หน้าหลัก
หน้าหลัก
รู้จักยส
อยู่กับปวงประชา
ข่าวย้อนหลัง
เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน
ผู้ไถ่ : รายงานสถานการณ์
การศึกษาเพื่อสิทธิ&สันติภาพ
สื่อสิ่งพิมพ์ ยส.
มุมมองสิทธิฯ ในหนัง
กิจกรรม ยส.
คลังภาพ ยส.
เว็บบอร์ด ยส.
เว็บเพื่อนบ้าน
Facebook ยส.

ยส. (ยุติธรรมและสันติ)

จำนวนผู้เข้าชม
ขณะนี้มี 80 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

คลิก เขียนสมุดเยี่ยมคลิก เขียนสมุดเยี่ยม
ขอบคุณทุกท่าน
ที่แวะเข้ามาค่ะ

แนะนำสื่อ ฉบับล่าสุด


วารสารผู้ไถ่ ฉบับที่ 123: ชีวิต การต่อสู้ เพื่อความดีของกันและกัน กำลังใจ ความรัก และความหวัง
 วารสารผู้ไถ่
ฉบับที่ 123


วันสันติสากล 1 มกราคม 2024
 สารวันสันติสากล
1 มกราคม 2024
ปัญญาประดิษฐ์
และสันติภาพ


น้ำแห่งชีวิต (Aqua fons vitae)
 น้ำแห่งชีวิต
(Aqua fons vitae)
สมณกระทรวงเพื่อ
ส่งเสริมการพัฒนา
มนุษย์แบบองค์รวม


สมณลิขิตเตือนใจ...แอมะซอนที่รัก (QUERIDA AMAZONIA)
 แอมะซอนที่รัก
(QUERIDA AMAZONIA)
สมณลิขิตเตือนใจ...
ของสมเด็จ-
พระสันตะปาปาฟรังซิส


จงสรรเสริญพระเจ้า... การก้าวออกไปอย่างต่อเนื่องของเอเชีย
หนังสือแปล
จงสรรเสริญพระเจ้า...
การก้าวออกไป
อย่างต่อเนื่องของเอเชีย


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 2 และ3
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร
ภาคที่ 2 และ3
 


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 1
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร ภาคที่ 1



หนังสือ Jesus CEO :  พระเยซูเจ้า นักบริหารชั้นนำ
หนังสือแปล
Jesus CEO :
พระเยซูเจ้า
นักบริหารชั้นนำ



หนังสือ เส้นทางสู่สิทธิมนุษยชนศึกษา
หนังสือ เส้นทางสู่
สิทธิมนุษยชนศึกษา


พระสมณสาสน์ความรักในความจริง : Caritas in Veritate
หนังสือแปล
Caritas in Veritate :

พระสมณสาสน์
ความรักในความจริง



โปสเตอร์ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ พ.ศ.2532
โปสเตอร์
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
แห่งสหประชาชาติ
พ.ศ.2532


เว็บเพื่อนบ้าน

แวดวงต่างประเทศ

Pax Christi International - PCI

ACPP - Hotline Asia


ดูเว็บอื่นๆ ในหมวด

เว็บน่าสนใจ

เว็บด้านสิทธิฯ

ข่าวสาร/บันเทิง

หน่วยงานองค์กรคาทอลิก


Forrest Gump : ลีออง ๑๙๖๘ พิมพ์
Tuesday, 07 November 2006


เนื้อในหนัง

ลีออง ๑๙๖๘ 

  

จำไว้ ลูกไม่มีอะไรด้อยกว่าใคร

ได้ยินแม่มั้ย ลูกก็เหมือนคนอื่นๆ ทุกคน ไม่มีอะไรแตกต่าง


Imageด้วยน้ำเสียง และท่าทางที่ดูจริงจังของ มิสซิสกัมพ์ ที่พร่ำสอนลูกชายของเธอว่าไม่แตก ต่างไปจากคนอื่นๆ ดูจะค้านกับสายตา และสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ที่ได้ชมภาพยนต์เรื่องนี้มาแล้วเกือบทั่วโลก ทำไมน่ะหรือ?  ก็เพราะลูกชายของเธอที่เธอบอกว่าไม่แตกต่างไปจากคนอื่นน่ะ ใส่เหล็กดามขา เดินท่าประหลาดๆ แถมซ้ำยังเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางด้านสมองที่เราๆ ท่านๆ ต่างก็เรียกว่าปัญญาอ่อนอีกด้วย


อ่านมาถึงตรงนี้คิดว่า หลายท่านคงจะพอรู้จักกับลูกชายของเธอกันมาแล้ว

“I AM FORREST FORREST GUMP!” ลีลา การทักทายและแนะนำตัวเองเสร็จสรรพแบบนี้ และก็เป็นแบบนี้แบบเดียวมาตั้งแต่เล็กจนโตของผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งดำเนินชีวิตมาด้วยสติปัญญาที่มีระดับ IQ เพียงแค่ 75  ผ่านความสับสนวุ่นวายของสังคมอเมริกันยุคหนึ่งที่เต็มไปด้วยความโกลาหล ได้อย่าง เรียบง่าย สวยงาม จนน่าอัศจรรย์ใจ

ภาพยนต์เปิดฉากด้วยภาพขนนกที่ล่องลอย พริ้วไหวไปตามสายลมอ่อนๆ ขับคลอด้วยเสียงดนตรีเหงาๆ เหมือนจะสื่อให้รู้ถึงเรื่อง ราวบางอย่าง ไม่ต้านทาน ไม่ขัดขืน ปลิวเคว้งคว้างต่ำลง ... จนมาหยุดที่เท้าชายคนหนึ่ง

ฟอเรสท์ กัมพ์ (รับบทโดย Tom Hanks) เป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางด้านสมอง เติบโตมาในครอบครัวที่มีปัญหาการหย่าร้าง ทำให้เขามีเพียง มิสซิสกัมพ์ (รับบทโดยSally Field) ผู้เป็นแม่เพียงคนเดียว ปัญหาดังกล่าวซึ่งน่าจะดูเลวร้ายเกินไปสำหรับเด็กอย่าง กัมพ์ แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้นเลย เพราะถึงกัมพ์จะมีความบกพร่องทางสมอง แต่ในขณะเดียวกันอีกด้าน เขาก็มีความเป็นอัจฉริยะอยู่ด้วย ทำให้กัมพ์มีความสามารถพิเศษมากมายอย่างยากที่จะอธิบาย ส่วนปัญหาทางครอบครัว มิสซิสกัมพ์ก็ไม่ทำให้กัมพ์รู้สึกขาดอะไรไปเลย แน่นอนการเลี้ยงดูเด็กพิเศษอย่างกัมพ์เพียงลำพัง ย่อมต้องใช้ความเอาใจใส่และความพยายามมากกว่าเด็กปกติทั่ว ไป แต่มิสซิสกัมพ์ก็ทำมันได้อย่างสมบรูณ์ และไม่ใช่เพียงแค่นั้น เธอยังปลูกฝัง สั่งสอน และพยายามทุกวิถีทาง เพื่อให้ลูกของเธอได้มีความเสมอภาคทางด้านสิทธิ และโอกาส เท่าเทียมกับเด็กปกติทั่วไป  และจากสิ่งเหล่านี้เอง ทำให้กัมพ์ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างง่าย ดาย ภายใต้ปรัชญาชีวิตง่ายๆ

แม่ของผมชอบพูดว่า ชีวิตก็เหมือนช็อคโกแล็ตซักกล่อง เราไม่รู้ว่าในนั้นมีอะไรบ้าง(ในที่นี้น่าจะหมายถึงกล่องช็อคโกแล็ตแบบคละรส ที่ไม่รู้ว่าจะมีรสใดบ้าง) ทำให้ทุกสิ่งที่กัมพ์ได้พบเจอ แม้บางครั้งจะหนักเกินไปในระดับสติปัญญาของเขา ก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่สำหรับเขาเลย แต่ส่งผลดีในทางกลับกันอีกด้วย เพราะจากการที่ กัมพ์ไม่สามารถเข้าใจอะไรที่ซับซ้อนได้มากนักประกอบกับสิ่งที่มิสซิสกัมพ์ปลูกฝัง ทำให้เขาก้าวข้ามพ้นกฎเกณฑ์ต่างๆ ในสังคมที่คอยปิดกั้นความคิดและสิทธิในการแสดงออกของเขาอย่างที่เราๆ ท่านๆ ไม่สามารถทำได้

ดังนั้น สิ่งที่กัมพ์พูดและแสดงออก ล้วนออกมาจากความรู้สึกของหัวใจจริงๆ เป็นไปตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องคำนึงถึงชนชั้น ฐานะและความเลื่อมล้ำใดๆ ในสังคม

อย่างเมื่อคราวที่กัมพ์ได้มีโอกาสเข้าพบประธานา ธิบดีเคนเนดี้ ในฐานะที่เขาได้เป็นนักอเมริกันฟุตบอลทีมชาติ และได้รับการเลี้ยงต้อนรับที่ทำเนียบขาว กัมพ์ก็ไม่ได้รู้สึกภาคภูมิใจกับเหตุการณ์ครั้งนั้นเลย

ข้อดีของการเข้าพบประธานาธิบดี ก็คือ อาหาร  ในห้องนั้นมีทุกอย่างให้เรากิน กัมพ์กลับให้ความสนใจกับสิ่งที่เป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์เท่านั้นเอง   และจากเหตุการณ์เดียวกันนี้ นักกีฬาทีมชาติทุกคนได้รับโอกาสสัมผัสมือกับประธานาธิบดีอีกด้วย  

รู้สึกอย่างไรบ้าง” “รู้สึกดีครับ คำถาม - คำตอบที่คล้ายๆ กันแบบนี้เกิดขึ้น ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ซึ่งก็เป็นไปตามมารยาท ระหว่างประธานาธิบดีกับนักอเมริกันฟุตบอลทีมชาติ  จนมาถึงกัมพ์  ก็ยังเป็นคำถามเดียวกัน แต่คำตอบจากความรู้สึกจริงๆ ของเขา หลังจากที่ดื่มน้ำอัดลมมาเต็มคราบ กลับต่างออกไปจากเพื่อนร่วมทีม แบบที่ประธานาธิบดีเคนเนดี้ แทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง

ผมปวดฉี่ครับ เป็นไงครับ! เห็นอิสระทางความคิดและสิทธิในการแสดงออกที่ตรงไปตรงมา ของ กัมพ์ หรือยัง?

ส่วนสิทธิของผู้อื่น กัมพ์ก็ไม่ได้ละเลย จะเห็นได้จากเมื่อคราวที่กัมพ์เป็นทหารและได้เข้าร่วมรบในสงครามเวียดนาม ในขณะที่กองร้อยของเขาถูกโจมตีอย่างหนัก กัมพ์เป็นคนเดียวที่หนีรอดออกมาได้ แต่เขาก็ตัดสินใจกลับเข้าไปในสนามรบอีกครั้งเพื่อที่จะช่วยบั๊บบ้าเพื่อนสนิทของเขาที่บาดเจ็บและติดอยู่ในนั้น แต่ระหว่างทาง กัมพ์ได้เจอกับทหารร่วมกองร้อยที่บาดเจ็บและร้องขอความช่วยเหลืออีกหลายคน กัมพ์ก็ไม่รีรอที่จะช่วยคนเหล่านั้นเลย ถึงจะไม่ใช่เพื่อนสนิท แต่ทุกคนก็มีสิทธิที่จะมีชีวิตและมีสิทธิที่จะได้รับความช่วยเหลือ อย่างเท่าเทียมกัน และด้วยเหตุนี้เองทำให้กัมพ์เป็นวีรบุรุษสงครามเวียด นาม และได้รับเหรียญกล้าหาญจากประธานาธิบดี ลินคอล์น บี จอห์นสัน 

และจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังมีความ สำเร็จของกัมพ์อีกมากมายที่ผู้เขียนไม่ได้กล่าวถึง แน่นอนความสำเร็จเหล่านั้นมาจากความสามารถพิเศษที่เป็นพรสวรรค์ของเขาเอง ซึ่งคงเป็นไปได้เพียงในภาพยนตร์ แต่ก็ไม่ใช่เสียทั้งหมด เพราะถ้ากัมพ์ขาดความเอาใจใส่ อบรมเลี้ยงดู ด้วยวิธีที่ถูกต้องจากผู้เป็นแม่ที่ทำให้เขาไม่รู้สึกด้อยหรือแตกต่างไปจากใคร มีสิทธิและโอกาสเท่าเทียมกับคนอื่นๆ  ความสำเร็จเหล่านั้นคงไม่เกิดกับคนที่บกพร่องทางสมองอย่างกัมพ์แน่นอน อันหลังนี้เอาไปใช้ในชีวิตจริงกับเด็กที่มีปัญหาเหมือนกัมพ์ได้ไหม?  ฝากให้คิดกัน

 

ความคิดเห็น

เขียนความคิดเห็น
ชื่อ:
หัวเรื่อง:
BBCode:Web AddressEmail AddressBold TextItalic TextUnderlined TextQuoteCodeOpen ListList ItemClose List
ความคิดเห็น:



รหัส:* Code

Powered by AkoComment 2.0!

< ก่อนหน้า   ถัดไป >