พี่น้องคริสตชนที่รักทุกท่าน เนื่องด้วยวันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2547 เป็น วันสิทธิมนุษยชนของพระศาสนจักรไทย ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อรณรงค์ปลุกจิตสำนึกบรรดาคริสตชนให้ตระหนักรู้ เข้าใจ และร่วมมือกันประกาศข่าวดีเกี่ยวกับศักดิ์ศรีและสิทธิความเป็นมนุษย์ ในปีนี้สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย โดยคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อความยุติธรรมและสันติ (ยส.) เห็นว่า “สิทธิการมีส่วนร่วมของประชาชน” เป็นสิทธิประการหนึ่ง ที่เราควรตระหนักและให้ความสำคัญ เนื่องจากสิทธิดังกล่าวเป็นเรื่องใหม่สำหรับสังคมไทย ที่รัฐมีหน้าที่ในการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดขึ้น ตามนัยของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 มาตรา 76 ที่ว่า “รัฐต้องส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดนโยบาย การตัดสินใจทางการเมือง รวมทั้งการตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐทุกระดับ” การมีส่วนร่วมของประชาชน หมายถึงกระบวนการที่ประชาชนมีบทบาทในการริเริ่มจัดทำนโยบาย การกำหนดนโยบายไปสู่การปฏิบัติ การติดตามตรวจสอบนโยบายและการประเมินผลนโยบาย ซึ่งสามารถกระทำได้หลายระดับและหลายรูปแบบ ประกอบด้วย การมีส่วนร่วมในการให้ข้อมูล อาทิ การร้องเรียน การชุมนุมสาธารณะ การแถลงข่าวต่อ สื่อมวลชน การอภิปราย การร่วมประชุม และสัมมนา ซึ่งหน่วยงานของรัฐเป็นเพียงผู้อำนวยการให้ข้อมูลอย่างมีระบบ เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถแสดงความคิดเห็นอย่างทั่วถึง การร่วมปรึกษาหารือ หรือการประชาพิจารณ์ เป็นกระบวนการรับฟังความคิดเห็นก่อน การอนุมัติ หรือการดำเนินโครงการสาธารณะที่อาจส่งผลกระทบกับวิถีชีวิต สุขภาพอนามัย คุณภาพสิ่งแวดล้อมของชุมชน โดยต้องมีกรรมการที่เป็นกลางและคณะกรรมการประมวลสรุปความคิดเห็นของกรรมการ เสนอให้หน่วยงานของรัฐเป็นผู้พิจารณาตัดสินใจ แต่หน่วยงานของรัฐต้องให้เหตุผลว่า ทำไมต้องตัดสินใจขัดแย้ง หรือไม่เห็นด้วย การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ โดยอาศัยรูปแบบของคณะกรรมการเจรจาต่อรองร่วมกับ คณะกรรมการที่หน่วยงานของรัฐจัดตั้งขึ้น เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาของประชาชน รวมถึงมีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มมีความคิดที่จะดำเนินโครงการ ร่วมวางแผน ร่วมรับทราบผลกระทบเพื่อหาทางป้องกันปัญหา ในฐานะที่เราเป็นมนุษย์ เราทุกคนคือลูกของพระเจ้า เราทุกคนเป็นพี่น้องกัน ฉะนั้นทุกคนย่อมมีศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะยากดีมีจน เป็นหญิงหรือชาย มีการศึกษาหรือไม่มี ไม่ว่าจะเป็นคนด้อยโอกาส คนพิการ หรือคนเร่ร่อน การเป็นลูกของพระผู้เป็นเจ้า หมายถึง เราทุกคนต้องร่วมมือกันปกป้องศักดิ์ศรีและสิทธิของพี่น้องทุกคนที่ถูกละเมิดหรือถูกเลือกปฏิบัติ
พระศาสนจักรเรียกร้องให้คริสตชนมีสิทธิในการมีส่วนร่วมในกระบวนการทางการเมือง เพื่อให้เสียงของพี่น้องผู้ถูกละเมิดสิทธิดังก้องในสังคม ให้สามารถเปล่งเสียงประกาศความทุกข์ยากของตนเองได้
คำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ถือว่าการมีส่วนร่วมทางการเมืองเป็นแนวทางที่สำคัญที่มนุษย์แสดงออกถึงการเคารพในศักดิ์ศรี สิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น พระศาสนจักรต้องมีส่วนร่วมทางการเมืองเพื่อผดุงสังคมให้ดำรงความยุติธรรม ซึ่งการมีส่วนร่วมในทางการเมืองนั้น สมาชิกของพระ ศาสนจักรสามารถเข้าไปเกี่ยวข้องตามบทบาทที่แต่ละคนเป็นอยู่ ในส่วนของพระสงฆ์ นักบวช ต้องมีหน้าที่ในการเสริมสร้างมโนธรรมสำนึกอันถูกต้องทางศีลธรรมของประชาชน ในส่วนฆราวาสต้องมีส่วนในการศึกษาและให้การศึกษาเรื่องการเมือง รวมทั้งการวิเคราะห์ทางสังคมและจริยธรรม มีส่วนเข้าไปแสดงความคิดเห็นต่อการกำหนดนโยบาย ติดตาม และตรวจสอบการปฏิบัตินโยบายต่างๆ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ทั้งนี้ พระเจ้าไม่ต้องการให้พระศาสนจักรเป็นสถาบันที่ไร้ความหมายต่อหน้าสังคม หรือถูกผลักให้ตกไปอยู่ชายขอบ แต่พระศาสนจักรต้องเป็นมโนธรรมทางสังคม ต้องยึดและมุ่งปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง ในคำสอนของพระเยซูเจ้า พระองค์มีพระประสงค์ให้พวกเราเป็นผู้พิทักษ์ความถูกต้อง ดังที่ทรงสัญญาไว้ว่า “ท่านจะต้องรู้จักความถูกต้อง เพื่อว่าความถูกต้องนี้จะช่วยให้ท่านเป็นอิสระ”
สังคมมนุษย์จะดำรงอยู่อย่างสันติสุขไม่ได้ ถ้าผู้รับผิดชอบบ้านเมืองไม่บริหารประเทศเพื่อความมั่นคงของพลเมือง และมุ่งมั่นทำงานเพื่อพิทักษ์ความดีของส่วนรวม (สันติสุขในแผ่นดิน ข้อ 46) ความดีของส่วนรวมในที่นี้หมายถึง การที่สิทธิของบุคคลได้รับความเคารพ ยอมรับและตระหนักถึง ได้รับการคุ้มครองและส่งเสริม และมีความเท่าเทียมกันกับผู้อื่น เพื่อว่าแต่ละคนสามารถปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยราบรื่น (สันติสุขในแผ่นดิน ข้อ 90)
การที่มนุษย์ทุกคนมีความตื่นตัวในการมีส่วนร่วม และเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจในการกำหนดเป้าหมายของสังคม นับว่าเป็นความสำคัญอย่างยิ่ง ความรุนแรงและความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในอดีต มักมีสาเหตุมาจากการที่ประชาชนถูกกีดกันไม่ให้มีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตของชีวิตตนเอง และปัญหาดังกล่าวนี้คงจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต หากว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในการมีส่วนร่วมทางสังคมไม่ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุน (สาสน์วันสันติสากล 1985) ในวาระนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องคริสตชนร่วมใจกันภาวนาเพื่อระลึกถึงศักดิ์ศรีและสิทธิมนุษยชน และร่วมปฏิบัติภารกิจในการมีส่วนร่วมต่อกระบวนการทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมตามบทบาทหน้าที่ของแต่ละคน เพื่อแสดงจุดยืนของคริสตชนตามจิตตารมณ์แห่งสารวันสิทธิมนุษยชนฉบับนี้ ขอพระคริสตเจ้าทรงอวยพรแก่พี่น้องผู้มีน้ำใจดีทั้งหลาย
(มีคาแอลบุญเลื่อน หมั้นทรัพย์) พระสังฆราชสังฆมณฑลอุบลราชธานี มุขนายกคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อความยุติธรรมและสันติ
|