บทความล่าสุด |
---|
อนึ่ง บทความ หรือข้อเขียนทั้งหมดที่นำลงเว็บไซต์ jpthai.org เป็นทัศนะเฉพาะของผู้เขียน
ทางเว็บไซต์ jpthai อนุญาตให้คัดลอกบทความ/ข้อมูล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้
Donation / สนับสนุนการดำเนินงาน
|
ว่าด้วย..ปิศาจร้าย (2) : ชัยยศ ยโสธโร |
Wednesday, 02 June 2010 | ||||
ว่าด้วย..ปิศาจร้าย (2) โพสต์ทูเดย์ "สิทธิ เสรีภาพที่ปราศจากหน้าที่และความรับผิดชอบ คือ อาชญากรรม" นิทานเรื่องเล่าต่อไปนี้ เค้าโครงเรื่องราวมาจากศาสนายิว เป็นเรื่องเล่าอุทาหรณ์สอนใจที่มีอายุมาร่วมสองพันปี สะท้อนความจริงที่เกิดขึ้นในทุกสังคม และทุกกาล เรื่องราวสั้นๆ เริ่มต้นชาย 2 คนพายเรือออกไปกลางแม่น้ำด้วยกัน ทันใดนั้นชายคนหนึ่งก็เริ่มต้นเลื่อยพื้นเรือตรงจุดใต้ฝ่าเท้า เขาอ้างว่าเป้นสิทธิอันชอบธรรมที่จะทำสิ่งใดก็ได้กับพื้นที่ กับทรัพย์สินที่เป็นของเขา ชายอีกคนหนึ่งโต้เถียงว่า "พวกเราทั้งสองต่างอยู่ในเรือลำเดียวกันนะ การกระทำของเจ้าจะทำให้พวกเราทั้งคู่ต้องจมน้ำตายนะ" แต่ชายคนแรกหาฟังไม่ เขายังคงยืนยันสิทธิที่อ้างว่าชอบธรรมของเขา และกระทำขุดเจาะต่อไปภายใต้ความพยายามทักท้วงของเพื่อนร่วมทาง .... น่าสนใจว่า เรื่องเล่านี้สะท้อนปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในทุกสังคม โดยเฉพาะสังคมที่มีการแยกเขา แยกเรา ในทุกสังคมเราพบไม่ยากเลยว่าเรามีกลุ่มคนและปัจเจกชนจำนวนมากที่มีพฤติกรรมไม่แตกต่างจากชายคนแรก หลายคนมองไม่เห็นความเชื่อมโยงของตนเองกับคนอื่น หลงลืมคนรอบข้าง ไม่ใส่ใจว่าการกระทำของตนนั้นสามารถส่งผลกระทบที่มีต่อชุมชน สังคมหรือประเทศเพียงใดและอย่างไร พฤติกรรมที่สะท้อนออกมาจึงเป็นการกระทำที่มุ่งเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ส่วนของกลุ่มตน กระทำตามสิทธิ ใช้อำนาจตามอำเภอใจโดยลืมสำนึกความรับผิดชอบ ผลกระทบต่อคนอื่น การมองเห็นความเชื่อมโยงนี้ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยง่าย สิ่งนี้เองที่ต้องอาศัยการศึกษาเพื่อช่วยให้เราเติบโตเป็นมนุษย์ที่ดีงาม การที่เราทุกคนต่างมีความเป็นสัตว์ป่าในตัว สัตว์ป่าที่เป็นปิศาจร้าย ชื่อว่า โมหะ โทษะ และโลภะ ดังนั้นความสามารถที่จะใช้สติปัญญาและวิจาณญาณในการกระทำด้วยความรับผิดชอบ จึงต้องผ่านการอบรมและบ่มเพาะนิสัย อัตตา ความเป็นตัวกู ของกู กระทำและตอบโต้ตามต้นทุนของสติปัญญา และอุปนิสัยใจคอที่ผ่านการอบรม เรียนรู้มา อัตตานี้พร้อมทำหน้าที่ต่อสู้ปกป้อง และตอบโต้ทุกสิ่งที่กำลังเข้ามากระทบความเป็นตัวกู เข้ามาแย่งชิงของกู บริวารสำคัญของอัตตาก็คือ ปิศาจร้ายที่ทำหน้าที่ในทางหนึ่ง คือ ปกป้อง ส่งเสริมและหล่อเลี้ยง ให้อัตตามีชีวิตและเติบโตแข็งแรงตลอดเวลา หน้าที่ของปิศาจร้ายในอีกทางคือ การแสดงออกซึ่งการเบียดเบียนชีวิต ทรัพย์สินผู้อื่นเพื่อเอาประโยชน์มาเป็นของตน ปิศาจตัวตนรู้จักแต่เกมส์การแข่งขัน ที่มุ่งผลแพ้ ชนะ เป้นสำคัญ อัตตาไม่รู้จักคำว่าสันติภาพ ไม่รู้จักเกมส์การแข่งขันที่เราแต่ละฝ่ายสามารถอยู่ร่วมกันได้ สามารถพูดคุยทำความเข้าใจและหาผลลัพท์ที่ทุกฝ่ายต่างพึงพอใจร่วมกันได้ สิ่งที่เป็นตลกร้าย คือ ปิศาจร้ายเช่นนี้มีอยู่ในตัวเราทุกคน พร้อมที่จะออกสู่โลกภายนอก กัดกินและเบียดเบียนสิ่งต่างๆ รอบตัว รวมถึงตัวเจ้าของชีวิตเอง ปิศาจร้ายมีชีวิตด้วยอารมณ์ความรู้สึกเชิงลบต่างๆ ซึ่งก็คือ ความทุกข์ มาหล่อเลี้ยงเป็นอาหาร สิ่งที่ซับซ้อน คือ ปิศาจร้ายมักแฝงตัวด้วยรูปลักษณ์อาภรณ์ที่คนทั่วไปหรือสังคมต้องยอมรับด้วย เช่น รูปลักษณ์ของความถูกต้องดีงาม อุดมการณ์อันสูงส่ง ความชอบธรรม ความยุติธรรม รูปลักษณ์นี้จะต้อง เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ มีคุณค่า สมควรแก่การเสียสละ และอุทิศแรงกาย แรงใจ รวมถึงชีวิต กระนั้น ปิศาจร้าย ก็หาใช้สิ่งเลวร้ายเสมอไป ปิศาจพร้อมที่จะสูญสลายทันทียามที่ได้สัมผัสความรัก ความเมตตาและความเข้าใจ ยอมรับจากผู้อื่น ผู้อื่นนั้นอาจเป็นมิตร ศัตรู จากคนรู้จักหรือแม้แต่กับคนแปลกหน้า การยอมรับที่สื่อแสดงออกมาในรูปของการรับฟัง การเคารพต่อกัน มันเป็นเสมือนน้ำฝนที่ราดรดบนพื้นดินที่แห้งผาก หลายคนถูกทำร้ายอย่างไร้ความเป็นธรรม ตกอยู่ในสภาพเหยื่อ แต่เหยื่อหลายคนเลือกที่จะก้าวข้ามและปล่อยวาง เพื่อที่ไม่ให้วงจรของเวรกรรมและความอาฆาตพยาบาทถูกหล่อเลี้ยงต่อไป จิตแพทย์หญิงท่านหนึ่งได้เล่าประสบการณ์การช่วยเหลือเด็กหญิงคนหนึ่งที่ถูกลักพาตัวไปจากครอบครัวเมื่อตอนอายุ 4 ขวบ ครอบครัวพยายามตามหาแต่ไร้วี่แวว ในที่สุดเวลาผ่านไป 8 ปี เด็กหญิงได้รับการช่วยเหลือและกลับบ้านได้ในที่สุด ชายที่ลักพาตัวเธอถูกจับกุมและถูกตัดสินลงโทษจำคุก เด็กหญิงเล่าประสบการณ์ให้คุณหมอฟังว่า เธอถูกละเมิดทางเพศ และถูกบังคับให้เรียกอีกฝ่ายว่า พ่อ ทั้งคู่ต้องโยกย้ายที่อยู่อาศัยบ่อยๆ เธอพยายามหาทางกลับบ้าน แม้จะล้มเหลวในครั้งแรกแต่เธอก็หาโอกาสหนี กลับได้ในที่สุด ต่อมาชายคนนั้นเสียชีวิตในคุก สิ่งที่น่าสนใจและเป็นกรณีศึกษาที่สำคัญ คือ เด็กหญิงไม่ได้รู้สึกแค้นเคืองหรืออาฆาตพยาบาทบุคคลที่ทำร้ายเธอแต่อย่างใด เธอเล่าว่าสิ่งสำคัญที่ช่วยเธอมา ตลอด คือ การระลึกเสมอว่าวันหนึ่งเธอจะได้กลับบ้านไปพบปะพ่อแม่ ผู้ที่รักเธอซึ่งรอคอยอยู่ ความเชื่อมั่นนี้เป็นเสมือนประทีปหล่อเลี้ยงช่วงเวลาอันเลวร้ายที่เกิดขึ้น ไม่ให้สามารถมาทำร้ายเธอได้ คุณหมอวิเคราะห์ภูมิคุ้มกันปิศาจร้ายของเด็กหญิงนี้ว่า เนื่องจากเด็กหญิงคนนี้มีความมั่นคงในสายสัมพันธ์ความรักที่เชื่อมโยงตัวเธอกับพ่อแม่ เด็กน้อยมีประสบการณ์ที่ลึกซึ้งและมั่นคงในความรักที่ได้รับ และรับรู้ในความเป็นที่รัก มันช่วยให้เธอมีภูมิคุ้นกัน และยังคงมีทัศนคติที่ดีต่อชีวิต ต่ออนาคต คุณหมอเพิ่มเติมว่า กรณีนี้มีความเป็นไปได้ เนื่องเพราะการล่วงละเมิดเกิดขึ้นโดยคนแปลกหน้า ไม่ใช่โดยบุคคลในครอบครัวซึ่งถือเป็นเรื่องเลวร้ายรุนแรง เด็กหญิงคนนี้เป็นเพียงเด็กธรรมดา ลูกชาวบ้านทั่วไป ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น ไม่ได้เรียนรู้มากแบบผู้ใหญ่ แต่เธอก็สามารถทำสิ่งที่ผู้ใหญ่หลายคนทำไม่ได้ เธอเลือกก้าวข้ามช่วงเวลาเลวร้าย และเลือกที่จะเติบโตอย่างมีความสุข ไม่ปล่อยให้ประสบการณ์เลวร้ายมาเป็นขื่อคาชีวิตของเธอ เราทุกคนต่างล้วนเติบโต ผ่านพบประสบการณ์อันเลวร้าย สั่งสมเป็นบทเรียน เป็นอคติ เป็นเครื่องเตือนใจ รวมถึงสั่งสมเป็นปิศาจร้ายในตัว กระนั้นเราก็ยังสามารถเลือกที่จะจดจำ เลือกที่จะทำความเข้าใจ และเลือกที่จะดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่าได้ เผื่อแผ่ความรัก ความเห็นอกเห็นใจ โดยเฉพาะสถานการณ์บ้านเมืองที่มีความแตกร้าว มีแต่ความสมานฉันท์ที่จะช่วยเยียวยา หยุดยั้งปิศาจร้ายในสังคม ไม่ใช่การเอาชนะคะคาน ไม่ใช่การดื้อดึง การตอบโต้ ขอให้เชื่อเถิดว่า ยังคงมีหนทางที่จะหันกลับมา "คืนดี" ได้เสมอ เพียงแต่เราทุกคนต้องช่วยกัน หยุดยั้งปิศาจร้ายในใจ อย่าเป็นเหยื่ออคติในใจ และหาหนทางที่จะสมานฉันท์ แทนการแก้แค้นตอบโต้ โดย.....ชัยยศ ยโสธโร ที่มา คอลัมน์ มองย้อนศร : http://www.budnet.org/
Powered by AkoComment 2.0! |
< ก่อนหน้า | ถัดไป > |
---|