หน้าหลัก 
วารสารผู้ไถ่ 
แวดวงต่างประเทศ
| บทความล่าสุด |
|---|
|
ทางเว็บไซต์ jpthai อนุญาตให้คัดลอกบทความ/ข้อมูล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้
Donation / สนับสนุนการดำเนินงาน
|
อนึ่ง บทความ หรือข้อเขียนทั้งหมดที่นำลงเว็บไซต์ jpthai.org เป็นทัศนะเฉพาะของผู้เขียน 
| เสวนา ศาสนิกกับการสร้างสันติภาพ : พระสังฆราชบุญเลื่อน หมั้นทรัพย์ |
|
| Wednesday, 12 January 2011 | ||||
|
ผู้ที่พยายามสร้างอาณาจักรของพระองค์ในโลกนั่นแหละ คือ ผู้ที่ทำงานที่ก่อให้เกิดสันติ
พระสังฆราชบุญเลื่อน หมั้นทรัพย์ ทุกคนมีศาสนา และมีความเชื่อมั่นศรัทธาในความเชื่อของตน และในฐานะที่เราเป็นผู้มีศาสนา เราจะมีส่วนช่วยให้สังคมโลกเรามีสันติได้หรือไม่และอย่างไร สันติภาพในความหมายของคริสตชน เราเข้าใจร่วมกันว่าเป็นงานที่ก่อให้เกิดความยุติธรรม ซึ่งทุกคนจะต้องเข้าใจว่า สันติไม่ใช่สถานภาพที่สงบหรือเป็นสถานการณ์ที่ไม่มีสงคราม และเมื่อเป็นงานก็หมายความว่าทุกคนต้องช่วยกันทำ และต้องช่วยกันทำงานเพื่อให้เกิดสันตินี้ด้วยความหวัง
ความยุติธรรมระหว่างเรามนุษย์นั้น เกิดขึ้นได้จากการเคารพสิทธิมนุษยชน มนุษย์ทุกคนที่เกิดมามีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน
ทางศาสนาเราถือว่ามนุษย์ทุกคนเป็นลูกของพระเป็นเจ้า ถูกสร้างมาตามฉายาของพระองค์ ฉะนั้น เมื่อมีเกียรติและศักดิ์ศรี ก็มีสิทธิที่จะเจริญชีวิตเยี่ยงมนุษย์ และมีหน้าที่ที่จะต้องเคารพศักดิ์ศรีของผู้อื่นด้วย ความยุติธรรมต้องเป็นรากฐานของความรัก หากว่า เราแสดงความรักต่อคนอื่นโดยไม่ยุติธรรม คือ รักเขาเพื่อใช้เขาเป็นเครื่องมือสำหรับผลประโยชน์ส่วนตัว อย่างนี้ไม่ใช่ความรักที่ศาสนาสั่งสอน แต่เป็นความหลอกลวง ความรัก และเมตตาต้องมาจากการรับรู้ และเคารพศักดิ์ศรีความเป็นคน ความรักนี้มีรากมาจากพระบิดาเจ้าผู้ทรงรักมนุษย์ทุกคนแม้เราเป็นคนบาป พระองค์ก็ทรงรักเราและปรารถนาให้พวกเราได้มีความสุขในพระอาณาจักรของพระเจ้า ซึ่งพระอาณาจักรนี้ต้องเริ่มตั้งแต่ในโลกนี้ ทุกคนที่พยายามสร้างอาณาจักรของพระองค์ในโลกนั่นแหละ เป็นงานที่ก่อให้เกิดสันติ แม้ว่าจะเป็นงานที่ยากลำบากแต่เราก็ต้องช่วยกัน กิจการอันหนึ่งที่เราจะต้องพยายามทำเพื่อก่อให้เกิดสันติ คือ การเข้าคืนดีกัน เพราะว่าการเข้าคืนดีกันนั้น มีหลักมาจากการเข้าคืนดีกันกับพระเป็นเจ้า หากเรายอมรับว่ามนุษย์ทุกคนเป็นพี่น้อง และหันเข้าหาพระองค์โดยจริงใจ โดยให้อภัยบาปแก่เรา การเข้าคืนดีจึงเป็นการให้อภัยกัน การให้อภัย และยอมรับการอภัย เป็นการเข้าคืนดีกัน ก่อให้เกิดบรรยากาศที่ดีและมีพลังที่ก่อให้เกิดสันติภาพที่แท้จริงและถาวร แม้ว่าทางนี้จะยากลำบากแต่สำหรับคริสตชน การเดินทางไปสู่สันตินี้ต้องเป็นการเดินทางไปตามมรรคาแห่งกางเขน กางเขนสำหรับเราถือเป็นภาพลักษณ์ อันแสดงถึงการเข้าคืนดีกันระหว่างมนุษย์กับพระเป็นเจ้าแล้วก็มีด้านนอนก็เป็นการเข้าคืนดีกันระหว่างมนุษย์ต่อมนุษย์ และมนุษย์ต่อสิ่งสร้างทั้งหลาย เราจะได้พลังในการที่จะเสริมสร้างสัมพันธภาพอันดีนี้ให้เกิดวัฒนธรรมแห่งความรักและการอภัยขึ้นมาในสังคม
ที่มา : งานเสวนา "ศาสนิกกับการสร้างสันติภาพ : กรณีศึกษาประเทศอินโดนีเซีย" โดยคณะกรรมการยุติธรรมและสันติแห่งประเทศไทย (ยส.) และสำนักจุฬาราชมนตรี วันที่ 9 พฤศจิกายน 2543 ณ ห้องประชุมจุมภฎ-พันธุ์ทิพย์ อาคารประชาธิปก-รำไพพรรณี จุฬาฯ
Powered by AkoComment 2.0! |
||||
| < ก่อนหน้า | ถัดไป > |
|---|
