บทความล่าสุด |
---|
โรคร้ายเกี่ยวกับสายตา...สายตาที่มองไม่เห็นคนอื่น |
Wednesday, 18 January 2017 | ||||
จากวารสารผู้ไถ่ ฉบับที่ 61 (มกราคม - เมษายน 2546)
โรคร้ายเกี่ยวกับสายตา...สายตาที่มองไม่เห็นคนอื่น
เราเคยนั่งรถเมล์แล้วทำเป็นมองไม่เห็นคนข้างๆ ไหม...ความจริงก็เห็นนั่นแหละ แต่ไม่อยากสนใจ ไม่อยากมองเห็นซะอย่างนั้น...หรือเคยเข้าไปในลิฟต์ที่มีคนอื่นอยู่ด้วยไหม เราอาจยื่นมือออกไปกดเลขชั้นที่เราต้องการในลิฟต์ โดยไม่ต้องสนใจว่ามือของเราเฉียดเข้าไปใกล้ใครหรือเปล่า ขณะเดียวกับที่ใครคนนั้นก็ทำเป็นไม่เห็นว่ามีมือของเราอยู่ในโลกนี้...
บางครั้งเราก็เดินผ่านคนเปิดประตูตามห้างสรรพสินค้าหรือโรงแรมดัง ที่กำลังโค้งให้เราอย่างงดงาม ฉับพลันคอก็แข็ง ปากปิดสนิท สายตาก็มองไปแต่เบื้องหน้า แล้วทำเหมือนไม่มีใครอยู่ที่นั้นเช่นเคย
หรือยามเช้าในร้านข้าวแกงปากซอย เคยเดินผ่านโต๊ะอื่นแล้วหยิบหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่ไปอ่านโดยไม่ต้องสบตาคนที่นั่งโต๊ะนั้นให้เสียเวลาซักนิด บ้างหรือเปล่า...
แน่ล่ะ บางทีเราก็มองเห็นคนอื่นๆ อยู่เหมือนกัน แต่พอนึกออกบ้างหรือเปล่าว่าในแต่ละวันสายตาของเรามองไม่เห็นคนข้างๆ กี่ครั้งกี่คราว...สายตาของพวกเราเป็นอะไรไปเสียแล้ว
แต่เอ...บางทีสายตาแบบนี้ก็มีข้อดีเหมือนกันนะ ลองแจกแจงเป็นข้อๆ แล้วก็เห็นว่าเยอะดีดังนี้นะ
อย่างแรก จะได้ไม่ต้องไปมองสายตาเย็นชาของคนอื่นให้มันเจ็บใจ ก็ไม่เห็นมีใครมองตอบเราเลยนี่
ลดความรำคาญไปอีกโข ถ้าเจอเด็กเอาดอกกุหลาบมาขายตามโต๊ะอาหาร ไม่งั้นก็ตื้ออยู่นั่นแหละ ทำเป็นไม่เห็นมันซะเลย เดี๋ยวมันก็ไปแล้วล่ะ
สายตาที่มองไม่เห็นนี่ก็ทำให้ปลอดภัยด้วยนะ เห็นคนลวนลามกัน ขโมยของกัน รุมทำร้ายกัน ทำลายของสาธารณะ ใกล้กับที่เรายืนอยู่ก็ทำเป็นไม่เห็นเข้าไว้ เราจะได้ปลอดภัยหายห่วง ตำรวจก็ไม่ต้องไปแจ้งให้ยุ่งยาก ปากก็ไม่ต้องเที่ยวไปตะโกนให้ใครต่อใครมาช่วยใครก็ไม่รู้จักสักหน่อย ก็มองไม่เห็นนี่นะ ช่วยไม่ได้
สายตาแบบนี้ทำให้ไม่ต้องปวดหัว ใครทำอะไร เดือดร้อนอย่างไร ใครเอาเปรียบใคร สังคมจะยุติธรรมหรือไม่ ธรรมชาติโดนทำลายอย่างไร ไม่ต้องไปสนไม่ต้องไปแลให้ปวดขมอง
...มันจะดีไหมนะ ถ้าพวกเราต้องอยู่ในเมืองที่คนมีสายตาแบบนี้ สายตาที่ไม่ต้องสนใจใครๆ ทั้งนั้น
แต่ถ้าพวกเราได้มีโอกาสไปต่างจังหวัดครั้งใด เราก็มักจะได้ประทับใจกับสายตาที่เป็นมิตรจากคนที่นั่น...และก็ดูเหมือนกับว่าสายตาของเราก็จะเปลี่ยนไปเป็นมิตรให้ใครคนนั้นทันที...
พวกเราเองก็มีสายตาที่เป็นมิตรกับคนแปลกหน้าได้นี่นา...แล้วจะดีแค่ไหนถ้าในสังคมที่เราอยู่มีแต่คนที่ไม่เมินเฉยต่อกัน มีสายตาที่เป็นมิตรต่อกัน มีแต่น้ำใจต่อกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน เราทั้งหลายมีสายตามองไปยังปัญหาในสังคมร่วมกัน มองหาทางออกร่วมกัน ทีนี้ใครจะเป็นคนเริ่ม จะบังคับให้ใครเริ่มก่อนดีล่ะ เริ่มที่จะมองเห็นกันอีกครั้ง เริ่มที่จะใส่ใจกันอีกครั้ง เริ่มที่จะรักษาโรคร้ายเกี่ยวกับสายตาที่เกาะกินพวกเราจนแทบจะมองไม่เห็นใคร ออกไปเสียที...
Powered by AkoComment 2.0! |
< ก่อนหน้า | ถัดไป > |
---|