หน้าหลัก arrow หน้าหลัก
หน้าหลัก
รู้จักยส
อยู่กับปวงประชา
ข่าวย้อนหลัง
เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน
ผู้ไถ่ : รายงานสถานการณ์
การศึกษาเพื่อสิทธิ&สันติภาพ
สื่อสิ่งพิมพ์ ยส.
มุมมองสิทธิฯ ในหนัง
กิจกรรม ยส.
คลังภาพ ยส.
เว็บบอร์ด ยส.
เว็บเพื่อนบ้าน
Facebook ยส.

ยส. (ยุติธรรมและสันติ)

จำนวนผู้เข้าชม
ขณะนี้มี 71 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

คลิก เขียนสมุดเยี่ยมคลิก เขียนสมุดเยี่ยม
ขอบคุณทุกท่าน
ที่แวะเข้ามาค่ะ

แนะนำสื่อ ฉบับล่าสุด


วารสารผู้ไถ่ ฉบับที่ 123: ชีวิต การต่อสู้ เพื่อความดีของกันและกัน กำลังใจ ความรัก และความหวัง
 วารสารผู้ไถ่
ฉบับที่ 123


วันสันติสากล 1 มกราคม 2024
 สารวันสันติสากล
1 มกราคม 2024
ปัญญาประดิษฐ์
และสันติภาพ


น้ำแห่งชีวิต (Aqua fons vitae)
 น้ำแห่งชีวิต
(Aqua fons vitae)
สมณกระทรวงเพื่อ
ส่งเสริมการพัฒนา
มนุษย์แบบองค์รวม


สมณลิขิตเตือนใจ...แอมะซอนที่รัก (QUERIDA AMAZONIA)
 แอมะซอนที่รัก
(QUERIDA AMAZONIA)
สมณลิขิตเตือนใจ...
ของสมเด็จ-
พระสันตะปาปาฟรังซิส


จงสรรเสริญพระเจ้า... การก้าวออกไปอย่างต่อเนื่องของเอเชีย
หนังสือแปล
จงสรรเสริญพระเจ้า...
การก้าวออกไป
อย่างต่อเนื่องของเอเชีย


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 2 และ3
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร
ภาคที่ 2 และ3
 


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 1
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร ภาคที่ 1



หนังสือ Jesus CEO :  พระเยซูเจ้า นักบริหารชั้นนำ
หนังสือแปล
Jesus CEO :
พระเยซูเจ้า
นักบริหารชั้นนำ



หนังสือ เส้นทางสู่สิทธิมนุษยชนศึกษา
หนังสือ เส้นทางสู่
สิทธิมนุษยชนศึกษา


พระสมณสาสน์ความรักในความจริง : Caritas in Veritate
หนังสือแปล
Caritas in Veritate :

พระสมณสาสน์
ความรักในความจริง



โปสเตอร์ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ พ.ศ.2532
โปสเตอร์
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
แห่งสหประชาชาติ
พ.ศ.2532


เว็บเพื่อนบ้าน

แวดวงต่างประเทศ

Pax Christi International - PCI

ACPP - Hotline Asia


ดูเว็บอื่นๆ ในหมวด

เว็บน่าสนใจ

เว็บด้านสิทธิฯ

ข่าวสาร/บันเทิง

หน่วยงานองค์กรคาทอลิก

บทความล่าสุด

   อนึ่ง บทความ หรือข้อเขียนทั้งหมดที่นำลงเว็บไซต์ jpthai.org เป็นทัศนะเฉพาะของผู้เขียน
และไม่ผูกพันกับคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อความยุติธรรมและสันติ

ทางเว็บไซต์ jpthai อนุญาตให้คัดลอกบทความ/ข้อมูล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้
แต่กรุณาระบุชื่อผู้เขียน และแหล่งที่มาด้วย ขอบคุณค่ะ

 

Donation / สนับสนุนการดำเนินงาน

  • โอนเข้าบัญชี ในนาม
    คณะกรรมการคาทอลิกฯ แผนกยุติธรรมและสันติ 
    ธนาคารกสิกรไทย สาขาห้วยขวาง บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 084-2-07639-2
    (กรุณา
    ส่งสำเนาการโอนเงินทางอีเมล์ ccjpthai@gmail.com)
    (หรือ ส่งสำเนามาที่ LINE:
    https://lin.ee/LdMulwv)

  • ทางธนาณัติ สั่งจ่ายในนาม “ปริญดา วาปีกัง” ตู้ ปณ. สุทธิสาร (10321)
    114 (2492) ถ.ประชาสงเคราะห์ ซอย 24 ดินแดง กรุงเทพฯ 10400

หลากหลายวิธีในการปฏิบัติการสันติวิธี พิมพ์
Wednesday, 03 August 2016

 


จาก วารสารผู้ไถ่ ฉบับที่ 71
ปฏิรูปการเมือง สร้างสังคมที่เป็นธรรม

 


หลากหลายวิธีในการปฏิบัติการสันติวิธี

(บทความนี้เคยลงในวารสาร "ผู้ไถ่" ฉบับที่ ๓๘ "สิทธิชุมชน" กันยายน - ธันวาคม ๒๕๓๘)

 


ทุกวันนี้ สันติวิธีมิใช่เรื่องแปลกที่มิได้อยู่ในความสนใจของสาธารณชนโดยทั่วไปอีกแล้ว แต่การทำความเข้าใจความหมายของ "ปฏิบัติการสันติวิธี"  ยังต้องขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแต่ละบุคคล ชุมชน หรือสังคมที่ประสบหรือเผชิญกับระดับแห่งความรุนแรงของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งแน่นอนที่สุดว่าความหมายของสันติวิธี มิใช่อยู่ตรงที่การไม่ปฏิบัติการใดๆ เลย หรือการนิ่งเฉย ซึ่งเป็นความเข้าใจอย่างพื้นฐานที่สุดของคำๆ นี้ (ซึ่งนัยยะกลับกันจะดูเหมือนว่าเป็นการสนับสนุนความรุนแรงโดยอ้อมเสียด้วยซ้ำไป)

ข้อสรุปของเหตุการณ์ความรุนแรง ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคมโลก จากอดีตที่ผ่านมา ได้เกิดตัวอย่างมากมายที่เป็นการพัฒนาความหมายของปฏิบัติการสันติวิธีออกไปอย่างกว้างขวางและน่าสนใจอย่างยิ่ง  "ผู้ไถ่" ฉบับนี้ขอนำเสนอตัวอย่างปฏิบัติการสันติวิธีจากหนังสือ "อำนาจและยุทธวิธีไร้ความรุนแรง" [๑] ของ ยีน ชาร์ป (Gene Sharp) นักทฤษฎีสันติวิธี ซึ่งได้แบ่งประเภทของปฏิบัติการสันติวิธีไว้ ๓ ประการใหญ่ๆ คือ

๑.       การประท้วงโดยไร้ความรุนแรงและการโน้มน้าว

๒.      การไม่ให้ความร่วมมือ

๓.      การแทรกแซงโดยไร้ความรุนแรง

 

การประท้วงโดยไร้ความรุนแรงและการโน้มน้าว

เป็นวิธีการเชิงสัญลักษณ์ที่มีจุดมุ่งหมายชักจูงฝ่ายตรงข้ามหรือคนอื่น ให้เห็นด้วยกับฝ่ายตน หรือเพื่อแสดงให้เห็นถึงความไม่เห็นด้วยหรือไม่พอใจของกลุ่ม [๒] ได้แก่

คำประกาศอย่างเป็นทางการ : จดหมายคัดค้านหรือสนับสนุน ได้แก่ จดหมายส่วนตัวและจดหมายเปิดผนึก, แถลงการณ์ขององค์กร หรือสถาบันเพื่อแสดงสถานะต่อกรณีนั้นๆ

การสื่อสารกับคนในวงกว้างขึ้น : แผ่นผ้า แผ่นป้ายและแผ่นประกาศ,  หนังสือพิมพ์และวารสารทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย,  การเขียนข้อความบนท้องฟ้าและพื้นดิน โดยเขียนคำหรือสัญลักษณ์บนท้องฟ้าโดยใช้เครื่องบิน

ตัวแทนกลุ่ม : การตั้งคณะผู้แทนเพื่อเข้าแสดงเจตนารมณ์ เจรจา, การให้รางวัลล้อเลียน เช่น รางวัล "ผู้ก่อให้เกิดมลภาวะแห่งปี"  การวิ่งเต้นในสภา (ล็อบบี้),  ารชุมนุมชี้ชวน

การปฏิบัติการเชิงสัญลักษณ์  :

- การติดธงและสีสัญลักษณ์ เช่น การไว้อาลัย 

- การสวมใส่สัญลักษณ์ เช่น การสวมใส่เสื้อผ้าสีเข้ม  การสวดภาวนาและการทำพิธีบูชา

- การใช้สัญลักษณ์ เช่น การประท้วงการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของโซเวียต คนในลอนดอนได้นำขวดนมนับร้อยไปวางหน้าสถานทูตโซเวียต โดยขวดแต่ละใบตีตราสีแดงไว้ว่า "อันตรายกัมมันตภาพรังสี"

- ไฟสัญลักษณ์ เช่น เทียน ตะเกียงแขวนไว้หน้าบ้านเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งเปลวเพลิงเสรีภาพที่ลุกสว่างอยู่ในหัวใจ

- เสียงสัญลักษณ์ ระหว่างช่วงที่ได้เกิดการแข็งข้อขึ้นในกองทัพฝรั่งเศส เมื่อ ปี ค.ศ.๑๙๑๗ ขณะทหารชั้นผู้น้อยในกรมกองกำลังเดินสู่สนามเพลาะ ทหารทุกคนต่างก็ร้องเลียนเสียงลูกแกะถูกเชือดกันดังลั่นไปทั่วกองโดยที่แม่ทัพทั้งหลายก็ยืนงง และไม่สามารถระงับอะไรได้

แรงกดดันต่อปัจเจกบุคคล

- การติดตามเจ้าหน้าที่ เพื่อจะเตือนเจ้าหน้าที่ถึงความไร้จริยธรรมของการกระทำของเขา

- การแสดงความเป็นมิตร ขณะเดียวกันก็จงใจนำเขา ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม

ละครและดนตรี

- การแสดงละครและดนตรี เป็นการล้อเลียนเหตุการณ์นั้นๆ การร้องเพลง เช่น การร้องเพลงขัดจังหวะปาฐกถาที่เราไม่ต้องการ

ขบวนแถว

- ขบวนแห่ทางศาสนา ได้แก่ การเดินขบวนโดยมีความหมายทางศาสนา

- การเดินจาริก เป็นการเดินโดยใช้เวลาหลายวันหรือหลายเดือน

- ขบวนพาหนะ การขับรถยนต์โดยเอาแผ่นป้ายติดกับรถยนต์เพื่อจะแสดงทัศนะของตน

การให้เกียรติผู้ตาย

- พิธีฝังศพประท้วง เช่น พิธีวีรชน ๑๔ ตุลา,  การแสดงความเคารพ ณ ที่ฝังศพ หรือบริเวณฌาปนกิจ

การชุมนุมในที่สาธารณะ

- การชุมนุมประท้วงหรือสนับสนุน

- การชุมนุมประท้วงแบบพรางตา เช่น ในช่วงปี ค.ศ.๑๙๔๓ - ๑๙๔๘ รัฐบาลฝรั่งเศสไม่ยอมให้ชุมนุมแสดงทัศนะทางการเมือง ฝ่ายสาธารณรัฐนิยมและเสรีนิยมได้ร่วมกันประท้วงโดยจัดในรูปของการเลี้ยงสังสรรค์

การเพิกถอนและการสละสิทธิ์

- การตบเท้าออก

- การนิ่งเงียบ เป็นการนิ่งเงียบรวมกลุ่ม

- การสละเกียรติยศ เช่น การคืนเกียรติยศพิเศษที่ได้รับ

- การหันหลังให้ เช่น หลังจากการลุกฮือเมื่อ วันที่ ๑๖ - ๑๗ มิถุนายน ค.ศ.๑๙๕๓ ในเยอรมันตะวันตกหนึ่งวันให้หลังคนงานได้กลับเข้ามาทำงานตามปกติตามโรงงานต่างๆ แต่ก็ปฏิเสธที่จะทำงาน และต่างนั่งลงตามม้านั่งโดยหันหลังให้กับเจ้าหน้าที่ของพรรค

 

การไม่ให้ความร่วมมือ

การไม่ให้ความร่วมมือทางสังคม

- การอัปเปหิบุคคล : การคว่ำบาตรทางสังคม,  ารระงับกิจกรรมทางศาสนา

- การไม่ให้ความร่วมมือกับกิจกรรมประเพณีสถาบันทางสังคม : การคว่ำบาตรทางสังคม เช่น การไม่เข้าร่วมฉลองงานเลี้ยงสังสรรค์ งานรับรอง,  การหยุดเรียนของนักศึกษาหรือไม่เข้าห้องสอบ,   การถอนตัวจากสถาบันสังคม อาจเป็นการลาออกอย่างเป็นทางการ

- การถอนตัวจากระบบสังคม : การอยู่แต่ในบ้าน โดยประชาชนหรือผู้ร่วมปฏิบัติการ ไม่ยอมออกจากบ้าน,  การผละของคนงาน ได้แก่ การผละงานโดยไม่บอกล่วงหน้า,  การอพยพเพื่อประท้วง

การไม่ให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ

- การปฏิบัติการโดยผู้บริโภค : การคว่ำบาตรของผู้บริโภค ทั้งระดับชาติและระดับนานาชาติ โดยปฏิเสธที่จะซื้อสินค้าหรือใช้บริการ,  การไม่บริโภคสินค้าที่ถูกคว่ำบาตร,  นโยบายประหยัด ไม่ยอมใช้สินค้าฟุ่มเฟือย

- ปฏิบัติการของคนงานและผู้ผลิต : การคว่ำบาตรของคนงานโดยการงดใช้วัตถุดิบหรือเครื่องมือ หรือทำงานให้กับสินค้าหรือเครื่องมือที่ตนไม่ต้องการร่วมมือ,  การคว่ำบาตรของผู้ผลิต ได้แก่ การปฏิเสธของผู้ผลิตที่จะขายหรือจัดส่งผลิตภัณฑ์ของเขา

- ปฏิบัติการของคนกลาง : การคว่ำบาตรของผู้จัดจำหน่ายและผู้จัดส่ง

- ปฏิบัติการของเจ้าของและผู้จัดการ : การคว่ำบาตรของพ่อค้าในการปฏิเสธที่จะซื้อหรือขายสินค้าชนิดใดชนิดหนึ่ง,  การปฏิเสธให้เช่าหรือขายทรัพย์สิน,  การนัดหยุดงานทั่วไปของพ่อค้า ได้แก่ การปิดร้านหรือกิจการพร้อมๆ กัน

- ปฏิบัติการของผู้กุมทรัพยากรทางการเงิน : การถอนเงินจากธนาคาร,  การปฏิเสธการจ่ายค่าธรรมเนียมเงินต้นชำระและภาษี,  การให้รัฐขาดรายได้ เช่น การปฏิเสธที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ที่เสียภาษีพันธบัตรรัฐบาล

- ปฏิบัติการโดยรัฐบาล : การห้ามค้าขายภายในประเทศ เป็นการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลเริ่ม,  การห้ามขายสินค้าระหว่างประเทศ ได้แก่ การที่รัฐบาลปฏิเสธที่จะขายผลิตภัณฑ์ชนิดใดชนิดหนึ่งแก่ประเทศใดประเทศหนึ่ง

- การนัดหยุดงานเชิงสัญลักษณ์ : การนัดหยุดงานประท้วง,  การนัดหยุดงานโดยฉับพลัน เป็นการนัดหยุดงานเพื่อประท้วงซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ

การนัดหยุดงานทางการเกษตร : การนัดหยุดงานของคนงานในไร่

- การนัดหยุดงานทางอุตสาหกรรม : การนัดหยุดงานในโรงงาน เป็นการนัดหยุดงานของคนงานทั้งหมดในโรงงานหนึ่ง,  การนัดหยุดงานเพื่อแสดงความเห็นใจ เป็นการนัดหยุดงานของคนงานกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเพื่อสนับสนุนข้อเรียกร้องของคนงานกลุ่มอื่นๆ

- การนัดหยุดงานจำกัดเขต : การนัดหยุดงานแบบเฉื่อยชา คนงานเจตนาที่จะทำงานให้ช้าลงเพื่อให้ผลิตผลลดลงอย่างฮวบฮาบ,  การแจ้งป่วยโดยคนงานไม่ทำงานและแจ้งว่าพวกตนป่วย (ทั้งที่ไม่ได้ป่วยจริง),  การลาออก โดยบุคคลที่มีความสำคัญซึ่งเป็นผู้เกี่ยวของในกรณีพิพาท

- การผสมระหว่างการนัดหยุดงานกับการหยุดยั้งทางเศรษฐกิจ : การปิดร้าน,  อัมพาตทางเศรษฐกิจ การหยุดยั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่หนึ่งๆ ในขั้นที่รุนแรงพอที่จะทำให้เศรษฐกิจเป็นอัมพาตได้

การไม่ให้ความร่วมมือทางการเมือง

- การปฏิเสธอำนาจหน้าที่ : การปฏิเสธการสนับสนุนอย่างเปิดเผย เช่น การจงใจไม่ให้การสนับสนุนเปิดเผยต่อระบบการปกครองและนโยบาย,  ข้อเขียนและคำพูดที่ส่งเสริมการต่อต้าน ได้แก่ คำพูดหรือการตีพิมพ์

- การไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล

: การคว่ำบาตรองค์กรนิติบัญญัติ ได้แก่ การปฏิเสธโดยถาวรในการเข้าร่วมในสภานิติบัญญัติ

: การคว่ำบาตรการเลือกตั้ง ได้แก่ การชักชวนให้ประชาชนไม่ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งที่ไร้ความบริสุทธิ์ยุติธรรม

: การคว่ำบาตรกระทรวง ทบวง กรม ตัวแทน และองค์กรของรัฐ เป็นการปฏิเสธที่จะร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐทั้งหมด

: การลาออกจากสถาบันการศึกษาของรัฐบาล

: การคว่ำบาตรองค์กรที่รัฐสนับสนุน

: การปฏิเสธที่จะช่วยเหลือกองกำลังของรัฐ

- ทางเลือกของประชาชนที่จะดื้อแพ่ง : การยอมตามอย่างไม่สมัครใจและเชื่องช้า คือ การถ่วงเวลาที่จะทำตามคำสั่งให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้,  การดื้อแพ่งของประชาชน เป็นการจงใจละเมิดกฎหมายหรือระเบียบโดยไม่ใส่ใจ,  การปฏิเสธที่จะสลายการชุมนุม หรือการประชุม,  การดื้อแพ่งต่อกฎหมายที่ไม่ชอบธรรม

- ปฏิบัติการโดยบุคลากรของรัฐบาล : การเลือกปฏิเสธความช่วยเหลือโดยกลไกของรัฐ,  การไม่ให้ความร่วมมือในการบริการงานทั่วไป คือ การที่ข้าราชการพนักงานของรัฐบาลปฏิเสธที่จะร่วมมือกับผู้กุมอำนาจ,  การไม่ให้ความร่วมมือทางศาล,  การกบฎ ได้แก่ สมาชิกกองกำลังทหาร และตำรวจปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำสั่ง

- ปฏิบัติการภายในประเทศของรัฐบาล : การหลีกเลี่ยง และการหน่วงเหนี่ยวในแง่กฎหมาย เป็นความพยายามที่จะเลี่ยงในการทำตามกฎหมาย / คำสั่งนโยบายซึ่งพวกเขาไม่พอใจ,  การไม่ให้ความร่วมมือโดยกลไกของรัฐบาล

- ปฏิบัติการระหว่างประเทศของรัฐบาล : การเปลี่ยนตัวทูตและผู้แทนอื่นๆ ,  การหน่วงเหนี่ยว และการยกเลิกกิจการทางทูต,  การตัดความสัมพันธ์ทางการทูต,  การถอนตัวจากองค์กรระหว่างประเทศ

 

การแทรกแซงโดยไร้ความรุนแรง

            วิธีนี้เป็นการแทรกแซงเข้าไปในสถานการณ์ซึ่งสามารถให้ผลได้ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ บางทีก็ก่อให้เกิดแบบแผนพฤติกรรม นโยบาย ความสัมพันธ์ หรือสถาบันชนิดใหม่ที่มหาชนพอใจ เป็นวิธีการที่ท้าทายโดยตรง ฉับพลัน ชัดเจนและตรงเป้ามากกว่าวิธีการที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ ในกรณีที่ประสบผลสำเร็จ ชัยชนะที่ได้รับจากการนี้มักจะเกิดขึ้นรวดเร็วกว่า ๒ วิธีการแรก แต่ผลลัพธ์ไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วเสมอไป เพราะอาจนำมาซึ่งการปราบปรามอย่างรุนแรงและรวดเร็วกว่า ซึ่งก็ไม่ได้หมายถึงความพ่ายแพ้เสมอไป [๓]

- การแทรกแซงทางจิตวิทยา : การสัมผัสความยากลำบากด้วยตนเอง คือ การทำให้ร่างกายของบุคคลใดบุคคลหนึ่งอยู่ในสภาพที่ยากลำบาก,  การอดอาหาร,  การก่อกวนโดยไร้ความรุนแรง

- การแทรกแซงทางกายภาพ : การนั่งประท้วง,  การยืนประท้วง,  การนั่งรถประท้วง เช่น เพื่อให้ยกเลิกคำสั่งเกี่ยวกับการใช้บริการคมนาคมขนส่ง,  การลุยฝ่าเข้าไป เป็นการฝ่าฝืนของบุคคลซึ่งถูกกฎหมายหรือประเพณี กีดกันมิให้เข้าไปในสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง,  การสวดภาวนา,  การจู่โจมโดยไร้ความรุนแรง ได้แก่ การเดินขบวนไปยังสถานที่ซึ่งถือว่ามีความหมายในเชิงสัญลักษณ์, การบุกรุกโดยไร้ความรุนแรง เป็นการจงใจเข้าไปในพื้นที่ซึ่งถูกห้ามนั้นอย่างเปิดเผยโดยไร้ความรุนแรง,  การกีดขวางโดยไร้ความรุนแรง,  การครอบครองพื้นที่โดยไร้ความรุนแรง

การแทรกแซงทางสังคม : การสร้างแบบแผนทางสังคมขึ้นใหม่,  การหน่วงเหนี่ยว คือ การที่ลูกค้าบริษัทห้างร้านติดต่อธุรกิจที่ถูกกฎหมาย แต่พยายามหน่วงเหนี่ยวให้เป็นไปอย่างล่าช้าที่สุด,  ละครจรยุทธ การแสดงละครเหน็บแนมทางการเมืองหรือปฏิบัติการอื่นๆ ที่คล้ายกัน,  การตั้งระบบการสื่อสารชนิดใหม่

- การแทรกแซงทางเศรษฐกิจ : การดื้อแพ่งต่อการปิดล้อม เป็นการดื้อแพ่งโดยไร้ความรุนแรงต่อการปิดล้อมของระบอบปกครองที่เป็นปฏิปักษ์โดยการนำอาหารให้แก่ประชาชนที่ถูกปิดล้อมนั้นด้วย,  การยึดครองทรัพย์สิน,  การเลือกสนับสนุน

- การแทรกแซงทางการเมือง : การสร้างภาระหนักแก่ระบบการบริหาร ได้แก่ การที่ประชาชนจงใจเรียกใช้บริการอย่างล้นหลาม,  การเปิดเผยตัวสายลับ,  การหาทางเข้าคุก โดยฝ่ายต่อต้าน (จำนวนมาก) เรียกร้องที่จะเข้าคุก ทำให้คุกแน่นไปด้วยนักโทษ

 

ทั้งหมดที่ผ่านมานี้ คงจะพอทำให้ทราบว่า ความหมายที่แท้จริงของ "สันติวิธี" คืออะไร เพื่อว่าเราจะได้เข้าใจอย่างถูกต้องและไม่สับสนกับคำกล่าวหาต่างๆ ของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่กล่าวผ่านสื่อมวลชนอยู่บ่อยๆ เช่นว่า "ชาวบ้านที่ชุมนุมกันอยู่นี้ เป็นพวกชอบก่อกวน สร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้นในสังคม" ทั้งๆ ที่ท่านเหล่านั้นไม่รู้เลยว่านี่แหละที่เรียกกันว่า "สันติวิธี"



[๑] ยีน ชาร์ป. อำนาจและยุทธวิธีไร้ความรุนแรง. แปลโดย ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ และคมสันต์ หุตะแพทย์ พิมพ์ครั้งแรก กรุงเทพ : มูลนิธิโกมลคีมทอง, ๒๕๒๙

[๒] อ้างอิงจาก ท้าทายทางเลือก : ความรุนแรงและการไม่ใช้ความรุนแรง โดย ชัยวัฒน์  สถาอานันท์ หน้า ๑๑๓  สำนักพิมพ์มูลนิธิโกมลคีมทอง ปี  ๒๕๓๓

[๓] อ้างอิงจาก ท้าทายทางเลือก : ความรุนแรงและการไม่ใช้ความรุนแรง โดย ชัยวัฒน์  สถาอานันท์ หน้า ๑๑๗ - ๑๑๘  สำนักพิมพ์มูลนิธิโกมลคีมทอง ปี ๒๕๓๓

 

ความคิดเห็น

เขียนความคิดเห็น
ชื่อ:
หัวเรื่อง:
BBCode:Web AddressEmail AddressBold TextItalic TextUnderlined TextQuoteCodeOpen ListList ItemClose List
ความคิดเห็น:



รหัส:* Code

Powered by AkoComment 2.0!

< ก่อนหน้า   ถัดไป >