1. งานกรณีศึกษา "สิทธิทางการศึกษาของลูกแรงงานข้ามชาติ"
ยส. ได้และลงพื้นที่เก็บข้อมูลองค์กร / ศูนย์การเรียนรู้ และโรงเรียนใน 4 พื้นที่ตัวอย่าง ได้แก่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2553, พื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2553, พื้นที่ อ.เมือง จ.ระนอง และ พื้นที่ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 10-11 มิถุนายน 2553 (ภาพ : 1-6)

จากการที่ ยส. ได้ทำงานร่วมกับศูนย์สังคมพัฒนาสังฆมณฑลสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีการลงพื้นที่เก็บข้อมูลในประเด็นสิทธิของแรงงานข้ามชาติที่ จ.ระนอง และพบปัญหาการขาดโอกาสทางการศึกษาของเด็กลูกแรงงานข้ามชาติ ซึ่งมีสาเหตุมาจากปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นอคติของคนไทยหรือแนวคิดเรื่องความมั่นคงของรัฐ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวนำไปสู่ปัญหาสังคมที่จะตามมามากมายในอนาคต ในขณะที่ประเทศไทยได้ให้การรับรองสิทธิทางการศึกษาของเด็กทุกคนไว้แล้ว ทั้งจากการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กและจากกฎหมายของประเทศไทย อีกหลายฉบับ ได้กำหนดให้เด็กทุกคนในประเทศไทย ไม่ว่าจะมีสัญชาติไทยหรือไม่ต้องได้เรียนหนังสือ จึงเห็นว่าโรงเรียนคาทอลิกซึ่งเป็นผู้นำในเรื่องการจัดการศึกษา ควรจะมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการศึกษาให้กับเด็กผู้ด้อยโอกาสเหล่านั้น ยส.จึงมีแผนที่จะจัดเวทีระดมความคิดเห็นต่อโอกาสทางการศึกษาของลูกแรงงาน ข้ามชาติ ให้กับครูและผู้บริหารโรงเรียนคาทอลิก เพื่อให้เกิดการรับทราบถึงสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น และสร้างความตระหนักถึงสิทธิทางการศึกษาของลูกแรงงานข้ามชาติให้กับพระ ศาสนจักรฯ เพื่อนำไปสู่การแสวงหาทางออกร่วมกัน

2. กิจกรรมอบรมสิทธิมนุษยชนศึกษา
การอบรมสิทธิมนุษยชนศึกษาสำหรับนักเรียนในโรงเรียนคาทอลิก ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนเจริญศรีศึกษา อ.เมือง จ.ปัตตานี ระหว่างวันที่ 19-20 กุมภาพันธ์ 2553 และ โรงเรียนดรุณศึกษา อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 08-09 มีนาคม, 2553

สืบเนื่องจาก ยส. ได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการสิทธิมนุษยชนศึกษา ให้กับคณะครูและผู้บริหารที่โรงเรียนทั้งสองแห่งนี้ในช่วงปี 2552 ส่งผลให้ผู้บริหารโรงเรียนของโรงเรียนทั้งสอง เกิดความสนใจและตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมการเรียนรู้สิทธิมนุษยชน ในระดับนักเรียน จึงแสดงความประสงค์ให้ ยส. ไปจัดกิจกรรมอบรมสิทธิมนุษยชนให้กับนักเรียนโดยตรง

3.ค่ายยุวสิทธิมนุษยชน ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 15 - 18 มีนาคม 2553 ที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า จ.ระยอง
มีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 36 คนจาก 17 โรงเรียน เป็น ร.ร.คาทอลิก 5 แห่ง ได้แก่ ยอแซฟอุปถัมภ์ แผนกชายและแผนกหญิง, สารสิทธิ์พิทยาลัย, นิรมลชุมพร, ดอนบอสโก และ ร.ร.รัฐ 12 แห่ง อาทิ วัดไร่ขิงวิทยา, ปากจั่นวิทยา, ภูเก็ตวิทยาลัย, วชิรวิทย์เชียงใหม่, อุ้มเหม้าประชาสรรค์ นครพนม สภาราชินี 2 ตรัง, สตรีอ่างทอง, มัธยมวัดหนองแขม, และสายน้ำผึ้งฯ

ในปัจจุบันสังคมไทยได้เข้าสู่ยุคของทุนนิยมและการบริโภค คนในสังคมมีความต้องการด้านวัตถุอย่างไร้ขีดจำกัด ใช้ทรัพยากรอย่างไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา ดำเนินชีวิตที่ห่างไกลจากวิถีของธรรมชาติ นำไปสู่ภาวะเสื่อมถอยของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมนานับประการ ยส. ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหานี้ และเห็นควรที่จะให้การศึกษากับเยาวชนในเรื่องแนวคิดของการใช้ชีวิตอย่างพึ่ง พาตนเอง เคารพต่อธรรมชาติ และบริโภควัตถุอย่างรู้เท่าทัน ค่ายยุวสิทธิมนุษยชนครั้งนี้ จึงจัดให้มีกิจกรรมเรียนรู้วิถีชีวิตเศรษฐกิจพึ่งตัวเองและเป็นมิตรกับสิ่ง แวดล้อม ควบคู่กับการทำความเข้าใจในเรื่องสิทธิมนุษยชนด้านต่างๆ โดยเฉพาะสิทธิด้านสิ่งแวดล้อมและการบริโภค

4. ค่ายพัฒนาผู้นำเยาวชนนักสิทธิมนุษยชน ครั้งที่ 2 ที่ศูนย์การเรียนรู้ลาซาล บ้านพระเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 10-14 พฤษภาคม 2553 มีเยาวชนที่เคยผ่านการเข้าค่ายยุวสิทธิมนุษยชนในครั้งต่างๆ เข้าร่วม จำนวน 18 คน

ปัจจุบันประเทศไทยมีแรงงานข้ามชาติเข้ามาใช้แรงงานอยู่จำนวนมาก ซึ่งโดยส่วนใหญ่แรงงานเหล่านั้นมักจะได้รับการปฏิบัติและถูกมองอย่างมีอคติ จากคนไทย ถูกละเมิดสิทธิต่างๆ จากนายจ้าง และถูกลดทอนคุณค่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์จากสังคมอยู่เสมอ การจัดให้เยาวชนได้ศึกษาและสัมผัสวิถีชีวิตการทำงานของแรงงานเหล่านั้น จะช่วยให้เยาวชนได้การเรียนรู้ถึงสิทธิของแรงงาน ลดอคติในใจของตน และเข้าใจถึงศักดิ์ศรีที่เท่าเทียมกันของมนุษย์ทุกคน โดยเยาวชนกลุ่มนี้มีภาวะของการเป็นผู้นำที่มีศักยภาพที่จะเผยแพร่และส่งผ่าน สิ่งที่ได้เรียนรู้ออกไปยังสังคมวงกว้าง

5. จัดเสวนาศึกษาสาส์นวันสันติภาพสากล 2010 ในบริบทสังคมไทย
หัวข้อ "สายใย สัมพันธ์ เกื้อกูล: มนุษย์ จิตวิญญาณ ธรรมชาติ" เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2553 ที่ห้องประชุมชั้น 10 อาคารสภาพระสังฆราชคาทอลิกฯ ช่องนนทรี กรุงเทพฯ เวลา 9.00 - 12.30 น. มีผู้เข้าร่วมเสวนาทั้งสิ้น 40 คน ได้แก่ นักบวชชาย-หญิง เจ้าหน้าที่สภาพระสังฆราชฯ, หน่วยงานคาทอลิก, ชมรมนักธุรกิจคาทอลิก, นักศึกษาบ้านเซเวียร์, นักศึกษาปริญญาโท และผู้สนใจทั่วไปทั้งที่เป็นคาทอลิกและเพื่อนศาสนิกชน

สาส์นวันสันติภาพสากลของ พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ในปีนี้มีหัวข้อว่า "หากต้องการสร้างสันติภาพ จงปกป้องคุ้มครองสิ่งสร้าง" ซึ่งมีเนื้อหาครอบคลุมถึงความจำเป็นที่มนุษย์จะต้องช่วยกันปกปักษ์รักษา ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ในยามที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์สิ่งแวดล้อม
ยส. ได้จัดแปลสาส์นวันสันติภาพสากลและเผยแพร่ไปยังหน่วยงานคาทอลิก วัด โรงเรียนคาทอลิกทั่วประเทศ และจัดการศึกษาสาส์นวันสันติภาพสากล 2010 ภายใต้หัวข้อ สายใย สัมพันธ์ เกื้อกูล : มนุษย์ จิตวิญญาณ และธรรมชาติ โดยใช้รูปแบบเวทีเสวนา เพื่อถ่ายทอดสาระของสาส์นวันสันติสากล 2010 และแลกเปลี่ยนแนวคิด และประสบการณ์กับวิทยากรที่เป็นตัวแทนของภูมิปัญญาท้องถิ่น และนักวิชาการ ที่มีประสบการณ์ในการทำงานเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่ง สร้างธรรมชาติ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อพิทักษ์ธรรมชาติ

6. จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ "สื่อสารด้วยรักและกรุณา" ขั้นพื้นฐาน ให้กับเครือข่ายผู้ทำงานด้านสังคมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้และเจ้าหน้าที่ ศูนย์สังคมพัฒนา สังฆมณฑลสุราษฎร์ธานี ที่บ้านพรตะวัน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เมื่อวันที่ 21-23 มิถุนายน 2553 โดยจัดร่วมกับ ศูนย์สังคมพัฒนา สังฆมณฑลสุราษฎร์ธานี ภายใต้การสนับสนุนของคาริตัส อิตาลี โดยมี คุณนริศ มณีขาว เป็นวิทยากร ผู้เข้าร่วมการอบรม ประกอบด้วย หัวหน้าศูนย์ เจ้าหน้าที่ภาคสนาม และอาสาสมัคร จากเครือข่ายสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส จำนวน 10 คน และเจ้าหน้าที่ศูนย์สังคมพัฒนา สุราษฎร์ธานี จำนวน 8 คน

วารสาร "ผู้ไถ่" ฉบับที่ 82 (มกราคม - เมษายน 2553)
ชื่อเรื่อง : "สายใย สัมพันธ์ เกื้อกูล : มนุษย์ จิตวิญญาณ ธรรมชาติ"

วารสาร "ผู้ไถ่" ฉบับที่ 83 ประจำเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2553
ชื่อเรื่อง : ขอคืนพื้นที่ให้กับ "สันติวิธี"

ผลิตพระสมณสาสน์ Caritas in Veritate ฉบับแปลภาษาไทย "ความรักในความจริง"
จัดพิมพ์ครั้งแรกเดือน ธันวาคม 2552
จัดพิมพ์ครั้งที่สอง เดือน เมษายน 2553

เขียนความคิดเห็น
ชื่อ:
หัวเรื่อง:
BBCode:
ความคิดเห็น:
รหัส:*

Powered by AkoComment 2.0!