บทความล่าสุด |
---|
อนึ่ง บทความ หรือข้อเขียนทั้งหมดที่นำลงเว็บไซต์ jpthai.org เป็นทัศนะเฉพาะของผู้เขียน
ทางเว็บไซต์ jpthai อนุญาตให้คัดลอกบทความ/ข้อมูล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้
Donation / สนับสนุนการดำเนินงาน
|
ข้าพเจ้าเชื่อ (ตอนที่ 5) โดย บาทหลวงชัยยะ กิจสวัสดิ์ |
Wednesday, 11 March 2009 | ||||
กลับไปอ่าน ตอนที่ 1 "ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเป็นเจ้า พระบิดาทรงสรรพานุภาพสร้างฟ้าดิน
ตอนที่ 3 เสด็จลงใต้บาดาล วันที่สามกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย
------------------------------------------
9. พระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์สากล สหพันธ์นักบุญ พระเยซูเจ้าทรงมอบผลบุญแห่งการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนชีพของพระองค์แก่พระศาสนจักร มีแต่พระศาสนจักรเท่านั้นที่สามารถโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์และทำให้แสงสว่างแห่งความจริงปรากฏ การเป็นหนึ่งเดียวกับพระศาสนจักรจึงไม่เป็นเพียงหนึ่งในหนทางสู่ความรอด แต่เป็นเพียงหนทางเดียวเท่านั้น พระเยซูเจ้าทรงยืนยันความจำเป็นในการเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับพระศาสนจักรโดยอาศัยศีลล้างบาปไว้ว่า "ผู้ที่เชื่อและรับศีลล้างบาปก็จะรอดพ้น ผู้ที่ไม่เชื่อจะถูกตัดสินลงโทษ" (มก 16:16) จึงนำมาสู่คำสอนที่ว่า "นอกพระศาสนจักรไม่มีความรอด" ! มีคนจำนวนมากคัดค้านคำสอนนี้ เราจึงควรทำความเข้าใจกับคำสอนนี้ให้ชัดเจน 1. ต้องแยกความแตกต่างระหว่างการเป็นสมาชิกของพระศาสนจักรอย่างแจ้งชัดโดยการรับศีลล้างบาป (นักเทววิทยาเรียกว่าเป็นหนึ่งเดียวกับ "ร่างกายของพระศาสนจักร") ออกจากการเป็นสมาชิกโดยนัย หรือโดยความปรารถนา (นักเทววิทยาเรียกว่าเป็นหนึ่งเดียวกับ "วิญญาณของพระศาสนจักร") 2. พระศาสนจักรคาทอลิกย้ำอยู่เสมอว่า หนทางสู่ความชอบธรรมคือการประกอบกิจการแห่งความรัก และการเป็นทุกข์ถึงบาป 3. หากผู้ที่ประกอบกิจการแห่งความรักและเป็นทุกข์ถึงบาป "ตาย" โดยไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายของพระศาสนจักร เขาย่อมได้รับความรอด เหตุว่าเพื่อจะทำเช่นนั้นได้ อย่างน้อยเขาต้องมีความปรารถนาที่จะปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระเจ้า ซึ่งรวมถึงคำสั่งให้เป็นหนึ่งเดียวกับพระศาสนจักรด้วย จึงต้องนับเขาเป็นสมาชิกของพระศาสนจักรโดยความปรารถนา นอกจากนี้ มีคนจำนวนมากอยู่นอกพระศาสนจักรโดยไม่ใช่ความผิดของเขา เช่น เขาไม่อาจเข้าถึงบริการของพระศาสนจักรได้ หรือเพราะความไม่รู้ของเขา เป็นต้น ถึงตรงนี้เราอาจสรุปง่าย ๆ ว่า แม้คนต่างศาสนาจะไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวกับ "ร่างกาย" ของพระศาสนจักร แต่พวกเขาสามารถรอดได้เพราะเป็นหนึ่งเดียวกับ "วิญญาณ" ของพระศาสนจักร 4. แต่ความรอดที่พระเจ้าประทานแก่ผู้อยู่นอกพระศาสนจักรต้องไม่ทำให้เรามองข้ามความสำคัญของพระศาสนจักร เหตุว่าในพระศาสนจักรเท่านั้นที่มีศีลศักดิ์สิทธิ์ มีพระหรรษทาน มีเครื่องมือสู่ความศักดิ์สิทธิ์ และมีผลประโยชน์มากมายจากการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนชีพของพระเยซูคริสตเจ้า จนกล่าวได้ว่า "นอกพระศาสนจักรไม่มีความรอด" บางคนอาจมองว่าคำสอนนี้เข้มงวดและคับแคบ แต่เราต้องไม่ลืมว่าความเข้มงวดและความคับแคบนี้เกิดจาก "ความรัก" เป็นความรักเดียวกันกับที่ทำให้พระเยซูเจ้าตรัสว่า "ถ้าท่านไม่เชื่อว่าเราเป็น (ผู้ที่พระบิดาทรงส่งมา) ท่านจะตายเพราะบาปของท่าน" (ยน 8:24) เพราะฉะนั้น การมองข้ามความสำคัญของพระศาสนจักรด้วยการเมินเฉยต่อการประกาศข่าวดี จึงเป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลวงต่อหน้าที่ที่พระเยซูคริสตเจ้าทรงมอบหมายแก่เราทุกคน "สหพันธ์นักบุญ" คือสหภาพทางวิญญาณ (คล้ายสหภาพแรงงาน) ที่ผูกพัน - ผู้มีชีวิตบนโลกนี้ - วิญญาณในไฟชำระ - และนักบุญในสวรรค์ เข้าเป็นหนึ่งเดียวกันในพระกายทิพย์ โดยมีพระคริสตเจ้าเป็นศีรษะ เพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งเหนือธรรมชาติซึ่งกันและกัน เหตุที่เรียกว่าสหพันธ์นักบุญ เพราะว่า "นักบุญ" คือเป้าหมายของสมาชิกทุกคน และเป็นผลพวงจากการไถ่กู้ที่ทุกคนต่างแสวงหา ผู้ถูกสาปแช่งจึงไม่ใช่สมาชิกของสหพันธ์นักบุญ ส่วนผู้มีชีวิตทุกคน แม้ไม่ได้เป็นสมาชิกของพระศาสนจักรอย่างแจ้งชัด ก็เป็นสมาชิกของสหพันธ์นักบุญ เพราะพวกเขามีส่วนในการไถ่กู้ของพระคริสตเจ้าและวิญญาณของพระศาสนจักร เทวดา แม้ไม่ได้รับผลการไถ่กู้ของพระคริสตเจ้า แต่ก็เป็นสมาชิกของสหพันธ์นักบุญด้วย เพราะว่าพวกท่านล้วนอยู่ภายใต้อำนาจของพระองค์ กิจกรรมในสหพันธ์นักบุญ คือ - ผู้มีชีวิตบนโลกแลกเปลี่ยนบุญกุศลและความศักดิ์สิทธิ์ซึ่งกันและกัน - วิญญาณในไฟชำระได้รับประโยชน์จากคำภาวนาของผู้แทนที่ยังมีชีวิตอยู่ และจากคำอ้อนวอนของบรรดานักบุญ - นักบุญและเทวดาในสวรรค์ได้รับเกียรติ และให้สิ่งที่มนุษย์วอนขอ ติดตามอ่าน ตอนที่ 6 ...การยกบาป การคืนชีพของเนื้อหนัง และชีวิตนิรันดร... ในวันพุธหน้า (18 มี.ค. 52)
Powered by AkoComment 2.0! |
< ก่อนหน้า | ถัดไป > |
---|