บทความล่าสุด |
---|
อนึ่ง บทความ หรือข้อเขียนทั้งหมดที่นำลงเว็บไซต์ jpthai.org เป็นทัศนะเฉพาะของผู้เขียน
ทางเว็บไซต์ jpthai อนุญาตให้คัดลอกบทความ/ข้อมูล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้
Donation / สนับสนุนการดำเนินงาน
|
ข้าแต่พระบิดา (ตอนที่ 4) โดย บาทหลวงชัยยะ กิจสวัสดิ์ |
Wednesday, 14 January 2009 | ||||
กลับไปอ่าน ตอนที่ 1 "ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย
ตอนที่ 2 พระองค์สถิตในสวรรค์ พระนามพระองค์จงเป็นที่สักการะ ตอนที่ 3 พระอาณาจักรจงมาถึง พระประสงค์จงสำเร็จในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์..."
------------------------------------------
โปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายในวันนี้ (มธ 6:11) ต้นฉบับใช้คำ "ปัง" แทน "อาหาร" ซึ่งมีผู้ให้ความหมายไว้ต่าง ๆ กัน เช่น 1. หมายถึง "ปัง" ในอาหารค่ำครั้งสุดท้ายซึ่งเรารื้อฟื้นทุกครั้งเวลาถวายบูชามิสซา คำภาวนานี้จึงเป็นการวอนขอให้ได้รับ "ศีลมหาสนิท" ทุกวัน 2. หมายถึงอาหารฝ่ายวิญญาณซึ่งได้แก่ "พระวาจาของพระเจ้า" ดังที่ทรงตรัสว่า "มนุษย์มิได้ดำรงชีวิตด้วยอาหารเท่านั้น แต่ดำรงชีวิตด้วยพระวาจาทุกคำที่ออกจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า" (มธ 4:4) 3. หมายถึง "พระเยซูเจ้า" เอง เพราะพระองค์ตรัสว่า "เราเป็นปังแห่งชีวิต ผู้ที่มาหาเราจะไม่หิว และผู้ที่เชื่อในเราจะไม่กระหายอีกเลย" (ยน 6:34) 4. หมายถึง "งานเลี้ยงในอาณาจักรสวรรค์" หรือ messianic banquet คำภาวนานี้จึงเป็นการวอนขอพระเจ้าโปรดประทานที่นั่งในงานเลี้ยงบนสวรรค์ สาเหตุที่ผู้คนสมัยก่อนเน้นการอธิบายความหมายของคำ "ปัง" เป็นเพราะพวกเขาไม่เข้าใจความหมายของคำกรีก epiousios (เอปีอูซีออส) ซึ่งพบการใช้เพียงครั้งเดียว จนออริยิน (Origen) ซึ่งเป็นปิตาจารย์ของพระศาสนจักรเชื่อว่ามัทธิวประดิษฐ์คำนี้ขึ้นมาเอง จวบจนไม่นานมานี้เองที่เราพบคำ "เอปีอูซีออส" ปรากฏอยู่ในรายการสั่งซื้อสิ่งของที่จำเป็น "สำหรับวันนี้" ของหญิงผู้หนึ่ง ความหมายของคำภาวนาประการนี้จึงอธิบายได้ง่าย ๆ ว่า โปรดประทานทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิตวันนี้ ในเมื่อพระเยซูเจ้าทรงสอนให้เราวอนขอทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิตเช่นนี้ ความคิดที่ตามมาคือ 1. พระเจ้าทรงเอาพระทัยใส่ร่างกายของเราด้วย ความรอดจึงเป็นเรื่องของบุคคลทั้งครบ ไม่ใช่เรื่องของวิญญาณเพียงอย่างเดียว 2. ให้เราวอนขอเฉพาะสิ่งที่จำเป็นสำหรับวันนี้เท่านั้น อย่าวิตกกังวลถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง จงดูเรื่องมานนาในที่เปลี่ยวเป็นตัวอย่าง (อพย 16:1-21) 3. เราต้องวอนขอทุกสิ่งเพราะ "ทุกสิ่งเป็นของประทานจากพระเจ้า" บางคนอาจแย้งว่าพืชผลในไร่นาเป็นผลพวงจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง แต่อย่าลืมว่าลำพังตัวเราอาจเพาะปลูกพืชผลได้ แต่เป็นพระเจ้าที่ทรงทำให้มันเจริญเติบโต (1 คร 3:6) ปราศจากพระองค์เราไม่อาจทำอะไรได้เลย 4. เราต้องร่วมมือกับพระเจ้า เพราะหากเราวอนขออาหาร แล้วนั่งงอมืองอเท้ารอให้อาหารลอยลงมาจากสวรรค์ เราคงต้องอดตายแน่ เราจึงต้องจดจำหลักการสำคัญนี้ไว้เสมอคือ "ปราศจากพระเจ้าเราทำอะไรไม่ได้ฉันใด ปราศจากความพยายามและความร่วมมือของเรา พระองค์ก็ช่วยอะไรเราไม่ได้ฉันนั้น" หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ Prayer without deeds is dead. 5. เราต้อง "แบ่งปัน" ซึ่งกันและกัน เพราะพระองค์ทรงสอนให้เราภาวนาว่า "give us" ไม่ใช่ "give me" การแบ่งปันซึ่งกันและกันจึงเป็นการช่วยพระเจ้าแจกจ่ายสิ่งที่จำเป็นแก่ผู้วอนขอ คำภาวนาข้อนี้จึงไม่ใช่การวอนขอสิ่งที่ต้องการเพียงด้านเดียว แต่ยังเป็นการวอนขอให้เราสามารถแบ่งปันสิ่งที่มีแก่ผู้ขัดสนหรือด้อยโอกาสกว่าอีกด้วย ติดตามอ่าน ตอนที่ 5 ...โปรดประทานอภัยแก่ข้าพเจ้า เหมือนข้าพเจ้าให้อภัยแก่ผู้อื่น... ในวันพุธหน้า (21 ม.ค. 52)
Powered by AkoComment 2.0! |
< ก่อนหน้า | ถัดไป > |
---|