หน้าหลัก arrow ข่าวย้อนหลัง arrow คอรัปชั่น ภัยร้ายที่ต้องรีบจัดการ : ปฏิพัทธ์ ไผ่ตระกูลพงศ์
หน้าหลัก
รู้จักยส
อยู่กับปวงประชา
ข่าวย้อนหลัง
เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน
ผู้ไถ่ : รายงานสถานการณ์
การศึกษาเพื่อสิทธิ&สันติภาพ
สื่อสิ่งพิมพ์ ยส.
มุมมองสิทธิฯ ในหนัง
กิจกรรม ยส.
คลังภาพ ยส.
เว็บบอร์ด ยส.
เว็บเพื่อนบ้าน
Facebook ยส.

ยส. (ยุติธรรมและสันติ)

จำนวนผู้เข้าชม
ขณะนี้มี 49 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

คลิก เขียนสมุดเยี่ยมคลิก เขียนสมุดเยี่ยม
ขอบคุณทุกท่าน
ที่แวะเข้ามาค่ะ

แนะนำสื่อ ฉบับล่าสุด


วารสารผู้ไถ่ ฉบับที่ 123: ชีวิต การต่อสู้ เพื่อความดีของกันและกัน กำลังใจ ความรัก และความหวัง
 วารสารผู้ไถ่
ฉบับที่ 123


วันสันติสากล 1 มกราคม 2024
 สารวันสันติสากล
1 มกราคม 2024
ปัญญาประดิษฐ์
และสันติภาพ


น้ำแห่งชีวิต (Aqua fons vitae)
 น้ำแห่งชีวิต
(Aqua fons vitae)
สมณกระทรวงเพื่อ
ส่งเสริมการพัฒนา
มนุษย์แบบองค์รวม


สมณลิขิตเตือนใจ...แอมะซอนที่รัก (QUERIDA AMAZONIA)
 แอมะซอนที่รัก
(QUERIDA AMAZONIA)
สมณลิขิตเตือนใจ...
ของสมเด็จ-
พระสันตะปาปาฟรังซิส


จงสรรเสริญพระเจ้า... การก้าวออกไปอย่างต่อเนื่องของเอเชีย
หนังสือแปล
จงสรรเสริญพระเจ้า...
การก้าวออกไป
อย่างต่อเนื่องของเอเชีย


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 2 และ3
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร
ภาคที่ 2 และ3
 


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 1
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร ภาคที่ 1



หนังสือ Jesus CEO :  พระเยซูเจ้า นักบริหารชั้นนำ
หนังสือแปล
Jesus CEO :
พระเยซูเจ้า
นักบริหารชั้นนำ



หนังสือ เส้นทางสู่สิทธิมนุษยชนศึกษา
หนังสือ เส้นทางสู่
สิทธิมนุษยชนศึกษา


พระสมณสาสน์ความรักในความจริง : Caritas in Veritate
หนังสือแปล
Caritas in Veritate :

พระสมณสาสน์
ความรักในความจริง



โปสเตอร์ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ พ.ศ.2532
โปสเตอร์
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
แห่งสหประชาชาติ
พ.ศ.2532


เว็บเพื่อนบ้าน

แวดวงต่างประเทศ

Pax Christi International - PCI

ACPP - Hotline Asia


ดูเว็บอื่นๆ ในหมวด

เว็บน่าสนใจ

เว็บด้านสิทธิฯ

ข่าวสาร/บันเทิง

หน่วยงานองค์กรคาทอลิก

บทความล่าสุด

   อนึ่ง บทความ หรือข้อเขียนทั้งหมดที่นำลงเว็บไซต์ jpthai.org เป็นทัศนะเฉพาะของผู้เขียน
และไม่ผูกพันกับคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อความยุติธรรมและสันติ

ทางเว็บไซต์ jpthai อนุญาตให้คัดลอกบทความ/ข้อมูล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้
แต่กรุณาระบุชื่อผู้เขียน และแหล่งที่มาด้วย ขอบคุณค่ะ

 

Donation / สนับสนุนการดำเนินงาน

  • โอนเข้าบัญชี ในนาม
    คณะกรรมการคาทอลิกฯ แผนกยุติธรรมและสันติ 
    ธนาคารกสิกรไทย สาขาห้วยขวาง บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 084-2-07639-2
    (กรุณา
    ส่งสำเนาการโอนเงินทางอีเมล์ ccjpthai@gmail.com)
    (หรือ ส่งสำเนามาที่ LINE:
    https://lin.ee/LdMulwv)

  • ทางธนาณัติ สั่งจ่ายในนาม “ปริญดา วาปีกัง” ตู้ ปณ. สุทธิสาร (10321)
    114 (2492) ถ.ประชาสงเคราะห์ ซอย 24 ดินแดง กรุงเทพฯ 10400

คอรัปชั่น ภัยร้ายที่ต้องรีบจัดการ : ปฏิพัทธ์ ไผ่ตระกูลพงศ์ พิมพ์
Friday, 18 January 2008


คอรัปชั่น ภัยร้ายที่ต้องรีบจัดการ

 
โดย  ปฏิพัทธ์ ไผ่ตระกูลพงศ์
ฝ่ายสิทธิมนุษยชน
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อความยุติธรรมและสันติ (ยส.)
 

Imageใครที่รู้สึกปวดใจเวลาที่ได้รับรู้เรื่องราวว่ามีการคอรัปชั่นเกิดขึ้นไม่ว่าที่ใดๆ ในโลกก็ตาม โปรดยกมือขึ้น นั่นแสดงว่าคุณเป็นผู้หนึ่งที่ควรได้รับการสันนิษฐานว่าเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์สุจริตพอสมควร โดยส่วนตัวแล้วฉันรู้สึกโกรธ เกลียด และเบื่อหน่ายต่อเรื่องเหล่านี้มากเพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับปรากฏการณ์นี้ได้ นอกจากการสาปแช่งให้คนที่ทำมีอันเป็นไปตามความเชื่อแบบไทยๆ ที่มีอยู่
 

คอรัปชั่นคืออะไร ก็คงจะรู้กันอยู่แล้วว่า คือการเบียดบังเอาผลประโยชน์ที่ควรจะเป็นของส่วนรวมมาเป็นของตน การใช้อำนาจไปในทางมิชอบเพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์ส่วนตนหรือคนใกล้ชิด การทุจริตเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์โดยมิชอบ การฉ้อโกง พูดง่ายๆ ว่าฉ้อราษฎร์บังหลวง กินสินบาทคาดสินบน หรือโกงกินนั่นแหละ
       

ในฐานะคนหนึ่งที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชน ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้สนใจหรือให้ความสำคัญกับเรื่องราวของการคอรัปชั่นมาก เพราะมองว่ามันดูไกลจากเรื่องสิทธิมนุษยชนพอสมควร แต่เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมเรื่อง บทบาทขององค์กรพัฒนาเอกชนและสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ที่จัดโดยสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR
) ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ซึ่งหนึ่งในเรื่องที่มีการพูดคุยกันคือเรื่องการคอรัปชั่น ทำให้ได้มุมมองใหม่ว่าการคอรัปชั่นไม่ใช่เรื่องที่ห่างไกลแต่อย่างใด แต่เชื่อมโยงทั้งเรื่องสิทธิมนุษยชน การพัฒนาและประชาธิปไตย

คอรัปชั่นเป็นศัตรูของทุกระบบการเมือง คอรัปชั่นทำให้เกิดผลเลวร้ายในสังคมหลายประการ แต่ที่เป็นหลักใหญ่คือทำให้เกิดความอยุติธรรมในสังคม กล่าวคือแทนที่ทรัพยากรที่มีอยู่จะถูกใช้เพื่อประโยชน์แก่คนหมู่มาก แต่กลับถูกกอบโกยไปโดยคนกลุ่มหนึ่ง แทนที่จะได้ใช้เพื่อการพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตด้านการศึกษา สาธารณสุขของประชาชน กลับถูกเบียดบังไปเป็นที่ดิน คฤหาสน์ ทรัพย์สมบัติของคนเพียงไม่กี่คน เหล่านี้ล้วนเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนามนุษย์ในทุกๆ ด้าน ทำให้เกิดความไม่มั่นคง และความขัดแย้งในสังคม และจะนำไปสู่การที่ประชาชนไม่ได้รับสิทธิอันพึงจะมีพึงจะได้ในฐานะที่เป็นมนุษย์ นั่นคือการละเมิดสิทธิมนุษยชนนั่นเอง

ไม่ว่าจะเป็นในระบอบการปกครองแบบเผด็จการทหารหรือระบอบคอมมิวนิสต์ หากมีการคอรัปชั่นในหมู่คณะผู้ปกครองหรือชนชั้นนำแล้ว ยิ่งทำให้เกิดความเลวร้ายขึ้นไปอีก ประชาชนที่ไม่มีสิทธิเสรีภาพในการตรวจสอบใดๆ อยู่แล้ว ยิ่งถูกแย่งชิงทรัพยากรอย่างถูกปิดหูปิดตาเข้าไปใหญ่ ในประเทศที่มีการปกครองด้วยระบอบเผด็จการทหาร ก็พบการกอบโกยผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ เช่น กรณีที่ลูกสาวของผู้นำสูงสุดในรัฐบาลทหารพม่าจัดงานแต่งงานอย่างหรูหราและฟุ่มเฟือยเกินกว่าชาวบ้านตาดำๆ จะจินตนาการได้ ในขณะที่ประชาชนค่อนประเทศกลับต้องอดอยาก ทุกข์ทนกับความยากจน ต้องกระเสือกกระสนหนีภัยสงครามและความตายเข้ามาในบ้านเราอย่างน่าเวทนา หรือการที่ประเทศในทวีปแอฟริกาซึ่งมีทรัพยากรธรรมชาติอยู่มากมาย เช่น ประเทศซูดานซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ แต่รายได้ 80%
กลับถูกนำไปใช้เพื่อการทหาร แทนที่จะนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาความอดอยากหิวโหย และความยากจนของประชาชน ในระบอบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ ก็เลวร้ายพอกัน หากคณะผู้นำคอรัปชั่นเสียแล้ว จะมีทรัพยากรใดที่กระจายให้ประชาชนตามอุดมการณ์เศรษฐกิจแบบสังคมนิยมได้ จะเห็นได้ว่าในระยะหลังประเทศจีนและเวียดนามต่างเร่งกวาดล้างการคอรัปชั่นของบรรดาข้าราชการกันขนานใหญ่ ซึ่งคาดหมายได้ว่าจีนและเวียดนามจะมีความก้าวหน้าในเรื่องความโปร่งใสในการบริหารประเทศมากขึ้น

Imageการคอรัปชั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตย มีตั้งแต่การซื้อสิทธิขายเสียงในการเลือกตั้งให้ได้เข้าไปเป็นผู้แทนเพื่อที่จะกลับมากอบโกยผลประโยชน์กลับคืน นับเป็นการบ่อนทำลายการเมืองระบอบประชาธิปไตยยิ่งนัก การคอรัปชั่นในการประมูลงาน สัมปทาน หรือผลประโยชน์ทับซ้อนต่างๆ แทนที่เงินภาษีของประชาชนจะถูกใช้เพื่อสร้างมาตรฐานการดำรงชีวิตอย่างเท่าเทียมกันของประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม กลับต้องมาจ่ายส่วนต่างให้กับขบวนการโกงกินบ้านเมือง คงไม่ต้องยกตัวอย่างอื่นไกล เอาแบบใกล้ตัวเราที่สุดก็ประเทศไทยเรานี่แหละ  ที่การคอรัปชั่นมีให้เห็นทุกหย่อมหญ้า ตั้งแต่การเลือกหัวหน้าชั้นของนักเรียนในโรงเรียนประถม ก็เริ่มมีการแจกขนมเพื่อแลกกับคะแนนเสียงแล้ว ซึ่งเป็นการเพาะบ่มนิสัยการคอรัปชั่นตั้งแต่เด็ก เมื่อประมาณ 1-2 ปีที่ผ่านมา มีการสำรวจความคิดเห็นของเยาวชนว่าคิดอย่างไรกับการคอรัปชั่น ผลที่ปรากฏคือ เยาวชนส่วนใหญ่รับได้กับการคอรัปชั่นของนักการเมืองแต่ขอให้มีผลงานก็พอ (คงจะต้องมองย้อนถึงระบบการศึกษาของไทยว่าสอนอะไรให้กับเยาวชนบ้าง) นี่คือผลสะท้อนความคิดเห็นของเยาวชนที่จะเป็นอนาคตของชาติ ชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์คอรัปชั่นของเมืองไทยในอนาคตจะน่าเป็นห่วงเพียงใด ปรากฏการณ์นี้ยังแสดงนัยยะอีกประการคือ เยาวชนเหล่านี้เมื่อไม่ได้รังเกียจการคอรัปชั่นแล้ว พวกเขาเองอาจจะเป็นผู้คอรัปชั่นเสียเองเมื่อมีโอกาส

สาเหตุของการคอรัปชั่น ก็มีทั้งในแง่โอกาสและแรงจูงใจ แต่ลึกที่สุดของปรากฏการณ์นี้ก็คือ กิเลส ความโลภ ความต้องการที่ไม่สิ้นสุดของมนุษย์ และยาขนานหนึ่งที่จะแก้ได้ ซึ่งเป็นกระแสสังคมในขณะนี้อยู่ด้วยซ้ำก็คือปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หากคนเรารู้จักเพียงพอในสิ่งที่ตนควรได้แล้ว การคอรัปชั่นคงจะหมดไปจากโลกนี้อย่างแน่นอน ในขณะที่ประเทศไทยกระแสเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงออกจะดังน่าดู แต่ไม่เห็นนักการเมืองของไทยคนไหนที่เพียงพอสักคน

จุดเริ่มต้นที่จะแก้ไขปัญหานี้ นอกจากการปลูกฝังคุณธรรมความซื่อสัตย์ให้แก่เด็กตั้งแต่ในระดับครอบครัว (รวมทั้งคำขวัญวันเด็กยอดนิยมที่ว่า ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด อดทน) แล้ว ระบบการศึกษาจะต้องเน้นเรื่องคุณธรรมความซื่อสัตย์สุจริต จะต้องปลูกฝังกันในทุกระดับชั้นเรียน (ตั้งแต่อนุบาลยันปริญญาเอกเลยทีเดียว) ต้องมีกระบวนการให้การศึกษาที่แสดงให้เห็นถึงความร้ายกาจของการคอรัปชั่น ต้องพาไปดูผลของมัน ไม่ว่าจะเป็นความยากจน ความทุกข์ยาก การละเมิดสิทธิทั้งในระดับปัจเจกบุคคล และระดับชุมชน การทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เกิดจากการพัฒนาอันไม่เป็นธรรมที่เอื้อประโยชน์แต่เฉพาะนายทุน เหล่านี้ล้วนเป็นผลมาจากการคอรัปชั่นไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ซึ่งกระบวนการเหล่านี้น่าจะช่วยให้เยาวชนของชาติได้ตระหนักถึงภัยร้ายของการคอรัปชั่นได้บ้าง นอกจากนี้ยังควรสร้างกระแสค่านิยมในสังคม ที่ต้องรับไม่ได้กับการคอรัปชั่น นักการเมืองต้องทำงานเป็นและไม่โกงกินเท่านั้น

กล่าวโดยสรุป การคอรัปชั่นเป็นตัวบ่อนทำลายทั้งระบบการเมืองไม่ว่าจะปกครองในระบอบใด ทำลายระบบเศรษฐกิจ สร้างความไม่เท่าเทียมกันในสังคม เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา และเป็นสาเหตุหนึ่งของการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในที่ต่างๆ ของโลกรวมทั้งในประเทศไทย  

การเห็นความสำคัญของเรื่องการคอรัปชั่นว่าเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของมนุษย์ในทุกพื้นที่ในโลกใบนี้ มีผลให้องค์การสหประชาชาติดำเนินการเพื่อให้มีอนุสัญญาต่อต้านการคอรัปชั่นขึ้นมา เพื่อให้ทุกประเทศได้หันมาให้ความเอาใจใส่ต่อการแก้ปัญหานี้และเข้าร่วมเป็นภาคีในอนุสัญญาฯ ดังกล่าว ซึ่งหากประเทศใดเป็นภาคีอนุสัญญาฯ นี้แล้ว มีหน้าที่ที่ต้องดำเนินการให้มีกฎหมายภายในที่มีมาตรการต่อต้านการคอรัปชั่นอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม ต้องมีสถาบันที่มาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ ตัวอย่างเช่น ประเทศอินโดนีเซียแม้ว่ามีกฎหมายเพื่อจัดการกับปัญหาคอรัปชั่นแล้ว แต่การคอรัปชั่นก็ยังมีอยู่มาก เนื่องจากไม่มีสถาบันที่รับผิดชอบโดยเฉพาะ สำหรับประเทศไทยซึ่งมีหน่วยงานที่ทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้แก่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งคงจะไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว เพราะการคอรัปชั่นยังมีให้เห็นในทุกวงการ

ดังนั้นสิ่งที่ภาคประชาชนจะต้องช่วยกันในขณะนี้คือ ต้องร่วมกันเรียกร้องและผลักดันให้ประเทศไทยเป็นภาคีในอนุสัญญาต่อต้านการคอรัปชั่นฉบับนี้ เพื่อให้ประเทศไทยมีกฎหมาย มาตรการ และระบบที่จะจัดการกับปัญหานี้อย่างจริงจังให้เห็นเป็นรูปธรรม เพื่อความหวังต่ออนาคตของประเทศไทยจะได้พัฒนาไปในทิศทางที่มั่นคงมากขึ้น และเพื่อที่เราทุกคนจะได้ไม่ต้องได้ยินได้ฟังเรื่องราวการคอรัปชั่นให้ต้องรู้สึกปวดใจกันอีกต่อไป    

Image

สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมของอนุสัญญาต่อต้านการคอรัปชั่น (United Nations Convention Against Corruption) ได้ที่ http://www.unodc.org/unodc/en/treaties/CAC/index.html 

ความคิดเห็น

เขียนความคิดเห็น
ชื่อ:
หัวเรื่อง:
BBCode:Web AddressEmail AddressBold TextItalic TextUnderlined TextQuoteCodeOpen ListList ItemClose List
ความคิดเห็น:



รหัส:* Code

Powered by AkoComment 2.0!

< ก่อนหน้า   ถัดไป >