บทความล่าสุด |
---|
คิดบวก : ภาวัน |
Wednesday, 01 May 2013 | ||||
นิตยสาร IMAGE มีนาคม ๒๕๕๖
คิดบวก
ภาวัน
ทุกวันนี้ "คิดบวก" กำลังเป็นที่นิยมมาก แต่เราหมายความว่าอย่างไรเวลานึกถึงคำนี้ ความหมายหนึ่งก็คือ การคาดการณ์อนาคตในแง่ดี มองเห็นความสำเร็จอยู่ข้างหน้า หน่วยงานหลายแห่งถึงกับเอาแนวคิดนี้มาใช้ในการวางแผน คือ ตั้งเป้าที่สวยหรูเอาไว้ ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้เกิดกำลังใจในการทำงาน บางคนถึงกับเชื่อว่า ถ้านึกถึงสิ่งดีๆ สิ่งนั้นก็มีโอกาสจะเกิดขึ้นกับตนได้ แต่ปัญหาที่เกิดจากวิธีคิดแบบนี้ก็คือ หากผลที่ออกมาไม่เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ ก็จะตั้งรับไม่ทัน หลายคนวาดหวังว่าชีวิตจะต้องราบรื่น ก้าวหน้าและเปี่ยมสุข แต่พอรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็ง ก็ล้มทรุดทันทีทั้งๆ ที่มะเร็งยังอยู่ในระยะแรก นักธุรกิจจำนวนไม่น้อยทำงานอย่างเล็งผลเลิศ มองเห็นอนาคตสดใส จึงเดินหน้าเต็มที่โดยไม่คิดเผื่อทางอื่นไว้เลย พอสถานการณ์ไม่เป็นอย่างที่คิด ก็ปรับตัวไม่ทัน เพราะไม่มีแผนสองไว้รองรับ การตั้งเป้าไว้สวยหรูนั้น ยังมีผลเสียตรงที่ ดึงดูดให้ผู้คนหมกมุ่นอยู่กับการทำให้ถึงเป้า จนลืมเรื่องอื่นที่มีความสำคัญต่อชีวิต ผลก็คือ แม้ประสบความสำเร็จตามเป้า แต่ก็สูญเสียหลายสิ่งหลายอย่างไป มีนักธุรกิจชาวอเมริกันคนหนึ่งเล่าว่า เขาตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องมีเงิน ๑ ล้านเหรียญก่อนอายุ ๔๐ แล้วเขาก็ทำได้ในที่สุด แต่ปรากฏว่าเขาต้องหย่าขาดจากภรรยา มีปัญหาสุขภาพ ซ้ำลูกยังไม่คุยกับเขาอีกด้วย จะดีกว่าไหมหากเรามองอนาคตในแง่ลบไว้บ้าง เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน และเราไม่อาจควบคุมบังคับให้เป็นไปตามใจของเราได้ แม้วันนี้ชีวิตจะราบรื่น ก็ไม่ได้หมายความว่าพรุ่งนี้ชีวิตจะราบรื่นเหมือนวันนี้ ดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไร จึงควรเผื่อใจไว้ว่าอาจไม่สำเร็จอย่างที่วาดหวัง การมองว่าในอนาคตเราอาจเจ็บป่วยด้วยโรคร้าย การงานล้มเหลว มีปัญหาการเงิน หลายคนมองว่าเป็น "ลาง" ไม่ดี แต่ที่จริงมันเป็นการกระตุ้นเตือนให้เราไม่ประมาทกับชีวิต และไม่หลงเพลินในความสำเร็จที่กำลังเกิดขึ้น ทำให้เราเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุร้ายที่อาจมาถึง และหาทางป้องกันมิให้มันเกิดขึ้นหากอยู่ในวิสัยที่จะทำได้ รวมทั้งเร่งทำสิ่งที่ควรทำแทนที่จะปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ นี้เป็นวิธีหนึ่งที่พระพุทธเจ้าใช้สอนพระภิกษุและคฤหัสถ์ กล่าวคือ ทรงแนะให้ระลึกถึงความแก่ ความเจ็บ ความตาย และความพลัดพรากสูญเสียจากของรักของชอบใจ อยู่เนืองๆ ในบางครั้งทรงแนะให้พระภิกษุระลึกถึงอนาคตภัย ๕ ประการ คือ ความแก่ ความเจ็บป่วย ข้าวยากหมากแพง ความไม่สงบในบ้านเมือง และความแตกสามัคคีในหมู่สงฆ์ ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นเตือนให้เร่งทำความเพียรในขณะที่ยังมีชีวิตสุขสบาย เวลาไปฟังผลตรวจร่างกายจากหมอ หลายคนวิตกกังวลว่าจะเจอข่าวร้าย จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่ถ้าตั้งสติให้ดี แล้วนึกถึงสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้น เช่น เป็นมะเร็ง ลองทำใจให้คุ้นกับความคิดนึกดังกล่าวสักพัก ยอมรับความกลัวที่เกิดขึ้น แล้วจะพบว่าเราสามารถรับฟังคำวินิจฉัยของหมอด้วยใจที่สงบมากขึ้น สุดท้ายแม้พบว่าตัวเองเป็นมะเร็ง เราก็จะยอมรับความจริงนี้ได้ง่ายขึ้น เพราะเผื่อใจเอาไว้แล้ว ถึงตรงนี้แหละที่ "คิดบวก"ในอีกความหมายหนึ่งเป็นประโยชน์แก่เรา นั่นคือการมองเห็นด้านดีของเหตุร้าย มีบางคนบอกว่าโชคดีที่รู้แต่เนิ่นๆ ทำให้มีเวลารักษาตัวเองก่อนที่มันจะลาม หลายคนบอกว่า โชคดีที่เป็นมะเร็ง เพราะมะเร็งทำให้เขาหันมาสนใจธรรมะ จึงได้พบกับความสุขที่แท้ ในทำนองเดียวกัน การเห็นสิ่งดีๆ ไม่จดจ่ออยู่กับสิ่งแย่ๆ ก็ทำให้เราสามารถรับมือกับเหตุร้ายได้ ดังหลายคนบอกว่า ถึงแม้กายจะป่วย แต่ก็ยังเห็นสิ่งสวยงามอยู่รอบตัว การมองเห็นด้านดีของเหตุร้าย และการเห็นสิ่งดีๆ ที่อยู่รายรอบสิ่งแย่ๆ เป็นการคิดบวกที่ช่วยให้เราอยู่กับความทุกข์ได้โดยใจไม่ทุกข์
------------------------------
จาก เว็บ
Powered by AkoComment 2.0! |
< ก่อนหน้า | ถัดไป > |
---|