ ฉบับล่าสุด


วารสารผู้ไถ่ ฉบับที่ 123: ชีวิต การต่อสู้ เพื่อความดีของกันและกัน กำลังใจ ความรัก และความหวัง
 วารสารผู้ไถ่
ฉบับที่ 123


วันสันติสากล 1 มกราคม 2024
 สารวันสันติสากล
1 มกราคม 2024
ปัญญาประดิษฐ์
และสันติภาพ


น้ำแห่งชีวิต (Aqua fons vitae)
 น้ำแห่งชีวิต
(Aqua fons vitae)
สมณกระทรวงเพื่อ
ส่งเสริมการพัฒนา
มนุษย์แบบองค์รวม


สมณลิขิตเตือนใจ...แอมะซอนที่รัก (QUERIDA AMAZONIA)
 แอมะซอนที่รัก
(QUERIDA AMAZONIA)
สมณลิขิตเตือนใจ...
ของสมเด็จ-
พระสันตะปาปาฟรังซิส


จงสรรเสริญพระเจ้า... การก้าวออกไปอย่างต่อเนื่องของเอเชีย
หนังสือแปล
จงสรรเสริญพระเจ้า...
การก้าวออกไป
อย่างต่อเนื่องของเอเชีย


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 2 และ3
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร
ภาคที่ 2 และ3
 


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 1
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร ภาคที่ 1



หนังสือ Jesus CEO :  พระเยซูเจ้า นักบริหารชั้นนำ
หนังสือแปล
Jesus CEO :
พระเยซูเจ้า
นักบริหารชั้นนำ



หนังสือ เส้นทางสู่สิทธิมนุษยชนศึกษา
หนังสือ เส้นทางสู่
สิทธิมนุษยชนศึกษา


พระสมณสาสน์ความรักในความจริง : Caritas in Veritate
หนังสือแปล
Caritas in Veritate :

พระสมณสาสน์
ความรักในความจริง



โปสเตอร์ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ พ.ศ.2532
โปสเตอร์
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
แห่งสหประชาชาติ
พ.ศ.2532


เว็บเพื่อนบ้าน

แวดวงต่างประเทศ

Pax Christi International - PCI

ACPP - Hotline Asia


ดูเว็บอื่นๆ ในหมวด

เว็บน่าสนใจ

เว็บด้านสิทธิฯ

ข่าวสาร/บันเทิง

หน่วยงานองค์กรคาทอลิก

บทความล่าสุด

   อนึ่ง บทความ หรือข้อเขียนทั้งหมดที่นำลงเว็บไซต์ jpthai.org เป็นทัศนะเฉพาะของผู้เขียน
และไม่ผูกพันกับคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อความยุติธรรมและสันติ

ทางเว็บไซต์ jpthai อนุญาตให้คัดลอกบทความ/ข้อมูล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้
แต่กรุณาระบุชื่อผู้เขียน และแหล่งที่มาด้วย ขอบคุณค่ะ

 

Donation / สนับสนุนการดำเนินงาน

  • โอนเข้าบัญชี ในนาม
    คณะกรรมการคาทอลิกฯ แผนกยุติธรรมและสันติ 
    ธนาคารกสิกรไทย สาขาห้วยขวาง บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 084-2-07639-2
    (กรุณา
    ส่งสำเนาการโอนเงินทางอีเมล์ ccjpthai@gmail.com)
    (หรือ ส่งสำเนามาที่ LINE:
    https://lin.ee/LdMulwv)

  • ทางธนาณัติ สั่งจ่ายในนาม “ปริญดา วาปีกัง” ตู้ ปณ. สุทธิสาร (10321)
    114 (2492) ถ.ประชาสงเคราะห์ ซอย 24 ดินแดง กรุงเทพฯ 10400

การเมืองร้อนรุ่ม แต่ใจสงบเย็น : พระไพศาล วิสาโล พิมพ์
Wednesday, 02 September 2009

การเมืองร้อนรุ่ม แต่ใจสงบเย็น

สุขใจในนาคร ฉบับเดือน พฤษภาคม 2552

ทุกวันนี้ผู้คนสนใจการเมืองมากเกินไป เราติดตามข่าวสารวันละหลายชั่วโมง แต่แล้วกลับปล่อยวางไม่ได้ ใครๆ ก็ชอบบ่นว่าข่าวการเมืองทำให้เครียด แต่ยิ่งเครียดก็ยิ่งติดตามข่าวไม่ยอมห่าง จนถูกข่าวสารครอบงำชีวิตจิตใจไปโดยไม่รู้ตัว หลายคนดูข่าวไปก็สบถด่าไป ท่าทางมีความทุกข์มากกับสิ่งที่เห็น แต่ก็ไม่ยอมเลิกดูเสียที ราวกับว่าข่าวสารบ้านเมืองกลายเป็นนายเราไปแล้ว

เราลืมไปแล้วหรือว่าข่าวสารบ้านเมืองเป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิต ชีวิตเรายังมีอีกหลายอย่างที่ควรสนใจ ดังนั้นเราจึงควรรู้จักปล่อยวางข่าวสารบ้านเมืองบ้าง เพื่อเอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์ รวมทั้งมีเวลาสำหรับตามลมหายใจบ้าง ลองหายใจเข้า-ออกด้วยความรู้สึกตัวหายใจเข้าลึก ๆ ก็รู้ตัว หายใจออกยาวๆ ก็รู้ตัว หรือไม่ก็หาเวลาว่างไปอยู่กับธรรมชาติบ้าง มีเวลาชื่นชมต้นไม้ในสวนหลังบ้านหรือริมถนน อย่ามัวแต่หมกมุ่นครุ่นคิดกับเรื่องการเมืองจนลืมชื่นชมสิ่งดีๆ ที่มีอยู่รอบตัว

นอกจากวางการเมืองเอาไว้ข้างตัวชั่วคราวแล้ว ควรละวางความไม่พอใจต่อผู้คน โดยเฉพาะคนที่คิดแตกต่างจากเรา ใครจะไม่เห็นด้วยกับเรา ก็เป็นเรื่องของเขา อย่าไปเก็บเอามาเป็นอารมณ์ ในบรรยากาศที่ร้อนรุ่มแบบนี้ มี ๓ อย่างที่เราควรทำ คือ คือ "มองไกล ใจกว้าง วางได้"

"มองไกล" คือมองย้อนไปในอดีตว่าคนที่คิดต่างจากเราเวลานี้ แต่ก่อนเขาก็เป็นเพื่อนเรา เคยคิดเห็นตรงกับเราหลายอย่าง และอาจเคยร่วมงานกันมามากมาย นอกจากมองย้อนหลังแล้วก็ควรมองไปข้างหน้าให้ไกลๆ ด้วยว่า เรายังต้องอยู่ร่วมกับคนเหล่านี้ไปอีกนาน หากผิดใจกันแล้วจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขต่อไปได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นถึงแม้วันนี้เราจะเห็นต่างกัน แต่วันพรุ่งนี้คงจะมีหลายเรื่องที่เรากับเขาเห็นพ้องต้องกัน และคงได้ทำงานร่วมกันอีก ทุกอย่างไม่ได้จบสิ้นแค่วันนี้

"ใจกว้าง" คือยอมรับว่าความแตกต่างเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีใครที่เห็นเหมือนกับเราในทุกเรื่อง แม้แต่คนที่เรารักและรักเราก็ยังคิดเห็นต่างจากเราในบางเรื่องบางเวลา ถ้าเราไม่พอใจคนที่คิดต่างจากเรา เราก็ต้องไม่พอใจคนทั้งโลก รวมทั้งไม่พอใจตัวเองด้วย เพราะตัวเราเองเมื่อวานก็ยังคิดต่างจากตัวเองในวันนี้ หรือแม้แต่ขณะนี้เราเองก็อาจมีความคิดเห็น ๒ อย่างขัดแย้งกัน (เช่น เสาร์อาทิตย์นี้ใจหนึ่งก็อยากไปวัดแต่อีกใจหนึ่งก็อยากไปเที่ยวต่างจังหวัด) ใจกว้างยังรวมถึงการตระหนักว่ามีแค่บางเรื่องเท่านั้นที่เรากับเขาคิดต่าง กัน แต่เมื่อมองให้กว้างก็จะพบว่ามีมากมายหลายเรื่องที่เขาคิดเหมือนเรา รวมทั้งมีความเหมือนกันอีกหลายอย่าง เช่น อยากเห็นบ้านเมืองมีความสงบ ไม่ชอบคอร์รัปชั่น สงสารเมื่อเห็นคนประสบภัยสึนามิ

"วางได้" ก็คือการรู้จักปล่อยวางสิ่งต่าง ๆ ออกไปจากจิตใจ อะไรก็ตาม หากแบกเอาไว้ย่อมทำให้หนักใจและเป็นทุกข์ แม้แต่ลูก พ่อแม่ หรือคนรัก หากเราครุ่นคิดถึงเขาตลอดเวลาเราก็จะกังวลจนนอนไม่หลับ ขนาดแบกคนที่เรารักยังทำให้ทุกข์ขนาดนี้ นับประสาอะไรกับการแบกยึดคนที่เราไม่ชอบ ที่น่าแปลกก็คือยิ่งไม่ชอบใคร ก็ยิ่งคิดถึงคนนั้น ใจจะจดจ่อหรือไวต่อเรื่องราวของคนนั้นเป็นพิเศษ ทำให้ยิ่งติดยึดเข้าไปใหญ่ แต่ถ้าเรามีสติ เราก็จะปล่อยวางเขาออกไปจากใจ และอยู่อย่างมีความสุขได้

ปล่อยวางไม่ได้แปลว่าไม่รับผิดชอบ แต่หมายถึงการรู้จักเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ อย่างถูกเวลาถูกโอกาส เช่น เวลาทำงานก็ทำอย่างตั้งใจ แต่เมื่อเลิกงาน ก็วางมันลงได้ เวลาจะนอนก็ไม่เอางานการมาครุ่นคิดให้รกสมอง ในทำนองเดียวกัน เราควรมีความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ข่าวสารบ้านเมืองจึงต้องติดตาม แต่อย่าจดจ่อจนหน้าดำคร่ำเครียด หรือกลายเป็นเสพติด จนวางไม่ได้ ปล่อยให้มันเข้ามาครองจิตครองใจ หรือแย่งเวลาและความสุขไปจากเราจนหมด เดี๋ยวนี้หลายคนไม่มีเวลาอยู่กับลูก ไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว เพราะเอาแต่เฝ้าดูโทรทัศน์ติดตามข่าวสาร การทำเช่นนี้เป็นการทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัว และกำลังทำร้ายครอบครัวไปพร้อมๆ กัน ยิ่งกว่านั้นยังอาจจะไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ถ้าทำด้วยความเครียด เต็มไปด้วยความโกรธเกลียด เราก็มีส่วนทำให้บ้านเมืองร้อนรุ่มตามไปด้วย

บ้านเมืองตอนนี้มีบรรยากาศราวกับอบอวลด้วยไอน้ำมัน พร้อมจะลุกเป็นไฟ เราอย่าเป็นคนหนึ่งที่ไปจุดไฟทำให้บรรยากาศร้อนแรงขึ้น ถ้าเราช่วยกันทำใจของตนให้สงบเย็น ทำให้คนในครอบครัวสงบเย็น ทำให้พ่อแม่พี่น้องของเราสงบเย็น เราก็อาจช่วยบ้านเมืองของเราได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจไม่ดี การเมืองน่าวิตก แต่อย่าลืมว่าคนเราไม่ได้มีเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ด้านการเมือง เราไม่ใช่เป็นสัตว์เศรษฐกิจหรือสัตว์การเมือง เรายังมีชีวิตส่วนตัว ยังมีชีวิตครอบครัว ยังมีชีวิตอีกหลายด้าน มีภาระหน้าที่อีกหลายส่วน รวมทั้งการฝึกฝนพัฒนาจิตใจ จึงควรใช้เวลาที่มีอยู่สำหรับการทำหน้าที่อื่นๆ รวมทั้งทำใจให้สงบเย็นบ้าง จะได้รับมือกับปัญหาต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามาได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจตอนนี้ เราต้องยอมรับว่านี้คือความเป็นจริงที่เกิดขึ้นแล้ว อย่าไปปฏิเสธมัน ยิ่งปฏิเสธก็ยิ่งเป็นทุกข์

สิ่งที่ต้องทำในยามนี้เป็นอย่างแรกก็ต้องยอมรับความจริง จากนั้นก็ต้องปรับตัว เช่น ปรับการใช้ชีวิต ใช้จ่ายให้น้อยลง ทำงานหนักขึ้น ประการสุดท้ายคือ ต้องปรับใจด้วย คืออย่าปล่อยใจไปพึ่งพาวัตถุมาก อย่าให้ใจไปพึ่งพิงเงินทองมาก สาเหตุที่เราพากันพึ่งพาวัตถุก็เพราะเราต้องการหาความสุขจากวัตถุ แต่ความสุขไม่ได้เกิดจากวัตถุอย่างเดียว ความสุขเกิดจากจิตใจได้ด้วย ถ้าสามารถหาความสงบสุขจากจิตใจได้ เราจะพึ่งพาเงินทองหรือวัตถุน้อยลง นี้คือสิ่งที่ธรรมะช่วยเราได้ ธรรมะเป็นกุญแจไขไปสู่ความสงบเย็นภายใน เป็นสุขที่ไม่อิงกับอามิส คือ สุขแท้อันประเสริฐ เรียกว่า นิรามิสสุข

ชีวิตของฆราวาสเปรียบเหมือนชีวิตที่เดินอยู่ในที่โล่ง ต้องเจอแดดเจอฝน ถ้าไม่มีอะไรปกป้องคุ้มกัน เจอแดดก็ร้อน เจอฝนก็เปียก แต่ถ้าเรามีร่ม ถึงฝนตกแดดออกก็ไม่เป็นไร ในชีวิตประจำวัน สิ่งที่เราต้องการคือร่มที่ปกป้องจิตใจไม่ให้ร้อนไปตามสิ่งแวดล้อม ไม่ให้ถูกกระทบจากสิ่งรอบตัว แดดจะร้อนอย่างไรแต่ใจสงบ ฝนจะตกอย่างไรแต่ใจปลอดโปร่ง ผู้คนจะร้อนรุ่มอย่างไร แต่ใจเย็นสบาย

ใจต้องมีสิ่งปกป้องคือธรรมะ ร่างกายไม่เปียกเพราะว่ามีร่ม ใจไม่ทุกข์ ไม่ขึ้นไม่ลง ไม่ฟูไม่แฟบ ก็เพราะมีธรรมะเป็นเครื่องรักษาใจ เราจึงควรช่วยกันน้อมนำธรรมะมาปกป้องจิตใจ เพื่อให้ชีวิตเกิดความสงบสุข ใช่แต่เท่านั้นธรรมะยังช่วยให้ความสงบเย็นภายในใจเราแผ่กระจายไปยังคนรอบตัว ทั้งลูกหลาน พ่อแม่ คนรัก ตลอดจนเพื่อนร่วมงาน และกระจายไปถึงผู้คนในสังคมได้ด้วย

โดย... พระไพศาล วิสาโล

ที่มา คอลัมน์ ชวนสังคมคิด : http://www.budnet.org/

 

ความคิดเห็น

เขียนความคิดเห็น
ชื่อ:
หัวเรื่อง:
BBCode:Web AddressEmail AddressBold TextItalic TextUnderlined TextQuoteCodeOpen ListList ItemClose List
ความคิดเห็น:



รหัส:* Code

Powered by AkoComment 2.0!

< ก่อนหน้า   ถัดไป >