บทความล่าสุด |
---|
อนึ่ง บทความ หรือข้อเขียนทั้งหมดที่นำลงเว็บไซต์ jpthai.org เป็นทัศนะเฉพาะของผู้เขียน
ทางเว็บไซต์ jpthai อนุญาตให้คัดลอกบทความ/ข้อมูล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้
Donation / สนับสนุนการดำเนินงาน
|
พระวาจาเป็นข่าวดีและพลังชีวิต (ตอนที่ 3) โดย บาทหลวงชัยยะ กิจสวัสดิ์ |
Wednesday, 03 December 2008 | ||||
พระวาจาเป็นข่าวดีและพลังชีวิต (ตอนจบ)โดย บาทหลวงชัยยะ กิจสวัสดิ์ กลับไปอ่าน ตอนที่ 1 และ ตอนที่ 2 ก่อน
+++++++++++++++++++++++++++++++
3. พระวาจาเพื่อจะรู้จักความคิดและความปรารถนาของพระเจ้า จำเป็นต้องรู้จัก "พระเยซูเจ้า" เพราะพระองค์ตรัสว่า "ผู้ที่เห็นเรา ก็เห็นพระบิดาด้วย" (ยน 14:9) และอีกตอนหนึ่งคือ "เราเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต ไม่มีใครไปเฝ้าพระบิดาได้นอกจากผ่านทางเรา" (ยน 14:6) "พระคัมภีร์" คือแหล่งรวมเรื่องราวเกี่ยวกับ "พระเยซูเจ้า" ดังที่นักบุญยอห์นยืนยันว่า "ยังมีเรื่องราวอื่น ๆ อีกมากมายที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำ ซึ่งถ้าจะเขียนลงไว้ทีละเรื่องทั้งหมด ข้าพเจ้าคิดว่า โลกทั้งโลกคงไม่พอบรรจุหนังสือที่จะต้องเขียนนั้น" (ยน 21:24-25) ด้วยเหตุนี้ นักบุญเยโรมจึงกล่าวว่า "ไม่รู้จักพระคัมภีร์คือไม่รู้จักพระคริสตเจ้า" อนึ่ง นักบุญยอห์นได้พูดถึงวัตถุประสงค์ของพระคัมภีร์ไว้ว่า "เรื่องราวเหล่านี้ถูกบันทึกไว้ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เชื่อว่า พระเยซูเจ้าเป็นพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้า และเมื่อมีความเชื่อนี้แล้ว ท่านทั้งหลายก็จะมีชีวิตเดชะพระนามของพระองค์" (ยน 20:31) หากที่ผ่านมาเราอ่านพระคัมภีร์แล้วยังไม่บรรลุถึงวัตถุประสงค์ดังที่นักบุญยอห์นกล่าวไว้ นั่นอาจเป็นเพราะเราไม่รู้จักวิธีอ่านหนังสือพระคัมภีร์ก็เป็นได้ ปกติ วิธีอ่านหนังสือย่อมแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ของหนังสือแต่ละชนิด ดังเช่น
สำหรับหนังสือพระคัมภีร์ซึ่งเป็น "พระวาจาของพระเจ้า ที่ตรัสด้วยภาษามนุษย์ เพื่อให้เราเชื่อและมีชีวิต" วิธีอ่านจึงต้องแตกต่างจากหนังสือตำราเรียนหรือตำรากับข้าวอย่างแน่นอน ในฐานะที่พระคัมภีร์เป็น "พระวาจาของพระเจ้า" แปลว่าพระเจ้ากำลังตรัสกับเรา และเมื่อพระองค์ตรัสกับเรา เราต้อง...
ยิ่งปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้ามากเท่าใด เรายิ่งเห็นจริง ยิ่งเชื่อ ยิ่งวางใจ ยิ่งรัก และยิ่งปรารถนาจะปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระองค์มากขึ้นเท่านั้น ! จุดอ่อนของเราในการปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้าเห็นทีจะมีอย่างน้อย 2 ประการด้วยกัน กล่าวคือ 4.1 เราเน้นพระประสงค์เชิงลบคือ "อย่าทำบาป" จนลืมพระประสงค์เชิงรุกอย่างเช่น "ท่านอยากให้เขาทำกับท่านอย่างไร ก็จงทำกับเขาอย่างนั้นเถิด" (มธ 7:12)
4.2 แม้ยามปฏิบัติตามพระประสงค์เชิงรุกก็ยังกระทำผ่านทาง "นอมินี่" เช่น ใส่ถุงทานเพื่อจ้างนักสังคมพัฒนา จนดูเหมือนจะลืมไปว่าการปฏิบัติตามพระประสงค์ เช่น เลี้ยงอาหารผู้สูงอายุ ช่วยเหลือผู้ขัดสนในเขตวัด หรือแจกของเล่นเด็กกำพร้าด้วยตนเองนั้นมันมีคุณค่าทั้งต่อผู้ให้และผู้รับ และช่วยให้ได้สัมผัสกับพระเจ้าที่มองไม่เห็นได้มากสักเพียงใด ที่สุด ไม่ว่าเราจะสอน จะศึกษา หรือจะอ่านพระคัมภีร์ สิ่งที่ต้องระลึกอยู่เสมอคือเราไม่ได้กำลังสอนหรือศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ซึ่งจะต้องจดจำรายละเอียดในอดีตให้ได้ทั้งหมด แต่เรากำลังสอนและศึกษา "ข่าวดี" ของพระเยซูเจ้าเพื่อจะได้รู้จักพระองค์มากขึ้น รักพระองค์เพิ่มขึ้น และติดตามพระองค์ได้ใกล้ชิดขึ้น โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ "มีชีวิต" (ยน 20:31) "ชีวิต" ที่เหมือนพระเจ้าและเต็มเปี่ยมไปด้วย "พลัง" !
Powered by AkoComment 2.0! |
< ก่อนหน้า | ถัดไป > |
---|