บทความล่าสุด |
---|
อนึ่ง บทความ หรือข้อเขียนทั้งหมดที่นำลงเว็บไซต์ jpthai.org เป็นทัศนะเฉพาะของผู้เขียน
ทางเว็บไซต์ jpthai อนุญาตให้คัดลอกบทความ/ข้อมูล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้
Donation / สนับสนุนการดำเนินงาน
|
ผลิบานจากกองเถ้าถ่าน : ภาวัน |
Wednesday, 25 July 2012 | ||||
นิตยสาร IMAGE กรกฎาคม ๒๕๕๕ ผลิบานจากกองเถ้าถ่าน ภาวัน กองเพลิงที่โหมลุกท่วมบ้านอย่างรวดเร็วกลางดึกได้คร่าชีวิตลูกสาววัยน่ารักของเธอทั้งสามคน รวมทั้งพ่อแม่ผู้ชรา เธอทำได้แต่เพียงตะโกนร้องว่า "ลูกฉัน ลูกฉัน" อยู่ข้างนอกขณะที่พนักงานดับเพลิงพยายามช่วยชีวิตพวกเขาอย่างไร้ผล หัวใจของมาดอนน่า แบดเจอร์แทบแตกสลาย ดังนั้นจึงไม่ง่ายเลยที่เธอต้องมากล่าวคำไว้อาลัยให้แก่ลูกสาวของเธอในงานศพซึ่งจัดขึ้นไม่กี่วันหลังจากนั้น ผู้ร่วมงานแทบทั้งหมดประหลาดใจเมื่อพบว่า แทนที่เธอจะคร่ำครวญถึงลูก เธอกลับเชิญชวนให้ผู้คนไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งถึงคุณค่าและความหมายของความรัก "เป็นเรื่องยากมากจริงๆ ...สาเหตุที่ฉันอยากพูดกับคุณวันนี้ก็เพื่อให้คุณรู้ว่าลูกสาวของฉันเป็นคนอย่างไร ฉันอยากให้คุณระลึกถึงลูกๆ ของฉันและทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เขาถูกลืม" แต่มาดอนน่าไม่ได้หยุดที่ลูกของเธอเท่านั้น หากยังชวนให้ผู้คนนึกถึงคนอื่นด้วย "เราสามารถพูดได้ทั้งวันเรื่องความรัก แต่ความรักที่ปราศจากการเกื้อกูลย่อมไม่พอ โปรดรักษาเด็กน้อยเหล่านี้ไว้ในหัวใจของคุณด้วยการแสดงความรักพร้อมกับการกระทำที่เปี่ยมด้วยเมตตาอันบริสุทธิ์ ด้วยการรักซึ่งกันและกัน และหาทางช่วยเหลือผู้อื่นทุกวัน" ความรักนั้นแม้นำมาซึ่งความโศกเศร้าในยามที่ต้องพลัดพรากสูญเสีย แต่ในอีกด้านหนึ่งความรักสามารถบันดาลใจให้ทำความดีเพื่อผู้อื่น แม้แม่ไม่อาจทำความดีให้แก่ลูกได้แล้ว แต่ความรักของแม่ก็สามารถบันดาลใจให้ทำความดีเพื่อผู้อื่นได้ หากเชื่อการทำความดีเพื่อผู้อื่นก็คือการทำความดีเพื่อลูกนั้นเอง มาดอนน่าอยากให้ความรักที่ใครๆ มีต่อลูกของเธอนั้น ไม่จบลงที่ความเศร้าโศก แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำความดีต่อเพื่อนมนุษย์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพราะนั่นคือคุณค่าที่แท้จริงของความรัก เรื่องราวของเธอคล้ายคลึงกับของวิลเลียม เปอตีต์ คืนหนึ่งโจรสองคนได้เล็ดรอดเข้าบ้านของเขา ขณะที่เขาถูกมัด โจรได้ข่มขืนและรัดคอภรรยาเขาจนตาย จากนั้นก็ชำเราลูกสาววัย ๑๑ ขวบ พร้อมกับเผาเธอและลูกสาววัย ๑๗ ขวบทั้งเป็น เขาเห็นทั้งหมดตายต่อหน้าต่อตาโดยช่วยอะไรไม่ได้เลย ในพิธีศพของลูกสาวและภรรยา เขาพูดรำลึกถึงแต่ละคนด้วยความอาลัย แม้เจ็บปวดอย่างยิ่ง แต่เขาลงท้ายด้วยการเชิญชวนให้ผู้ร่วมพิธีทุกคนรักษาจิตวิญญาณของบุคคลเหล่านี้ให้คงอยู่ด้วยการทำความดี "ผมคิดว่าหากจะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นจากการตายอย่างไร้เหตุผลของครอบครัวของผม สิ่งนั้นก็คือการที่พวกเราก้าวเดินต่อไปด้วยความปราถนาที่จะอยู่อย่างมีศรัทธาซึ่งแสดงออกด้วยการกระทำ" "ขอให้ช่วยเหลือเพื่อนบ้าน ต่อสู้เพื่อสิ่งดีงาม รักครอบครัวของคุณ ผมอยากให้คุณทุกคนออกไปทำสิ่งเหล่านี้" วิลเลียมเล่าว่าหลังเหตุการณ์นั้น เขาเคยคิดฆ่าตัวตาย แต่เขาเปลี่ยนใจ และหันมาลุกขึ้นทำความดีในนามของคนที่เขารัก ด้วยการตั้งมูลนิธิครอบครัวเปอตีต์ (Petit Family Foundation) เพื่อช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก โดยอิงคำกล่าวของคนธีว่า "คุณต้องเป็นความเปลี่ยนแปลงอย่างเดียวกับที่คุณปรารถนาจะให้เกิดในโลกนี้ ในทำนองเดียวกันแบดเจอร์ได้ก่อตั้ง มูลนิธิผู้อื่น ๓๖๔ (Other 364 Foundation) เพื่อ "สนับสนุนความเกื้อการุณย์ทุกวันตลอดปี" เพราะเชื่อว่านี้คือวิธีที่จะทำให้ลูกสาวของเธอคงอยู่ในหัวใจของผู้คน ไม่มีอะไรที่จะทำให้คนเราเศร้าโศกเท่ากับการสูญเสียคนรัก แต่ความสูญเสียนั้นมิใช่เป็นสิ่งเลวร้ายไปเสียหมด หากสามารถก่อให้เกิดสิ่งดีๆ ที่งดงามได้ เหตุร้ายหรือเคราะห์กรรมนั้นไม่จำเป็นต้องนำความเจ็บปวดมาให้เมื่อใดที่ระลึกถึง หากเราทำให้มันมีความหมายใหม่ ที่ก่อประโยชน์สร้างสรรค์ การระลึกถึงมันก็จะไม่ทำให้ต้องเจ็บปวดรวดร้าวอีกต่อไป
------------------------------
จาก เว็บ
Powered by AkoComment 2.0! |
< ก่อนหน้า | ถัดไป > |
---|