หน้าหลัก
หน้าหลัก
รู้จักยส
อยู่กับปวงประชา
ข่าวย้อนหลัง
เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน
ผู้ไถ่ : รายงานสถานการณ์
การศึกษาเพื่อสิทธิ&สันติภาพ
สื่อสิ่งพิมพ์ ยส.
มุมมองสิทธิฯ ในหนัง
กิจกรรม ยส.
คลังภาพ ยส.
เว็บบอร์ด ยส.
เว็บเพื่อนบ้าน
Facebook ยส.

ยส. (ยุติธรรมและสันติ)

จำนวนผู้เข้าชม
ขณะนี้มี 46 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

คลิก เขียนสมุดเยี่ยมคลิก เขียนสมุดเยี่ยม
ขอบคุณทุกท่าน
ที่แวะเข้ามาค่ะ

แนะนำสื่อ ฉบับล่าสุด


วารสารผู้ไถ่ ฉบับที่ 123: ชีวิต การต่อสู้ เพื่อความดีของกันและกัน กำลังใจ ความรัก และความหวัง
 วารสารผู้ไถ่
ฉบับที่ 123


วันสันติสากล 1 มกราคม 2024
 สารวันสันติสากล
1 มกราคม 2024
ปัญญาประดิษฐ์
และสันติภาพ


น้ำแห่งชีวิต (Aqua fons vitae)
 น้ำแห่งชีวิต
(Aqua fons vitae)
สมณกระทรวงเพื่อ
ส่งเสริมการพัฒนา
มนุษย์แบบองค์รวม


สมณลิขิตเตือนใจ...แอมะซอนที่รัก (QUERIDA AMAZONIA)
 แอมะซอนที่รัก
(QUERIDA AMAZONIA)
สมณลิขิตเตือนใจ...
ของสมเด็จ-
พระสันตะปาปาฟรังซิส


จงสรรเสริญพระเจ้า... การก้าวออกไปอย่างต่อเนื่องของเอเชีย
หนังสือแปล
จงสรรเสริญพระเจ้า...
การก้าวออกไป
อย่างต่อเนื่องของเอเชีย


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 2 และ3
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร
ภาคที่ 2 และ3
 


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 1
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร ภาคที่ 1



หนังสือ Jesus CEO :  พระเยซูเจ้า นักบริหารชั้นนำ
หนังสือแปล
Jesus CEO :
พระเยซูเจ้า
นักบริหารชั้นนำ



หนังสือ เส้นทางสู่สิทธิมนุษยชนศึกษา
หนังสือ เส้นทางสู่
สิทธิมนุษยชนศึกษา


พระสมณสาสน์ความรักในความจริง : Caritas in Veritate
หนังสือแปล
Caritas in Veritate :

พระสมณสาสน์
ความรักในความจริง



โปสเตอร์ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ พ.ศ.2532
โปสเตอร์
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
แห่งสหประชาชาติ
พ.ศ.2532


เว็บเพื่อนบ้าน

แวดวงต่างประเทศ

Pax Christi International - PCI

ACPP - Hotline Asia


ดูเว็บอื่นๆ ในหมวด

เว็บน่าสนใจ

เว็บด้านสิทธิฯ

ข่าวสาร/บันเทิง

หน่วยงานองค์กรคาทอลิก


เท่าไร...ถึงพอ : น้ำค้าง คำแดง พิมพ์
Wednesday, 19 August 2015

มุมเล็กเล็ก

น้ำค้าง คำแดง

 

เท่าไร...ถึงพอ
 

เงินเท่านั้นเสกสรรให้เราได้สบาย
ทุกคนเป็นใหญ่ได้ด้วยเงิน
เงิน เงิน เงิน ผู้คนบูชา
มีเงิน เงินพาอุราป่วนปั่น
ยามเฮงเรารวย ยามซวยบุกบั่น
ต่างกัดฟันหาเงินกันไป

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปอย่างไร เพลงเงิน เงิน เงิน ก็ยังคงเข้ากับทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะยุคนี้ที่ค่าแรงรายวันสูงถึง ๓๐๐ บาท ทั่วประเทศ ไม่ว่าค่าครองชีพพื้นที่ใด จะเท่าไรเราก็จะเสมอภาคด้วย ๓๐๐ บาท ดีใจกันยกใหญ่ ว่าแล้วก็ไปฉลองเงินเดือนขึ้นกันหน่อย ตอนกินก็อารมณ์ดีมีความสุข แต่ตอนจ่ายเงินค่าอาหาร ถึงกับต้องหยิบเครื่องคิดเลขมานั่งกดดูกันเลย เมื่อ ๒ เดือนก่อน ก็กินแบบนี้ สั่งแบบนี้ แล้วก็มากัน ๕ คนเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ ราคาอาหาร เคยจ่ายไม่เกินหนึ่งพัน แต่มาครั้งนี้ต้องจ่าย ๑,๒๐๐ บาท (แอบคิดในใจ) ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ ว่าแล้วก็ยกมือเรียกเจ้าของร้าน

"พี่คะ ทำไมค่าอาหารราคาสูงจัง คิดผิดหรือเปล่า"

"ไม่ผิดหรอกครับ แค่วัตถุดิบราคาแพงขึ้น ค่าจ้างเด็กในร้านก็สูงขึ้น ถ้าไม่ขึ้นราคาอาหาร ผมก็คงอยู่ไม่ได้" พอได้ยินอย่างนี้ก็ถึงบางอ้อ!กันเลย แน่นอนใครๆ ก็อยากได้เงินกันทั้งนั้น แต่จะมีประโยชน์อะไร ถ้ารายได้เพิ่ม พร้อมๆ กับรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นตามมาด้วย

ฉันมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความคิดในวงสนทนาเล็กๆ กับคน ๓ กลุ่ม ด้วยคำถามเดียวกัน

"รู้สึกอย่างไรที่ค่าแรงรายวันเพิ่มขึ้นเป็น ๓๐๐ บาท" สรุปใจความได้ว่า...


กลุ่มที่ ๑ น้องๆ นักศึกษาที่กำลังจะจบจากรั้วมหาวิทยาลัย

คำตอบ ดีมากเลย ตอนเรียนใช้เงินเยอะ พอจบได้ค่าตอบแทนที่คุ้มค่า ทำให้มีเป้าหมายที่จะเรียนให้จบเร็วๆ


กลุ่มที่ ๒ หนุ่มสาววัยทำงาน

คำตอบ ก็ดีนะ จะได้มีเงินเพิ่มขึ้น ตอนนี้อะไรๆ ก็ขึ้นราคา เงินเดือนที่เคยได้ ๗,๐๐๐ - ๘,๐๐๐ บาท ไม่พอกิน บางทีก็ต้องไปกู้เงินมาใช้ เป็นหนี้เพิ่มขึ้นอีก ได้เงินเพิ่มมาก็ดี


กลุ่มที่ ๓ ผู้ประกอบกิจการขนาดย่อม SME

คำตอบ ค่อนข้างยาก ถ้าถามว่าให้ได้ไหมค่าแรงอัตรานี้ ให้ได้ แต่คงไม่ได้ทุกคนเพราะ

๑. ถ้าต้องให้ ๓๐๐ บาท ทุกคน เงินสำรองในธุรกิจมีแค่ ๓ - ๖ เดือน บางทีอาจต้องปิดกิจการ เซ้ง ขาย เมื่อต้นทุนสูงขึ้น ธุรกิจก็อยู่ยากขึ้นด้วย

๒. ถ้าจะทำให้ธุรกิจอยู่ได้ คงต้องลดจำนวนแรงงาน ต้องเลือกเฉพาะคนหนุ่มสาวอายุไม่เยอะ มีกำลังมาก ฝีมือดี เราแบกภาระคนทั้งหมดไม่ได้ ไม่ใช่แค่ค่าแรงพนักงานที่สูงขึ้น ราคาวัตถุดิบต้นทุนการผลิตก็สูงตามกันไปหมด นาทีนี้อย่าเพิ่งถามถึงกำไร ถามว่าจะขาดทุนไหม จะอยู่ได้นานแค่ไหน โอกาสที่จะต้องขายกิจการมีสูงมาก ถ้าขายกิจการไป เจ้าของก็นำเงินส่วนนั้นมาใช้ ส่วนพนักงานก็กลายเป็นคนตกงาน

ในขณะที่คนเล็กๆ กำลังดีใจว่าได้เงินเพิ่ม นายจ้างกลับหนักใจในธุรกิจของตน และลูกน้องที่อาจจะต้องกลายเป็นคนตกงาน
เราลองเปรียบเทียบรายรับรายจ่ายก่อนและหลังค่าแรงวันละ ๓๐๐ บาทกันแบบคร่าวๆ เข้าใจง่ายๆ โดยจะคิดเป็นเดือน (๓๐๐ บาท X ๓๐ วัน = ๙,๐๐๐ บาทต่อเดือน) เราพร้อมจะรับความจริงกันหรือยังคะ
เริ่มเลยนะ

อัตราจ้างเดิม
อัตราจ้างใหม่วันละ ๓๐๐ บาท

  รายได้                      ๗,๕๐๐ บาท

  ค่าเช่าห้อง                 ๒,๐๐๐  บาท

ค่าอาหาร                  ๒,๗๐๐  บาท
(
มื้อละ ๓๐ บาท x ๓ มื้อ x ๓๐ วัน)

  ค่าเบ็ดเตล็ด              ๑,๕๐๐  บาท

  คงเหลือ                  ๑,๓๐๐  บาท

  รายได้                             ๙,๐๐๐  บาท

  ค่าเช่าห้อง(อยู่ๆ ก็ขึ้นมาเฉยๆ) ๒,๕๐๐ บาท

ค่าอาหาร                          ๓,๖๐๐  บาท
(มื้อละ ๔๐ บาท x ๓ มื้อ x ๓๐ วัน) 

  ค่าเบ็ดเตล็ด                      ๑,๖๕๐  บาท

  คงเหลือ                         ๑,๒๕๐  บาท

 
ผลที่ออกมาดูไม่ต่างกันเท่าไรนัก แต่อย่าลืมว่าเราได้เงินเดือนเพิ่มมา ๑,๕๐๐ บาท ก็ควรที่จะมียอดคงเหลือที่มากกว่าเดิม แต่ในความเป็นจริงกลับสวนทางกัน

จะมีอะไรมาการันตีว่าฉันกับคุณคือแรงงานชั้นดีที่ตลาดต้องการ ใครจะรับรองได้ว่าเราจะไม่ตกงาน เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเพื่อนร่วมงานที่ทำงานมาด้วยกัน พรุ่งนี้อาจกลายเป็นบุคคลว่างงาน บางคนคิดถึงเรื่องนี้ และเลือกที่จะเป็นเจ้านายตัวเองด้วยการลาออกมาเพื่อเปิดร้านขายอะไรสักอย่าง แต่ในความเป็นจริง ไม่ใช่เราคนเดียวที่คิดเช่นนี้ วันนี้ลองออกไปเดินตลาดใกล้บ้านดู มองอย่างมีสติจะเห็นเลยว่าพ่อค้าแม่ค้าเยอะกว่าลูกค้าเสียอีก ในเมื่อสินค้ามากขึ้น แต่ความต้องการใช้จ่ายกลับลดลง แม่ค้าพ่อค้าพากันเป็นหนี้เพราะเงินลงทุนจบไปกับข้าวของที่ขายไม่ได้ คนกลุ่มเล็กๆ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น มาพร้อมกับภาระที่หนักขึ้น คนกลุ่มใหญ่ๆ กลายเป็นคนที่ตกงาน เราจะลืมตาอ้าปากได้จริงๆ หรือ เราจะยิ้มในขณะที่คนอื่นกำลังทุกข์จริงๆ หรือ

ท้ายที่สุด ฉันเองต้องบอกแบบนี้ ขอบคุณในเจตนาดีที่คิดเพิ่มรายได้ให้คนทำงาน แต่เหนือสิ่งอื่นใดสิ่งที่เราต้องการคงไม่ใช่แค่มีกินวันนี้ หากแต่เราล้วนปรารถนาที่จะมีกินอย่างพอเพียงและยั่งยืน รายได้ที่มากขึ้นวันนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการยื่นปลาให้กิน แต่ไม่ได้สอนที่จะหาปลา เพาะพันธุ์ปลา ด้วยตัวเอง เมื่อวันใดที่ปลาหมดบ่อ นั่นหมายถึงผู้ประกอบการปิดตัวลง ลูกจ้างพึ่งตัวเองไม่เป็น คงไม่ต้องอธิบายอะไรต่อเราก็คงรู้อยู่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

ตั้งสติดูอีกสักที เรื่องบางเรื่องไม่ต้องรีบเร่ง ใส่ความจริงใจลงไปในเจตนาดี เรายังจำคำนี้ได้อยู่ไหม "พอเพียง" ประโยคสั้นๆ ที่หล่อเลี้ยงวิถีแบบเรามาช้านาน อาจต้องใช้เวลามากสักหน่อย แต่สิ่งที่ได้คือความยั่งยืน


------------------------------

จาก วารสารผู้ไถ่ ปีที่ ๓๔ ฉบับที่ ๙๑
Blessed Are the Peacemakers "ผู้สร้างสันติ ย่อมเป็นสุข"



เว็บ 

ความคิดเห็น

เขียนความคิดเห็น
ชื่อ:
หัวเรื่อง:
BBCode:Web AddressEmail AddressBold TextItalic TextUnderlined TextQuoteCodeOpen ListList ItemClose List
ความคิดเห็น:



รหัส:* Code

Powered by AkoComment 2.0!

< ก่อนหน้า   ถัดไป >