บทความล่าสุด |
---|
ผู้ที่ไม่ตกเป็นทาสของวัตถุ ย่อมพบความสุขที่แท้จริง : ชลรัช |
Wednesday, 10 February 2016 | ||||||||||||||||
ผู้ที่ไม่ตกเป็นทาสของวัตถุ ย่อมพบความสุขที่แท้จริง ชลรัช
ในยุคแห่งการสื่อสารที่ไร้พรมแดน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนอุบัติขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว ทุกนาทีมีสรรพวัตถุเกิดขึ้นใหม่อย่างรวดเร็ว และมันถูกลืมเลือนไปประดุจสายลมที่พัดผ่าน ทุกวันจะมีข่าวสารในโลกไซเบอร์หรือโซเชียลเน็ตเวิร์คจากทั่วสารทิศ ทะลักเข้ามาให้เราเสพอย่างทันด่วนและจบลงไปอย่างเร่งด่วน ความรวดเร็วที่เกิดขึ้นในโลกไซเบอร์นั้นยังส่งผลต่อโลกในความเป็นจริงด้วย ถึงขนาดที่ต้องสร้างเทรนด์สโลว์ไลฟ์ (slow life) ชักชวนให้มวลมนุษยชาติใช้ชีวิตแบบช้าๆ กันเลยทีเดียว สิ่งที่ถือกำเนิดขึ้นด้วยความรวดเร็วนั้น บ้างอาจจะเกิดขึ้นแบบไม่คาดฝัน ไม่ทันคิด ไม่ตั้งใจให้เกิด และสาเหตุอีกร้อยแปดพันเก้า สิ่งที่เราได้มันมาครอบครองโดยไม่ได้มีการวางแผนล่วงหน้า หลายสิ่งหลายอย่างที่ได้มาโดยไม่ได้ตั้งใจอาจจะมีจุดจบแบบเดียวกัน คือ ถูกทิ้งขว้างวัตถุสิ่งของที่ถูกทิ้งบางอย่างสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ บางอย่างย่อยสลายได้เอง แต่บางอย่างไม่สามารถสลายได้และไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ปัจจุบันคนในกลุ่มเจเนอเรชั่นเอ็กซ์และเจเนอเรชั่นวาย ซึ่งเป็นกลุ่มคนวัยทำงานในสังคมขณะนี้ กลุ่มนี้ยังเป็นกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายหลักต่อการขายสินค้าของบรรดาผู้ผลิตทั้งหลาย คนทั้งสองกลุ่มนี้มีอุปนิสัยและพฤติกรรมโดยรวมที่เด่นชัดมาก คือ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ชอบอะไรที่ง่ายๆ ชอบความสะดวกสบาย ไม่ค่อยอดทน ไม่ชอบอยู่ในกฎเกณฑ์หรือความเป็นทางการมากนัก มีความคิดสร้างสรรค์ ชอบความทันสมัย นิยมเทคโนโลยี และที่สำคัญยังเป็นกลุ่มคนที่มีแรงช่วยขับเคลื่อนการรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อมที่นับวันจะเสื่อมโทรมและทรัพยากรธรรมชาติร่อยหรอลงทุกวัน
เมื่อผู้บริโภคมีพฤติกรรมชอบความทันสมัย ชอบความเปลี่ยนแปลงบ่อย ไม่ชอบซ้ำซากจำเจ ต้องการความใหม่ล่าสุดอยู่เสมอ ผู้ผลิตและผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์จึงต้องผลิตสินค้าที่โดนใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด และเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ผู้ผลิตจะต้องมีสินค้าที่หลากหลายรูปแบบ อีกทั้งราคาที่ง่ายต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อและเพื่อจะให้สินค้ามีราคาถูก ก็ต้องทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำ นั่นหมายถึงวัตถุดิบที่นำมาผลิตย่อมมีคุณภาพต่ำตามไปด้วย ประกอบกับกระบวนการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน ผลิตภัณฑ์ที่ออกมาจึงด้อยคุณภาพ มีอายุการใช้งานสั้น ซึ่งนั่นล้วนเป็นผลดีต่อผู้ผลิต เพราะเมื่อสินค้ามีอายุการใช้งานสั้น ผู้บริโภคก็ต้องซื้อของชิ้นใหม่มาทดแทน ผู้บริโภคเองจะต้องเป็นฝ่ายศึกษาสินค้าที่ตนเองสนใจจะซื้อให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ทั้งนี้ยังมีข้อยกเว้นเพราะบางครั้งเราคิดว่าเราศึกษาดีแล้ว เราเชื่อมั่นในแบรนด์ชื่อนั้นว่ามันรับประกันคุณภาพ แต่สิ่งที่เราได้มากลับไม่ดีอย่างที่คิด เพราะสมัยนี้มีผู้ผลิตสินค้ามากมายที่มีแนวคิดหลักในการผลิตแบบ "สวยแต่รูป จูบไม่หอม" ในฐานะผู้บริโภคอย่างเรา เคยไหมที่เราตัดสินใจซื้อสิ่งของบางอย่างหิ้วกลับบ้าน ภาคภูมิใจเหลือเกินที่ได้เป็นผู้ครอบครองมัน นั่งมองวัตถุที่มีรูปทรงและลวดลายบรรเจิดนั้น พร้อมลงมือทดสอบการใช้งาน การทดสอบทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี แต่เมื่อใช้งานได้ไม่กี่วัน มันชำรุดเสียหายและทำให้เราต้องทิ้งมัน และเคยไหมที่เราซื้อบางสิ่งบางอย่างแล้วกลับมานั่งคิดว่า อะไรเข้าสิงเราตอนควักกระเป๋าจ่ายเงินให้เขาไป เสียดายเงินจังเลยเราไม่ได้ต้องการมันจริงๆ สักหน่อย แล้วซื้อมันมาทำไม ช่างไร้สาระสิ้นดี
หรือเคยไหมที่เราเห็นของใช้ชิ้นหนึ่งถูกออกแบบด้วยไอเดียที่ล้ำเลิศมาก ทันสมัยมาก ราคาก็แพง แต่ใช้งานได้เพียงครั้งสองครั้ง เราก็ทิ้งมัน เพราะไม่สะดวกสบายต่อการใช้งาน หรือใช้งานแล้วได้ผลงานที่ไม่ได้มาตรฐาน สุดท้ายเราก็จำใจทิ้งมันอีก ฉะนั้นแล้วก่อนจะซื้อหาสิ่งใดอย่าใจร้อนเร่งรีบจ่ายเงินซื้อ เพราะเมื่อคนขายรับเงินไปเพียงเสี้ยววินาทีเดียว เขาก็ไม่คืนให้เราแล้ว ก่อนจ่ายเงินคิดให้รอบคอบ ศึกษารายละเอียดให้ดี ไตร่ตรองให้ดีว่าเรามีของสิ่งนั้นหรือยัง ถ้าอยากได้ของชิ้นใหม่เพิ่ม เราจะเอาของเก่าไปบริจาคให้ใครที่เขาสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ เราจะได้ไม่มีขยะกองอยู่เต็มบ้านไปหมด สำหรับผู้ที่ไม่นิยมการซื้อข้าวของมาทิ้งขว้าง ไม่ตามกระแสนิยมมากนัก เพราะต้องการความคงทนถาวรและตระหนักถึงความคุ้มค่าในการลงทุนมากกว่า จะต้องเตรียมทุนทรัพย์ให้มากพอสำหรับสินค้าคุณภาพดีซึ่งมักจะมีราคาแพงถึงแพงมาก แต่ที่น่าอารมณ์เสียเป็นอย่างยิ่ง คือ เมื่อเราลงทุนซื้อสินค้าราคาแพง เพราะต้องการความคุ้มค่าคงทนต่อการใช้งาน แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะมีสินค้ามากมายที่ด้อยคุณภาพแต่ขายในราคาแพง ขอยกตัวอย่างสินค้าบางประเภท เช่น ในขณะนี้เทรนด์การดูแลสุขภาพกำลังได้รับความนิยม มีผู้คนมากมายที่มองหารองเท้ากีฬาดีๆ สักคู่เพื่อใส่ออกกำลังกาย แต่คุณพระช่วย..รองเท้ากีฬาเดี๋ยวนี้ราคาแพงมากและยังมีคุณภาพที่ไม่สมราคา (ไม่เว้นแม้แต่ยี่ห้อที่มีชื่อเสียงโด่งดัง) ลองหันมามองหายี่ห้อที่ไม่เป็นที่นิยมก็ยังมีราคาแพงอยู่ดี ทั้งที่วัสดุก็ที่ใช้ก็ดูจะเหมือนๆ กัน ก็เข้าใจนะว่าวัตถุดิบนั้นมีทั้งเกรดดีและเกรดต่ำ แต่ที่สงสัยคือทำไมรองเท้ายี่ห้อดังๆราคาแพงๆบางคู่ถึงได้มีคุณภาพต่ำด้วย (ต้องบอกว่าบางคู่ เพราะเราซื้อมาคู่เดียว) แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เพียงแค่รองเท้ากีฬาเท่านั้น รองเท้าทั่วไปที่มียี่ห้อรับประกันคุณภาพบางยี่ห้อในสมัยนี้ ก็มีอายุการใช้งานสั้นมากเสียจนอยากร้องไห้ให้กับเงินที่เสียไป
แต่การทิ้งขว้างวัตถุก็ไม่น่าสลดหดหู่ใจเท่ากับการทิ้งขว้างสิ่งมีชีวิต สัตว์เลี้ยงตัวน้อยๆ ที่เป็นเหยื่อบูชายัญความรัก ในยามรักก็ชักชวนกันหาซื้อสิ่งมีชีวิตน่ารักๆ มาเลี้ยงเพื่อเป็นตัวแทนความรักที่มีให้กัน วันเวลาผ่านไปความรักเริ่มจืดจางกลายเป็นอื่น ชีวิตน้อยๆ ที่เคยเป็นสัญลักษณ์ความรักเริ่มถูกเกลียดชังจนอยากกำจัดไปให้พ้นชีวิต เอามันไปทิ้งข้างถนน เอาไปปล่อยวัดจนวัดรับไม่ไหว เอามันไปปล่อยที่ไหนก็ได้ให้มันตายๆ ไปซะ ก่อนที่จะนำมันไปทิ้งขว้าง เคยหยุดคิดสักนิดไหมว่า โลกทั้งใบของมันมีเราเพียงคนเดียว ในหัวใจของมันมีเพียงเราเท่านั้นที่มันรัก หัวใจที่สลายของมันคงไม่ต่างจากชายหญิงที่ถูกคนรักทิ้งขว้างไปหาคนอื่น ความเศร้าเสียใจที่ได้รับก็คงไม่ต่างกัน กินไม่ได้นอนไม่หลับเหมือนกันและมีจำนวนมากที่ตรอมใจตายเพราะไม่ต้องการคนอื่น หากใครคิดจะทิ้งขว้างสิ่งมีชีวิตที่คุณเอามาบูชายัญความรักของคุณ โปรดเหลือความเมตตาไว้ให้มันสักนิด สละเวลาเล็กน้อยหาบ้านใหม่ให้มันด้วยการเขียนขอความช่วยเหลือจากกลุ่มผู้ช่วยเหลือสัตว์ในเว็บบอร์ดต่างๆ มันอาจจะโชคดีได้บ้านใหม่ที่มีคนรักมันด้วยหัวใจรักจริงๆ โลกของมันจะได้ไม่เลวร้ายจนเกินไป... คนเราทุกคนล้วนอยากมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ชีวิตดี๊ดี!...คืออะไร ต้องแบบไหนอย่างไรจึงจะเรียกได้ว่า ชีวิตอยู่ในระดับดี๊ดี ชีวิตดี๊ดี!ของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกัน ส่วนจะมากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยประกอบในชีวิต และทัศนคติในการใช้ชีวิตของแต่ละคนว่าจะมีชีวิตดี๊ดี!ได้แค่ไหน บางคนมีทุนทรัพย์มากพอที่จะเนรมิตสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย สร้างความสุขทางกายได้อย่างเต็มที่ ชีวิตดี๊ดี!ของเขา คือ การที่ได้ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา มีเงินใช้ไม่ขาดมือ พร้อมเครื่องประดับงามๆ บนเรือนร่าง มีอาหารที่ปรุงแต่งอย่างสวยงามให้ลิ้มรส และมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมเพียบ สำหรับบางคนอาจจะมีอวัยวะชิ้นที่ ๓๓ ของร่างกาย คือ สมาร์ทโฟนอย่างดี มีแอพพลิเคชั่นเซลฟี่ชั้นเลิศที่สามารถลบรอยระทมทุกข์บนใบหน้าได้อย่างแนบเนียน เพื่อใช้ถ่ายภาพตัวเองและนำเสนอเรื่องราว "ชีวิตดี๊ดี!" ให้เพื่อนๆ ในโซเชียลเน็ตเวิร์คได้เขียนคำนิยมระดมกดไลค์ "อิจฉาจังเลยชีวิตดี๊ดี!" แชร์กันทุกวี่วัน ในขณะที่บางคนแม้จะมีความสามารถที่จะใช้ชีวิตอย่างเกินพอดีได้ แต่เขาก็มีแนวทางชีวิตแบบพอดี ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่หลงใหลไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกินจำเป็น และพอใจที่จะมีชีวิตดี๊ดี!อย่างเงียบๆ
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เรามองเห็นเพียงความสุขจากสิ่งอำนวยความสะดวกภายนอกต่างๆ นานาที่ทำให้เรารู้สึกสบายกาย เรายังไม่ได้เอ่ยถึงความสุขที่เกิดขึ้นในใจ บางคนเกิดมาโชคดีที่สุดในสามโลก มีพร้อมทุกสิ่งสรรพในชีวิต ไม่ต้องดิ้นรนไขว่คว้าสิ่งใด เพียงแค่ออกแรงเอื้อนเอ่ยขยับริมฝีปากก็จะมีคนนำสิ่งที่ต้องการมาวางให้ตรงหน้า แต่ชีวิตกลับไม่มีความสุขมีแต่ความเหงาซึมเศร้าในหัวใจ เพราะในชีวิตมีแต่วัตถุ ไม่เคยได้รับความรักหรือความใส่ใจจากคนที่รักหรือครอบครัว ยามเจ็บป่วยหรือแก่ชราก็มีเพียงคนดูแลที่ว่าจ้างมา ในขณะที่มีผู้คนอีกจำนวนมากที่มีชีวิตกำลังจะดีหรือมีชีวิตที่ย่ำแย่ ขาดสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิต ขาดทุนทรัพย์ ไม่มีเสื้อผ้าเครื่องประดับสวยงาม แม้อาหารจะประทังชีวิตก็ยังต้องออกแรงทำมาหากินจนเหนื่อยแทบขาดใจ แต่เขากลับมีความสุขใจ ได้รับความรัก ความเอาใจใส่ มีคนที่รักและครอบครัวคอยให้การช่วยเหลือและให้กำลังใจในยามที่เกิดความท้อแท้ในชีวิต และยังมีคนอีกจำนวนมหาศาลในโลก มีชีวิตที่ไม่มีใครอิจฉาเลย เพราะไม่มีทั้งความสุขทางกายและความสุขทางใจ ทั้งชีวิตไม่มีอะไรเลย ไร้ซึ่งคนเหลียวแลแต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อระดมทุนให้ความช่วยเหลือคนผู้ไร้บ้านเหล่านั้น เมื่อความสุขของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายในโลกนี้ไม่ได้อยู่ที่วัตถุ ถึงแม้ว่าวัตถุจะทำให้เรามีความสุขกายได้ก็ตาม ในยุคสมัยที่เราขอร้องให้คนในสังคมใช้ชีวิตกันอย่างช้าๆ เพื่อที่เราจะได้มีเวลาทบทวน ไตร่ตรอง แก้ไขปัญหาหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตและในสังคม การก่อร่างสร้างกลุ่มเพื่อรณรงค์พิทักษ์สิ่งแวดล้อม รณรงค์ให้ใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า รณรงค์ให้ช่วยเหลือสัตว์ที่ถูกทอดทิ้ง รณรงค์ให้ช่วยเหลือคนที่ถูกคนด้วยกันทอดทิ้ง และยังมีกลุ่มมูลนิธิต่างๆ ทั่วโลกที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อให้การช่วยเหลือคนในสังคม นั่นยิ่งตอกย้ำว่า สุดท้ายแล้ว มนุษย์ไม่ได้ต้องการวัตถุสิ่งใดมากไปกว่าปัจจัยสี่ คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค
โดยเฉพาะอาหารซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นของทุกชีวิตจึงขอชื่นชมเมื่อสภาผู้แทนราษฎรของฝรั่งเศสเห็นชอบร่างกฎหมายให้ซุปเปอร์มาร์เก็ตนำอาหารที่เหลือจากการจำหน่ายหรือใกล้หมดอายุไปบริจาคแทนการทิ้งอย่างเปล่าประโยชน์เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม หากฝ่าฝืนมีโทษสถานหนัก (เดลินิวส์ วันเสาร์ที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๘) โดยภายใต้กฎหมายใหม่นี้ บรรดาซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่จะต้องมีมาตรการป้องกันไม่ให้มีการทิ้งอาหารจำนวนมากและจะต้องลงนามในสัญญากับองค์กรการกุศลเพื่อบริจาคอาหารที่ไม่ขายแล้วแต่ยังสามารถกินได้เพื่อนำไปมอบให้แก่สถานสงเคราะห์ผู้ยากไร้ องค์กรการกุศล หรือสวนสัตว์ต่างๆ...อยากให้บ้านเมืองเรามีกฎหมายแบบนี้ด้วยจริงๆ จะได้ไม่มีสินค้าหมดอายุเต็มกระเช้าของขวัญปีใหม่ หากคนในสังคมมีไมตรีมีน้ำใจช่วยเหลือกัน ไม่หลงใหลในวัตถุจนสามารถทำทุกอย่างได้เพื่อให้ได้มันมาครอบครอง มีการแชร์ความสุขกันในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ใช่แค่ในโซเชียลเน็ตเวิร์ค ต้องการให้ทุกคนมีชีวิตดี๊ดี! ร่วมกันจริงๆ เพราะชีวิตที่เต็มอิ่มด้วยความสุขใจไม่ได้เกิดจากวัตถุ แต่เกิดจากความรัก ความห่วงใย ความเอื้ออาทรที่คนในสังคมแบ่งปันกันด้วยความจริงใจ เมื่อรู้สึกพอ เราจะไม่อยากได้อยากมีสิ่งที่เกินความจำเป็นในชีวิตเมื่อนั้นเราจะมีความสุขเกิดขึ้น "จิตที่ไม่ตกเป็นทาสของวัตถุ ย่อมหาความสงบสุข ความพอใจได้ในตัวของมันเอง" (พุทธทาสภิกขุ)
"ชลรัช" หรือ ชลรัช อ่อนเกตุพล อดีตนักข่าวสายเศรษฐกิจ เคยฝากผลงานให้ "ผู้ไถ่" อาทิ "โลกร้อน" ความบาดเจ็บของพสุธาที่มนุษย์ต้องรักษา, รักกันและทำให้โลกดีขึ้น เพื่อเธอ เพื่อฉัน และเพื่อเราทุกคน และ เมื่อมนุษย์โง่กว่าบัตรพลาสติก
------------------------------
จาก วารสารผู้ไถ่ ปีที่ ๓๖ ฉบับที่ ๙๙ เว็บ
Powered by AkoComment 2.0! |
< ก่อนหน้า | ถัดไป > |
---|