หน้าหลัก arrow ข่าวย้อนหลัง arrow การเรียนรู้ยิ่งใหญ่จากน่องไก่ชิ้นเดียว : แขนง
หน้าหลัก
รู้จักยส
อยู่กับปวงประชา
ข่าวย้อนหลัง
เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน
ผู้ไถ่ : รายงานสถานการณ์
การศึกษาเพื่อสิทธิ&สันติภาพ
สื่อสิ่งพิมพ์ ยส.
มุมมองสิทธิฯ ในหนัง
กิจกรรม ยส.
คลังภาพ ยส.
เว็บบอร์ด ยส.
เว็บเพื่อนบ้าน
Facebook ยส.

ยส. (ยุติธรรมและสันติ)

จำนวนผู้เข้าชม
ขณะนี้มี 102 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

คลิก เขียนสมุดเยี่ยมคลิก เขียนสมุดเยี่ยม
ขอบคุณทุกท่าน
ที่แวะเข้ามาค่ะ

แนะนำสื่อ ฉบับล่าสุด


วารสารผู้ไถ่ ฉบับที่ 123: ชีวิต การต่อสู้ เพื่อความดีของกันและกัน กำลังใจ ความรัก และความหวัง
 วารสารผู้ไถ่
ฉบับที่ 123


วันสันติสากล 1 มกราคม 2024
 สารวันสันติสากล
1 มกราคม 2024
ปัญญาประดิษฐ์
และสันติภาพ


น้ำแห่งชีวิต (Aqua fons vitae)
 น้ำแห่งชีวิต
(Aqua fons vitae)
สมณกระทรวงเพื่อ
ส่งเสริมการพัฒนา
มนุษย์แบบองค์รวม


สมณลิขิตเตือนใจ...แอมะซอนที่รัก (QUERIDA AMAZONIA)
 แอมะซอนที่รัก
(QUERIDA AMAZONIA)
สมณลิขิตเตือนใจ...
ของสมเด็จ-
พระสันตะปาปาฟรังซิส


จงสรรเสริญพระเจ้า... การก้าวออกไปอย่างต่อเนื่องของเอเชีย
หนังสือแปล
จงสรรเสริญพระเจ้า...
การก้าวออกไป
อย่างต่อเนื่องของเอเชีย


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 2 และ3
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร
ภาคที่ 2 และ3
 


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 1
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร ภาคที่ 1



หนังสือ Jesus CEO :  พระเยซูเจ้า นักบริหารชั้นนำ
หนังสือแปล
Jesus CEO :
พระเยซูเจ้า
นักบริหารชั้นนำ



หนังสือ เส้นทางสู่สิทธิมนุษยชนศึกษา
หนังสือ เส้นทางสู่
สิทธิมนุษยชนศึกษา


พระสมณสาสน์ความรักในความจริง : Caritas in Veritate
หนังสือแปล
Caritas in Veritate :

พระสมณสาสน์
ความรักในความจริง



โปสเตอร์ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ พ.ศ.2532
โปสเตอร์
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
แห่งสหประชาชาติ
พ.ศ.2532


เว็บเพื่อนบ้าน

แวดวงต่างประเทศ

Pax Christi International - PCI

ACPP - Hotline Asia


ดูเว็บอื่นๆ ในหมวด

เว็บน่าสนใจ

เว็บด้านสิทธิฯ

ข่าวสาร/บันเทิง

หน่วยงานองค์กรคาทอลิก

บทความล่าสุด

   อนึ่ง บทความ หรือข้อเขียนทั้งหมดที่นำลงเว็บไซต์ jpthai.org เป็นทัศนะเฉพาะของผู้เขียน
และไม่ผูกพันกับคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อความยุติธรรมและสันติ

ทางเว็บไซต์ jpthai อนุญาตให้คัดลอกบทความ/ข้อมูล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้
แต่กรุณาระบุชื่อผู้เขียน และแหล่งที่มาด้วย ขอบคุณค่ะ

 

Donation / สนับสนุนการดำเนินงาน

  • โอนเข้าบัญชี ในนาม
    คณะกรรมการคาทอลิกฯ แผนกยุติธรรมและสันติ 
    ธนาคารกสิกรไทย สาขาห้วยขวาง บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 084-2-07639-2
    (กรุณา
    ส่งสำเนาการโอนเงินทางอีเมล์ ccjpthai@gmail.com)
    (หรือ ส่งสำเนามาที่ LINE:
    https://lin.ee/LdMulwv)

  • ทางธนาณัติ สั่งจ่ายในนาม “ปริญดา วาปีกัง” ตู้ ปณ. สุทธิสาร (10321)
    114 (2492) ถ.ประชาสงเคราะห์ ซอย 24 ดินแดง กรุงเทพฯ 10400

การเรียนรู้ยิ่งใหญ่จากน่องไก่ชิ้นเดียว : แขนง พิมพ์
Wednesday, 14 September 2011

การเรียนรู้ยิ่งใหญ่จากน่องไก่ชิ้นเดียว

โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 31 กรกฎาคม 2554

 

 

เรียนรู้สิ่งเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ จากน่องไก่เพียงชิ้นเดียว

เช้าเมื่อวาน....

ท้องถนนยังคงพลุกพล่านเหมือนทุกวัน บนทางเท้าหน้าห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ย่านฝั่งธนฯแห่งนั้น กลิ่นไก่ทอดคลุกเคล้าเขม่าควันพิษ โชยเข้ารูจมูกและเข้าไปทำปฏิกิริยากับน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร จนรู้สึกว่าได้เวลาอาหารเช้าแล้ว เมนูยามเช้าของคนรีบเร่งอย่างผมทุกวัน คงหนีไม่พ้นข้าวเหนียว ข้าวหมูทอด หรือไม่ก็ไก่ทอด มักจะเป็นอย่างนี้แทบทุกวัน

"...น้องๆ ขอคุยอะไรด้วย หน่อยได้มั๊ย..."

คำพูดและท่วงท่าสะกิดแบบจู่โจมของชายแปลกหน้า ทำเอาผมตกใจและนิ่งงันอยู่พักหนึ่ง ก่อนมองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่า ผมคือคู่สนทนาของเขาคนนั้น ผมคิดว่าหลายคนคงเคยเจอเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้อยู่บ่อยๆ ช่วงขณะนั้นความคิดบวกกับภาพประสบการณ์เดิมมันโผล่ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ถ้าลักษณะอย่างนี้ เดี๋ยวก็คงขอเงินค่ารถกลับต่างจังหวัด หรือไม่ก็กำลังจะไปหาญาติแต่ไม่มีสตางค์ค่ารถ หรือ แม้แต่ภาพของผู้หญิงอุ้มเด็กทารกเดินตามทางเท้า เที่ยวขอเงินกับคนที่เดินผ่านไปมา โดยอ้างว่าจะเอาไปซื้อนมให้กับเด็ก ภาพเหล่านั้นมันแวบขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จำได้ว่าผมก็ควักเงินในกระเป๋าให้ไปแทบทุกครั้ง แล้วก็กลับมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า เมื่อสักครู่เราโดนเขาหลอกหรือเปล่านะ? ทำไมผู้หญิงคนนั้นไม่ให้น้ำนมตัวเองกับเด็กทารกคนนั่นล่ะ? หรือคำถามอื่นๆ มากมาย มันทำให้ผมไม่มั่นใจและไม่สบายใจกับการที่จะช่วยเหลือคนเหล่านั้น

"น้องนี่...ใช่คนอีสานหรือเปล่า..?"

เขารีบปล่อยประโยคที่สองออกมา ด้วยการถามถึงภูมิลำเนา เหมือนกำลังหาอะไรที่เรามีร่วมกันสักอย่าง เป็นคนอีสานแล้วยังไง? ผมคิดถามในใจแต่ยังไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแต่รอฟังสิ่งที่เขาต้องการ รอฟังว่า เขาจะขอเงินเหมือนครั้งก่อนๆ ที่เคยเจอมาหรือเปล่า แล้วเขาก็คุยต่อไปด้วยน้ำเสียงตัดพ้อว่าคนแถวนี้ไม่มีใครยอมคุยกับเขาเลยแม้แต่คนเดียว ผมคิดว่าความหมายของคำว่า "คนแถวนี้" ของเขา คงหมายถึงคนกรุงเทพฯ หรือคนภูมิภาคอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาคอีสาน ผมยังนิ่งเงียบไม่ตอบคำถามทั้งที่ผมก็เป็นคนอีสานอย่างที่เขาเข้าใจ ด้วยเหตุผลเพียงเพราะไม่อยากให้เขาคิดเหมารวมเอาว่าคนกรุงเทพฯทุกคนหรือคนที่อื่นๆ ทุกคนเป็นคนแล้งน้ำใจ

"พี่จะไปหาญาติที่บางบัวทอง (เห็นมั๊ยล่ะ..ผมคิดไว้ไม่ผิด...จะขอเงินใช่มั๊ยล่ะ?) กะว่าจะไปขึ้นรถเมล์ฟรีฝั่งตรงข้ามโน่น" เขาชี้มือไปทางอีกฟากหนึ่งของถนน

"แต่ที่จะขอความช่วยเหลือจากน้องไม่ใช่จะมาขอเงินอะไรหรอกนะ" เขาค่อยๆ ชี้แจงพร้อมกับจ้องมองสิ่งของที่ผมถืออยู่ในมือ

"คือ...พี่หิวข้าว ว่าจะรบกวนขอข้าวน้องกินสักมื้อ พอจะได้มั๊ย..?"

ผมเริ่มประมวลคำพูดและท่าทางของเขาอย่างรวดเร็ว มีแวบหนึ่งที่นึกถึงภาพอดีตในเรื่องการขอกันกินของคนอีสานบ้านเกิด ที่เคยเห็นและเคยมีประสบการณ์เมื่อตอนเป็นเด็ก คราวที่ขอติดสอยห้อยตามพ่อไปตระเวนหาซื้อของแตกของฮ้างหรืออาชีพรับซื้อของเก่าที่เรารู้จักกันนั่นเอง บางครั้งพ่อจะพาผมไปขอข้าวเหนียวนึ่งจากชาวบ้าน ด้วยข้อจำกัดที่ต้องพเนจรร่อนเร่ไป ค่ำไหนนอนนั่น ทำให้ไม่สะดวก ที่จะหุงหาอาหารกินเองหรือด้วยเหตุผลที่วันนั้นการค้าการขายไม่สู้ดี ไม่มีเงินพอที่จะซื้อข้าวกินในมื้อนั้น ก็อาศัยน้ำใจจากพี่น้องบ้านอื่น เป็นข้าวเหนียวปั้นใหญ่แถมบางครั้งก็จะมีปลาย่างหรือน้ำพริกปลาร้า ติดไม้ติดมือกลับมาด้วย

ภาพความทรงจำเก่าๆ นั่นเองที่ช่วยผมตัดสินใจในการจะช่วยเหลือชายแปลกหน้าคนนั้น

"ผมยกนี่...ให้พี่แล้วกัน"

นั่นเป็นประโยคแรกที่หลุดออกมาจากปากของผมตลอดช่วงเวลาสั้นๆ ที่ได้แต่ยืนฟังอย่างเดียว พร้อมกับยื่นถุงข้าวเหนียวไก่ทอดที่ตั้งใจจะซื้อไปกินเอง ให้กับชายคนนั้น แต่เขากลับยกมือปฏิเสธทันที โดยให้เหตุผลว่าการกระทำเช่นนี้เปรียบเสมือนการแย่งของกันกิน ถึงเขาจะขอแต่ก็ไม่ได้แย่งของใครกิน

"ไม่ได้หรอก ทำอย่างนี้มันเป็นการแย่งของกันกินชัดๆ "

ผมไม่เข้าใจความหมายของเขาหรอก การขอกับการแย่ง มันคนละเรื่องกัน ผมยินดีที่จะให้แล้วแต่เขากลับไม่รับ แล้วตกลงเขาต้องการอะไรกันแน่ ในหัวผมเริ่มกลับมาคิดถึงเรื่องขอเงินอีกครั้ง เขาคงอยากจะได้เงินมากกว่า อาจจะเอาเงินไปซื้อเหล้า เขาคงไม่ได้หิวข้าวจริงๆ หรอก....

แต่ความคิดแบบนั้นของผมก็พลันสลายหายไปในทันที เมื่อเขาบอกว่า เขามีข้าวเหนียวติดกระเป๋ามาแต่เมื่อคืน อยากได้แค่กับข้าวสักอย่างเท่านั้นเอง ผมตั้งใจว่าจะซื้อไก่ทอดให้เขาใหม่ คิดไว้ว่าจะซื้อสองชิ้น ที่ต้องเป็นสองชิ้นก็ด้วยเหตุผลเอาตัวเองเป็นมาตรฐานนั่นเอง น่องทอดไก่สองชิ้นๆ ละ สิบสองบาท สำหรับผมแล้ว มันเป็นจำนวนที่จะพอดีอิ่ม และผมก็ได้สั่งแม่ค้าไปตามนั้น ขณะที่แม่ค้ากำลังเลือกหยิบไก่ทอดและกำลังจะสับเป็นชิ้นๆ ชายคนนั้นเดินเข้ามาสะกิดและพูดกับผมเบาๆ ว่า....

"แค่นี้ก็ขอกันมากเกินไปแล้ว ผมขอแค่ชิ้นเดียวก็พอ"

แค่คำพูดนี้เอง ที่ทำให้ผมเกิดอาการคล้ายๆ ปิ๊งแวบ แต่ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร ที่รู้คือ มันทำให้ผมได้คลี่คลายความคิดที่ติดอยู่ในหัวมานาน มันเป็นความคิดที่ทำให้ผมไม่สบายใจทุกครั้งที่จะช่วยเหลือคนอย่างผู้ชายคนนี้ ที่ผมเคยเรียกว่า พวกคนช่างขอ หรือคนอื่นๆ ที่ผมไม่รู้จัก วันนั้นมีความสุขและอิ่มอยู่กับความรู้สึกนั้นทั้งวัน ไม่ใช่จากการได้ช่วยเหลือผู้ชายคนนั้น แต่เป็นเรื่องจากการได้คลี่คลายความคิดพิพากษาคนอื่น ซึ่งเท่าที่นึกย้อนกลับไป แค่เพียงเหตุการณ์เดียว ผมตัดสินชายคนนั้นไม่รู้กี่เรื่องแล้ว ในชีวิตแต่ละวัน เราอาจจะตัดสินคนอื่นอยู่หลายๆ ครั้งหรือตลอดเวลา ในขณะที่คนอื่นก็คงตัดสินเราด้วยเช่นกัน ตัดสินจากรูปร่าง หน้าตา จากสำเนียงภาษา หรือจากประสบการณ์เดิม การคิดตัดสินอย่างนี้บางทีมันก็ทำให้เราเข้าใจคนอื่นคลาดเคลื่อนไม่เป็นไปตามความเป็นจริง แล้วมันยังย้อนกลับมาทำให้เราทุกข์ใจเพราะต้องกลับมาคิดว่าเราโดนหลอกหรือเปล่า ด้วยการคิดอย่างนี้เองที่ทำให้ผมพลาดโอกาสที่จะยืนมือเข้าไปช่วยเหลือคนอื่นด้วยความหวาดระแวง และจบลงด้วยการตัดสินเขาเหล่านั้นไปต่างๆ นานา

ผมนึกขอบคุณชายคนนั้นจริงๆ ที่ทำให้ผมได้เรียนรู้สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่า การวางใจ วางใจจากอคติและการด่วนตัดสินผู้อื่น พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล เคยบอกไว้เสมอว่า เราเลือกที่มีความสุขได้ ถ้าเราวางใจเป็น

โดย.....แขนง

ที่มา คอลัมน์ มองย้อนศร : http://www.budnet.org/

ความคิดเห็น

เขียนความคิดเห็น
ชื่อ:
หัวเรื่อง:
BBCode:Web AddressEmail AddressBold TextItalic TextUnderlined TextQuoteCodeOpen ListList ItemClose List
ความคิดเห็น:



รหัส:* Code

Powered by AkoComment 2.0!

< ก่อนหน้า   ถัดไป >