หน้าหลัก arrow ข่าวย้อนหลัง arrow ทะยาน "วีลแชร์" สู่มหา'ลัยชีวิต : ขวัญดาว จิตรพนา
หน้าหลัก
รู้จักยส
อยู่กับปวงประชา
ข่าวย้อนหลัง
เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน
ผู้ไถ่ : รายงานสถานการณ์
การศึกษาเพื่อสิทธิ&สันติภาพ
สื่อสิ่งพิมพ์ ยส.
มุมมองสิทธิฯ ในหนัง
กิจกรรม ยส.
คลังภาพ ยส.
เว็บบอร์ด ยส.
เว็บเพื่อนบ้าน
Facebook ยส.

ยส. (ยุติธรรมและสันติ)

จำนวนผู้เข้าชม
ขณะนี้มี 270 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

คลิก เขียนสมุดเยี่ยมคลิก เขียนสมุดเยี่ยม
ขอบคุณทุกท่าน
ที่แวะเข้ามาค่ะ

แนะนำสื่อ ฉบับล่าสุด


วารสารผู้ไถ่ ฉบับที่ 123: ชีวิต การต่อสู้ เพื่อความดีของกันและกัน กำลังใจ ความรัก และความหวัง
 วารสารผู้ไถ่
ฉบับที่ 123


วันสันติสากล 1 มกราคม 2024
 สารวันสันติสากล
1 มกราคม 2024
ปัญญาประดิษฐ์
และสันติภาพ


น้ำแห่งชีวิต (Aqua fons vitae)
 น้ำแห่งชีวิต
(Aqua fons vitae)
สมณกระทรวงเพื่อ
ส่งเสริมการพัฒนา
มนุษย์แบบองค์รวม


สมณลิขิตเตือนใจ...แอมะซอนที่รัก (QUERIDA AMAZONIA)
 แอมะซอนที่รัก
(QUERIDA AMAZONIA)
สมณลิขิตเตือนใจ...
ของสมเด็จ-
พระสันตะปาปาฟรังซิส


จงสรรเสริญพระเจ้า... การก้าวออกไปอย่างต่อเนื่องของเอเชีย
หนังสือแปล
จงสรรเสริญพระเจ้า...
การก้าวออกไป
อย่างต่อเนื่องของเอเชีย


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 2 และ3
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร
ภาคที่ 2 และ3
 


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 1
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร ภาคที่ 1



หนังสือ Jesus CEO :  พระเยซูเจ้า นักบริหารชั้นนำ
หนังสือแปล
Jesus CEO :
พระเยซูเจ้า
นักบริหารชั้นนำ



หนังสือ เส้นทางสู่สิทธิมนุษยชนศึกษา
หนังสือ เส้นทางสู่
สิทธิมนุษยชนศึกษา


พระสมณสาสน์ความรักในความจริง : Caritas in Veritate
หนังสือแปล
Caritas in Veritate :

พระสมณสาสน์
ความรักในความจริง



โปสเตอร์ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ พ.ศ.2532
โปสเตอร์
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
แห่งสหประชาชาติ
พ.ศ.2532


เว็บเพื่อนบ้าน

แวดวงต่างประเทศ

Pax Christi International - PCI

ACPP - Hotline Asia


ดูเว็บอื่นๆ ในหมวด

เว็บน่าสนใจ

เว็บด้านสิทธิฯ

ข่าวสาร/บันเทิง

หน่วยงานองค์กรคาทอลิก

บทความล่าสุด

   อนึ่ง บทความ หรือข้อเขียนทั้งหมดที่นำลงเว็บไซต์ jpthai.org เป็นทัศนะเฉพาะของผู้เขียน
และไม่ผูกพันกับคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อความยุติธรรมและสันติ

ทางเว็บไซต์ jpthai อนุญาตให้คัดลอกบทความ/ข้อมูล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้
แต่กรุณาระบุชื่อผู้เขียน และแหล่งที่มาด้วย ขอบคุณค่ะ

 

Donation / สนับสนุนการดำเนินงาน

  • โอนเข้าบัญชี ในนาม
    คณะกรรมการคาทอลิกฯ แผนกยุติธรรมและสันติ 
    ธนาคารกสิกรไทย สาขาห้วยขวาง บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 084-2-07639-2
    (กรุณา
    ส่งสำเนาการโอนเงินทางอีเมล์ ccjpthai@gmail.com)
    (หรือ ส่งสำเนามาที่ LINE:
    https://lin.ee/LdMulwv)

  • ทางธนาณัติ สั่งจ่ายในนาม “ปริญดา วาปีกัง” ตู้ ปณ. สุทธิสาร (10321)
    114 (2492) ถ.ประชาสงเคราะห์ ซอย 24 ดินแดง กรุงเทพฯ 10400

ทะยาน "วีลแชร์" สู่มหา'ลัยชีวิต : ขวัญดาว จิตรพนา พิมพ์
Thursday, 03 February 2011

ทะยาน "วีลแชร์" สู่มหา'ลัยชีวิต

โดย : ขวัญดาว จิตรพนา

"สด" "เยล" และ "จอย" สามเกลอคนเล็กหัวใจใหญ่ กับความตั้งใจจนได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย จุดประกายการสู้ชีวิตให้ใครต่อใครหลายคนสู้ต่อไป

"สด" "เยล" และ "จอย" สามเกลอคนเล็กหัวใจใหญ่เด็กพิการที่กำลังโด่งดังจากการได้รับรางวัล "คนเล็กหัวใจใหญ่" ในงาน "คนค้นฅน อวอร์ด ครั้งที่ 2" จุดประกายการสู้ชีวิตให้ใครต่อใครหลายคน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนรุ่นน้องที่เป็นผู้พิการทางร่างกายของประเทศไทย ซึ่งความตั้งใจจริงและไม่ย่อท้อต่อชะตากรรม เป็นอีกแง่มุมที่สังคมควรได้เรียนรู้ เพื่อนำไปใช้รับมือกับสังคมที่นับวัน "ความเอื้ออาทร" เริ่มหดหาย

สด หรือ คมกริช เทพา นักศึกษาหลักสูตรแอนนิเมชั่น วิทยาลัยศิลปะสื่อและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พิการด้วยโรคกล้ามเนื้อเกร็งตั้งแต่กำเนิด ทำให้ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ แม้เขาจะเดินเหินได้ไม่คล่องแคล่วนัก แต่ก็พอจะช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง

ส่วน เยล หรือ สุริยา แสงแก้วฝั้น นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีความพิการด้วยโรคเดียวกันกับสด แต่มีระดับค่อนข้างรุนแรงสูงกว่า ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเดินแบบมีล้อพยุงตัวเคลื่อนไหว มือข้างหนึ่งหยิบจับไม่ได้ กิจวัตรประจำวันอย่างการกินข้าวหรือดื่มน้ำทำได้ลำบาก

ด้าน จอย หรือ วาสนา เผ่าปัญญา นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ป่วยด้วยโรคพันธุกรรม ทำให้ร่างกายหยุดการเจริญเติบโต แม้จะอายุ 19 ปีแต่มีความสูงเทียบเท่ากับเด็กอายุ 6 ขวบเท่านั้น และยังมีโรคประจำตัวคือลิ้นหัวใจรั่ว และสายตาสั้นมากกว่าปกติ

ทั้งสามเป็นผู้เปิดประเด็นให้สังคมได้หันมาสนใจเด็กพิการที่เรียนดี ถ้าสังคมเปิดโอกาส ทว่า เส้นทางการก้าวสู่รั้วอุดมศึกษาไม่ได้โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ ซึ่งนอกจากสามเกลอคน เล็กหัวใจใหญ่นี้แล้ว ยังมีรุ่นน้องเยาวชนผู้พิการจากทั่วประเทศอีกหลายคน ที่จะตบเท้าเดินตามรอยรุ่นพี่คนดัง เพื่อก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยชีวิตที่สังคมเปิดทางไว้กว้างขึ้น

พวงทอง ศรีวิลัย ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีสังวาลย์ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรงเรียนต้นสังกัดของทั้งสาม เล่าว่า ในประเทศไทยมีโรงเรียนที่จัดการศึกษาให้แก่เด็กที่บกพร่องทางร่างกายทั้ง ด้านการเดิน การหยิบจับและการพูดเพียง 3 แห่ง คือ โรงเรียนศรีสังวาลย์ จ.เชียงใหม่ โรงเรียนศรีสังวาลย์ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นของรัฐ ส่วนอีกแห่งเป็นเอกชน คือ โรงเรียนมูลนิธิของสมเด็จย่าที่ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

"ในส่วนของโรงเรียนศรีสังวาลย์ฯ เชียงใหม่ ก่อตั้งมาเพียง 9 ปี วัตถุประสงค์ให้บริการเฉพาะเด็กพิการในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือเท่านั้น แต่ด้วยมนุษยธรรม ปัจจุบันเรามีเด็กที่อยู่ในความดูแลมากถึง 20 จังหวัด ตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเด็กที่จะเข้ามาเรียนเราจะมีการคัดกรองจากกลุ่มที่ร่างกายหรือสุขภาพ บกพร่อง ยกเว้นกลุ่มหูหนวก ตาบอดและปัญญาอ่อน จะต้องไปเรียนที่ศูนย์การศึกษาพิเศษแทน"

นอกจากนี้ทางโรงเรียนจะต้องประเมินความสามารถในการเรียนรู้ของเด็ก ถ้าพร้อมก็จะส่งเสริมตามความชอบหรือความถนัด อย่างในกรณีของสามคนเล็กอย่าง สด เยล และจอย ที่ชอบ "คอมพิวเตอร์ธุรกิจ" ก็ถูกส่งให้ไปเรียนในวิทยาลัยสารพัดช่าง

"โรงเรียนได้วิเคราะห์แล้วจัดครูทั้งในและนอกสถาบันโดยจ้างมาติวให้ ช่วงเย็นและเสาร์อาทิตย์ จากนั้นพาไปสอบตรงแข่งกับเด็กปกติทั่วไป ซึ่งเป็นการสอบที่มีขึ้นก่อนการสอบโควตาและเอนทรานซ์ ผลการสอบตรงนี้วัดจากทั้งเกรดเฉลี่ยซึ่งเด็กทั้งสามคนมีผลการเรียนได้เกรดเฉลี่ยสูงคือ 3 กว่าขึ้นไปทั้งหมด ประกอบกับการทำคะแนนสอบได้ดีจึงสอบติดเข้าไปเรียนใน มช. ตามคณะที่ตัวเองต้องการ และได้ออกไปเรียนรู้ต่อสู้กับตัวเองในรั้วมหาวิทยาลัยตามความฝัน แลกกับการต้องออกไปเผชิญกับโลกกว้างที่ต้องพึ่งตัวเองมากขึ้น"

ล่าสุดมีเด็กพิการรุ่นน้องจากโรงเรียนศรีสังวาลย์ฯ เชียงใหม่ สอบตรงเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันได้อีก 4 คน เกือบทั้งหมดยังต้องนั่งวีลแชร์ไปเรียน

"ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็กพิการที่ใฝ่เรียนได้ก้าวเข้าสู่สถาบันอุดมศึกษาได้ สิ่งสำคัญนอกจากครูและโรงเรียนแล้ว คือผู้ปกครอง ต้องให้ความสนใจในการพาเด็กไปสอบ เพราะหลายคนผู้ปกครองละเลยไม่เอาใจใส่เท่าที่ควร อีกอย่างทางมหาวิทยาลัยและสังคมต้องให้โอกาส เพราะปัญหาที่เด็กของเราเจอคือเข้าไปเรียนแล้วรับสภาพตัวเองและสิ่งแวดล้อมรอบข้างไม่ไหว...ที่เด็กไปเจอมา ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เด็กพิการแต่อยู่ที่คนปกติทั่วไปไม่เข้าใจ เพราะมักมองว่าคนพิการทำอะไรไม่ได้ แต่ความจริงแล้วหากเราสามารถดึงศักยภาพของเขาที่มีออกมาได้ เขาก็จะสามารถเรียนรู้และยืนหยัดทำให้เขาสามารถเลี้ยงชีพได้เช่นคนปกติทั่วไป"

ด้าน รศ.นพ.อำนาจ อยู่สุข รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาคุณภาพนักศึกษาและกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) บอกว่า ขณะนี้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีนักศึกษาผู้พิการจำนวน 28 คน ส่วนมากเป็นผู้พิการทางหู ตา และกาย กระจายอยู่ตามคณะต่างๆ ซึ่งสิ่งที่มหาวิทยาลัยพยายามปลูกฝังคือเรื่องความมุ่งมั่นให้ประสบผลสำเร็จ

"อย่างเยลที่มีความพิการทางสมองและทำให้แขนขาเกร็งนั้น ช่วงสอบสัมภาษณ์เราถามเขาว่า ทำไมเรียนนิติศาสตร์ เพราะการเป็นทนายความหรือผู้พิพากษา การมีบุคลิกแบบนี้คงเป็นไม่ได้ แต่เขาตอบว่า ต้องการนำความรู้นิติศาสตร์ไปช่วยคนพิการด้วยกัน นี่เป็นสิ่งที่เรารับเขาเข้ามา เพราะเห็นความตั้งใจเรียน ตั้งใจจริงจึงได้คุยกับทางคณะให้ทำทางลาดชันให้เขาสามารถเข้าไปสู่ห้องเรียนได้โดยไม่ลำบาก และจัดให้มีชมรมเพื่อนคนพิการเป็นอาสาสมัครเข้ามาช่วยดูแลเป็นรายตัว"

ด้วยตัวอย่างของความมุ่งมั่น รองอธิการบดีฯ บอก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จะจัดโครงการพิเศษเพื่อให้โอกาสกับเด็กเหล่านี้มากขึ้น โดยมีนโยบายให้ทุกคณะเตรียมการรองรับทั้งเรื่องทางกายภาพ สิ่งอำนวยความสะดวกก่อนการเข้าเรียน มอบหมายให้อาจารย์ดูแลแบบรายบุคคล เพราะตั้งใจให้ผู้พิการทางกายแต่มีความตั้งใจได้อยู่ในสังคม โดยจะได้รับการพัฒนาจนเป็นกำลังสำคัญของสังคม ไม่ใช่อยู่ในฐานะภาระของสังคมอีกต่อไป

"แต่เราก็ห่วงกระแสความโด่งดังของเด็กสามคนที่เกิดขึ้นอยู่เหมือนกัน เพราะช่วงที่เรียนตามปกติเด็กก็ต้องใช้เวลาในการเรียนมากกว่าคนทั่วไปหลายเท่า เช่น ต้องบันทึกเสียงอาจารย์กลับไปถอดเทปฟัง เพราะใช้มือจดไม่ได้ จึงต้องใช้เวลาทบทวนบทเรียนมากกว่าคนปกติหลายเท่า และต้องดูแลกันเป็นพิเศษ การที่พวกเขาใช้เวลาไปออกรายการออกอากาศโดยต้องเดินทางไปที่กรุงเทพฯ มากเกินไปก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะเข้ามาอยู่ปี 1 ก็อยากจะให้เรียนหนังสือกันอย่างเต็มที่ การที่ไปผลักดันให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังมาก เรากลัวว่าเขาจะเข้าใจผิดและหลงทางไป เพราะหน้าที่หลักยังต้องเป็นเรื่องเรียน"

อย่างไรก็ตาม ด้วยเรื่องราวความมุ่งมั่นของเด็กสามคนนี้ก็ช่วยจุดประกายฝันให้กับน้องๆ ผู้พิการคนอื่นๆ ได้พยายามทำตามฝันของตัวเอง ขอเพียงแค่พยายามและมุ่งมั่น ความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่ๆ

 


------------------

จากเว็บ http://www.bangkokbiznews.com

ความคิดเห็น

เขียนความคิดเห็น
ชื่อ:
หัวเรื่อง:
BBCode:Web AddressEmail AddressBold TextItalic TextUnderlined TextQuoteCodeOpen ListList ItemClose List
ความคิดเห็น:



รหัส:* Code

Powered by AkoComment 2.0!

< ก่อนหน้า   ถัดไป >