หน้าหลัก arrow ข่าวย้อนหลัง arrow "ใบพลู" โดย สายลมจอย
หน้าหลัก
รู้จักยส
อยู่กับปวงประชา
ข่าวย้อนหลัง
เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน
ผู้ไถ่ : รายงานสถานการณ์
การศึกษาเพื่อสิทธิ&สันติภาพ
สื่อสิ่งพิมพ์ ยส.
มุมมองสิทธิฯ ในหนัง
กิจกรรม ยส.
คลังภาพ ยส.
เว็บบอร์ด ยส.
เว็บเพื่อนบ้าน
Facebook ยส.

ยส. (ยุติธรรมและสันติ)

จำนวนผู้เข้าชม
ขณะนี้มี 186 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

คลิก เขียนสมุดเยี่ยมคลิก เขียนสมุดเยี่ยม
ขอบคุณทุกท่าน
ที่แวะเข้ามาค่ะ

แนะนำสื่อ ฉบับล่าสุด


วารสารผู้ไถ่ ฉบับที่ 123: ชีวิต การต่อสู้ เพื่อความดีของกันและกัน กำลังใจ ความรัก และความหวัง
 วารสารผู้ไถ่
ฉบับที่ 123


วันสันติสากล 1 มกราคม 2024
 สารวันสันติสากล
1 มกราคม 2024
ปัญญาประดิษฐ์
และสันติภาพ


น้ำแห่งชีวิต (Aqua fons vitae)
 น้ำแห่งชีวิต
(Aqua fons vitae)
สมณกระทรวงเพื่อ
ส่งเสริมการพัฒนา
มนุษย์แบบองค์รวม


สมณลิขิตเตือนใจ...แอมะซอนที่รัก (QUERIDA AMAZONIA)
 แอมะซอนที่รัก
(QUERIDA AMAZONIA)
สมณลิขิตเตือนใจ...
ของสมเด็จ-
พระสันตะปาปาฟรังซิส


จงสรรเสริญพระเจ้า... การก้าวออกไปอย่างต่อเนื่องของเอเชีย
หนังสือแปล
จงสรรเสริญพระเจ้า...
การก้าวออกไป
อย่างต่อเนื่องของเอเชีย


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 2 และ3
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร
ภาคที่ 2 และ3
 


ประมวลหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ภาคที่ 1
หนังสือแปล
Compendium...
ประมวลหลักคำสอน
ด้านสังคมของ
พระศาสนจักร ภาคที่ 1



หนังสือ Jesus CEO :  พระเยซูเจ้า นักบริหารชั้นนำ
หนังสือแปล
Jesus CEO :
พระเยซูเจ้า
นักบริหารชั้นนำ



หนังสือ เส้นทางสู่สิทธิมนุษยชนศึกษา
หนังสือ เส้นทางสู่
สิทธิมนุษยชนศึกษา


พระสมณสาสน์ความรักในความจริง : Caritas in Veritate
หนังสือแปล
Caritas in Veritate :

พระสมณสาสน์
ความรักในความจริง



โปสเตอร์ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ พ.ศ.2532
โปสเตอร์
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
แห่งสหประชาชาติ
พ.ศ.2532


เว็บเพื่อนบ้าน

แวดวงต่างประเทศ

Pax Christi International - PCI

ACPP - Hotline Asia


ดูเว็บอื่นๆ ในหมวด

เว็บน่าสนใจ

เว็บด้านสิทธิฯ

ข่าวสาร/บันเทิง

หน่วยงานองค์กรคาทอลิก

บทความล่าสุด

   อนึ่ง บทความ หรือข้อเขียนทั้งหมดที่นำลงเว็บไซต์ jpthai.org เป็นทัศนะเฉพาะของผู้เขียน
และไม่ผูกพันกับคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อความยุติธรรมและสันติ

ทางเว็บไซต์ jpthai อนุญาตให้คัดลอกบทความ/ข้อมูล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้
แต่กรุณาระบุชื่อผู้เขียน และแหล่งที่มาด้วย ขอบคุณค่ะ

 

Donation / สนับสนุนการดำเนินงาน

  • โอนเข้าบัญชี ในนาม
    คณะกรรมการคาทอลิกฯ แผนกยุติธรรมและสันติ 
    ธนาคารกสิกรไทย สาขาห้วยขวาง บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 084-2-07639-2
    (กรุณา
    ส่งสำเนาการโอนเงินทางอีเมล์ ccjpthai@gmail.com)
    (หรือ ส่งสำเนามาที่ LINE:
    https://lin.ee/LdMulwv)

  • ทางธนาณัติ สั่งจ่ายในนาม “ปริญดา วาปีกัง” ตู้ ปณ. สุทธิสาร (10321)
    114 (2492) ถ.ประชาสงเคราะห์ ซอย 24 ดินแดง กรุงเทพฯ 10400

"ใบพลู" โดย สายลมจอย พิมพ์
Thursday, 25 October 2007

"ใบพลู"
เขียนโดย สายลมจอย

“เมื่อรู้ว่าตัวเองท้อง ฉันรู้สึกเหมือนโลกจะถล่มทลายลงไปต่อหน้าและคิดว่าตัวเองต้องตายแน่ๆ แต่การที่ได้มาอยู่ที่บ้านดอกไม้ป่า ทำให้ฉันรู้ว่าชีวิตยังมีทางออก ที่นี่...ฉันได้รับกำลังใจ และรู้สึกว่าฉันสามารถทำอะไรเพื่อตัวเองได้”

Imageนี่เป็นคำบอกกล่าวจากปากเด็กสาววัย 17 สมาชิกของบ้านดอกไม้ป่าอีกคน เรื่องราวของเธอน่าสนใจเป็นอย่างมาก ปัญหาชีวิตของเธอถือว่าเป็นผลสืบเนื่องมาจากโครงสร้างทางวัฒนธรรมในชุมชนเลยทีเดียวก็ว่าได้ ส่วนปัจจัยอื่นๆ อาทิ ด้านสังคมและเศรษฐกิจนั้นก็ถือเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันที่ผลักดันชีวิตเธอให้มาพบกับความยุ่งยากในการดำเนินชีวิตที่ต้องเผชิญอยู่ในทุกวันนี้

ใบพลูเติบโตมาท่ามกลางครอบครัวและชุมชนในชนทบห่างไกลจากสภาพภายนอก เธอดูปรกติเหมือนคนทั่วไป มีพ่อแม่พี่ๆ ญาติๆ เพื่อนบ้านมากมาย แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ได้พบกับจุดหักเหในชีวิต ความรู้สึกที่ได้รับรู้ความจริงเกี่ยวกับจุดกำเนิดของตนเองกลับทำให้ชีวิตเธอแปรเปลี่ยนไม่อาจหวนคืน...
“ฉันรู้ว่าฉันไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของครอบครัวนี้เมื่อแม่ที่เลี้ยงฉันมากำลังจะจากฉันไปอีกคน แม่จริงๆ ฉันตายหลังจากที่คลอดฉันได้ 8 เดือน ส่วนพ่อไม่มีปัญญาจะเลี้ยงฉัน จึงยกฉันให้กับครอบครัวนี้ ซึ่งแม่ที่เลี้ยงฉันมาได้บอกว่าเธอเป็นน้องสาวของแม่จริงๆ ของฉัน แต่บางคนก็บอกฉันว่าฉันไม่ใช่ญาติพี่น้องกับครอบครัวนี้เลย ฉันไม่ใช่คนชนเผ่านี้ มันกลับทำให้ฉันยิ่งรู้สึกแปลกแยกมากขึ้นไปอีก ฉันไม่รู้ว่าสิ่งไหนจริงหรือแค่คำเล่าลือให้รำคาญใจ”

เท่าที่จำความได้ใบพลูรับรู้ว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงเธอมาดีต่อเธอมาก แต่ถึงกระนั้นสิ่งดีๆ ทั้งหลายที่ผ่านมาก็ไม่สามารถทำให้เธอนึกอดสูใจที่รู้ว่า “ฉันถูกทิ้ง ฉันเรียกร้องอยากได้พบเจอพ่อแม่ที่แท้จริง ทั้งที่มันเป็นไปไม่ได้ ฉันอยากเจอหน้าพ่อที่ทิ้งฉันไป ฉันโหยหาอ้อมกอดการดูแลจากแม่ที่ตายไปแล้ว ฉันรู้สึกว่าฉันกลับกลายเป็นคนแปลกหน้าของคนอื่นๆ” ความเจ็บปวด ความคิดร้ายๆ มันคอยทิ่มแทงใจอยู่ตลอดเวลา สับสนและโหยหาคำตอบที่ดูเหมือนจะพบแต่ความว่างเปล่า...

เมื่อเศรษฐกิจและสภาพสังคมสิ่งแวดล้อมปัจจุบันที่เธอเห็นมันยั่วยุและหลอกล่อให้เธออยากออกเดินทางไปค้นหาชะตากรรมของตนเอง เธอตัดสินใจออกจากบ้านไปทำงานในกรุงเทพฯ หลังจากฤดูทำไร่ตามคำชักชวนของเพื่อนรุ่นเดียวกันในหมู่บ้านที่เคยไป “แม่ไม่อยากให้ฉันไป แต่ฉันดื้อรั้นไม่เชื่อฟังฉันขอเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ กับเพื่อนๆ เพราะที่บ้านไม่มีเงินใช้ฉันโตเป็นสาวและอยากจะมีเงินใช้เหมือนคนอื่นๆ อยู่บ้านก็มีแต่ทำไร่ทำนาไปวันๆ"

ใบพลูใช้วุฒิป.6 เข้าไปทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งชานเมืองกรุงเทพฯ หลังจากทำงานไปได้สักพักเธอก็ได้พบกับแฟนที่นั่น เขาเป็นคนชนเผ่าเดียวกับเธอแต่อยู่ต่างถิ่นกัน “เรารู้จักกันเร็วมากเพียงแค่ 2 เดือนฉันก็ยินยอมที่รับรักเขาและมีอะไรกับเขาโดยที่ไม่ได้รู้วิธีที่จะป้องกันอะไรเลย เขาดีต่อฉันมาก เราพักอยู่ใกล้ๆ กันฉันเช่าห้องอยู่กับเพื่อน แต่ไม่นานสิ่งที่เขาปกปิดฉันก็ได้เปิดเผยขึ้นมา ฉันเห็นนามสกุลของเขาในบัตรประชาชนซึ่งเป็นนามสกุลเดียวกับฉัน ฉันตกใจและผิดหวังมากที่ปกปิดนามสกุลของเขา ทั้งที่ฉันก็เคยถามเขาก่อนหน้านี้แต่เขาไม่ยอมบอกความจริง รวมถึงเพื่อนฉันด้วยพวกเขารู้แต่ไม่มีใครบอกฉัน ชนเผ่าเราจะถือว่าถ้าหากนามสกุลเดียวกันจะห้ามแต่งงานกัน ถึงจะรักกันมากเพียงใดก็ตาม เพราะถือว่าเป็นพี่น้องกัน และถึงแม้จะอยู่คนละซีกโลกก็ตามที ฉันโกรธและตัดสินใจจะกลับไปอยู่ที่บ้าน เลิกคบกับเขา เขาตามมาขอโทษที่สถานีขนส่งหมอชิตและไม่ยอมให้ฉันจากไป แต่มันไม่ช่วยลบล้างการกระทำใดๆ ได้ ฉันจึงบอกไปว่าฉันจะกลับไปเยี่ยมแม่ที่บ้านเท่านั้นแล้วฉันจะกลับมาหาเขาอีก” ...

ฉันมาอยู่ที่บ้านไม่ถึงเดือนแม่ก็จากฉันไปอีกคนด้วยอุบัติเหตุ ฉันไร้ที่พึ่งทางใจโดยสิ้นเชิง ... ในช่วงไม่ถึง 3 เดือนที่อยู่ที่บ้านใบพลูและเขาติดต่อกันอยู่บ้าง ระหว่างนี้เองร่างกายเธอเริ่มเปลี่ยนแปลงเพื่อนๆ สังเกตุว่าอาการเธอเหมือนคนตั้งท้อง เธอจึงไปหาหมอเพื่อตรวจให้แน่ใจ และเธอก็รู้ว่าชีวิตจะไม่เหมือนเดิมอีก “ฉันตั้งครรภ์ 3 เดือน ฉันกลับมาบ้านใช้เวลารวบรวมความกล้าทั้งที่กลัวเหลือเกินที่จะต้องบอกให้คนทางบ้านรับรู้ในเรื่องนี้ หลังจากที่บอกให้พี่สาวรู้ถึงเรื่องราวทั้งหมดรวมถึงเรื่องที่พ่อของเด็กในท้องเป็นคนที่มีนามสกุลเดียวกัน เธอบอกให้ฉันโทร.ไปบอกเขา และเขาก็บอกแม่ให้รู้ แม่เขาบอกให้พาฉันไปเอาเด็กออกเสีย “ฉันกลัวมากถ้าเขาจะให้ทำอย่างนั้นจริงๆ แต่เขาก็ไม่กล้าเช่นกัน”

เมื่อเรื่องมันกลับเป็นอย่างนี้แล้วเธอไม่รู้ว่าจะจัดการอะไรได้อีก จึงขอให้พี่สาวและอาผู้หญิงช่วยจัดการติดต่อกับแม่ของเขาโดยตรง เมื่อผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายได้มาพบพูดคุยกัน แม่เขาบอกว่าจะให้จัดการอย่างไร? จะให้แต่งงานกันไหม? แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เธอกับเขานามสกุลเดียวกัน ทั้งเธอและเขาไม่มีสิทธิที่จะใช้ชีวิตร่วมกันได้
“สุดท้ายผู้ใหญ่ฝ่ายฉันไม่ยอมให้เราแต่งงานกัน ฉันได้เงินชดใช้ค่าเสียหายสองหมื่นบาทจากฝ่ายชาย ระหว่างนั้นเองเขามาพบฉันและเราได้คุยกัน เขาร้องไห้และเสียใจในสิ่งที่เขาทำต่อฉัน ฉันบอกให้เขากลับไปและไม่ต้องติดต่อกับฉันอีก เราไม่เกี่ยวข้องอะไรกันอีก ส่วนแม่เขาก็ไม่ค่อยเชื่อฉันเพราะมีคนในหมู่บ้านบางคนกล่าวหาว่า
ก่อนหน้าที่ฉันไปทำงานที่กรุงเทพฯ ใช่!ฉันมีแฟนอยู่ที่บ้านแต่เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยทำงานทำการ ฉันเลยเลิกและไปทำงานกรุงเทพฯ ฉันเครียดและเสียใจมากที่คนอื่นมาดูถูกฉันอย่างนี้ แน่นอนว่าฉันรู้ว่าใครเป็นพ่อของเด็ก ฉันไม่เคยมีอะไรกับแฟนคนแรกเลย ฉันไม่มีสิทธิได้เรียกร้องสิทธิความเสียหายให้กับตัวเองกับลูกแม้แต่น้อย มีแต่ผู้ใหญ่จัดการกันเองทั้งนั้น เงินที่ได้มาฉันและลูกก็ไม่มีสิทธิ”
ทุกอย่างจะเป็นปัญหาน้อยกว่านี้ถ้าหากเขาไม่ใช่คนนามสกุลเดียวกับเธอ

บทสรุปของชีวิตใบพลูในเวลานั้น ก็คือการจำยอมเป็นผู้หญิงที่ท้องไม่มีพ่อ เธอโดดเดี่ยวและทางครอบครัวก็อับอายในเรื่องที่เกิดขึ้น ถึงแม้ฝ่ายชายจะพาพ่อแม่มาจ่ายเงินชดใช้ความเสียหายแสดงความรับผิดชอบต่อเธอ แต่เรื่องราวต่างๆ ที่เธอถูกกล่าวหามันไม่ได้ช่วยให้เธออยู่ที่นี่ในสถานภาพเดิมของลูกสาวบ้านนี้ได้อย่างมีความสุขเหมือนเมื่อก่อน
หลังจากที่พายุลูกใหญ่สงบลงคงเหลือแต่ซากปรักหักพังปรากฏให้เห็นของชีวิตหญิงสาวกับลูกน้อยในครรภ์

“แม่จากไปและเรื่องวุ่นวายทั้งหลายได้ยุติลงได้ไม่กี่เดือน ฉันกลายเป็นขี้ปากของคนทั้งชุมชนช่วงเวลาที่ตั้งท้องและอาศัยในครอบครัวฉันรู้สึกว่าถูกกดดันให้เป็นเสมือนสิ่งที่เลวร้าย ฉันรับรู้ได้จากการที่ทุกคนพยายามที่หาทางจะผลักไสฉันไปอยู่ที่อื่น พ่อก็เปลี่ยนไปและฉันก็รู้สึกผิดต่อเขามาก ส่วนพี่ก็มีเมียและลูกของเขา พี่สาวก็แต่งงานไปอยู่บ้านแฟน ฉันมองดูตัวเองแล้วยิ่งทำให้รู้ว่าฉันเป็ส่วนเกิน ไม่มีใครต้องการฉันอีก...หมดสิ้นความรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าในสายตาของใครๆ”...

ในขณะอายุครรภ์เข้าเดือนที่ 6 เธอได้ติดต่อขอเข้ามาพักอยู่ที่บ้านดอกไม้ป่าโดยคำแนะนำจากญาติห่างๆและปลายปีที่ผ่านมาเธอได้ให้กำเนิดเด็กชายร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง จนมาถึงวันนี้เขาหน้าตาเหมือนเธออย่างกับว่าถอดพิมพ์มาเลยทีเดียว “เขาผิวขาวเหมือนพ่อของเขา ตัวโตกว่าเด็กวัยเดียวกันมาก ฉันเลี้ยงดูเขาอย่างดีเท่าที่จะทำได้ ถึงแม้บางครั้งจะโกรธและโมโหที่เขาร้องไห้บ่อยๆ เพราะฉันไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร แต่ฉันก็จะพยายามสื่อสารกับเขาให้ได้มากที่สุด และจะเลี้ยงเขาให้ดีจะเป็นแม่ที่ดีเท่าที่จะทำให้เขาได้” ...

“ฉันกังวลมากว่าจะนำพาชีวิตของตัวเองและเด็กน้อยคนนี้เดินต่อไปในอนาคตได้อย่างไรหนอ? มันเป็นคำถามที่วนเวียนเข้ามาในสมองบ่อยๆ เวลาที่คิดถึงแม่ที่จากไป ถึงพี่ชายจะติดต่อมาหาฉันบ้าง แต่ฉันก็ไม่ได้คิดว่าจะกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านอย่างสงบสุขได้อีก
เมื่อทุกอย่างเปลี่ยนไปฉันก็ต้องเริ่มต้นใหม่...


การมาอยู่ที่บ้านดอกไม้ป่าทำให้ฉันมองเห็นโลกได้กว้างมากขึ้น หลายคนที่มีความทุกข์และตกอยู่ในปัญหาชีวิตคล้ายๆ กันกับฉัน ที่นี่ฉันมีเพื่อน ถึงแม้ว่าบางเวลาจะมีการพูดจากระทบกระเทือนทำให้ต้องเจ็บช้ำน้ำใจบ้างแต่ฉันก็ได้เรียนรู้การที่จะอยู่ร่วมกับคนหมู่มาก ถึงอย่างไรเราก็เป็นเพื่อนกัน และที่นี่ก็มีเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือฉันอยู่
“ฉันรู้ว่า...ฉันมีความสุขมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน”


Image


  บ้านดอกไม้ป่า (Wildflower Home)

จากวันนั้นถึงวันนี้…

บ้านดอกไม้ป่าเริ่มดำเนินการในเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2548 ระหว่างนี้บ้านดอกไม้ป่ากำลังปรับปรุงพื้นที่ดินเนื้อที่ 7 ไร่ ในบริเวณใกล้เคียงกับศูนย์วิจัยและฝึกอบรมศาสนาและวัฒนธรรมชุมชน ซึ่งได้รับความเอื้อเฟื้อเรื่องอาคารที่พักสถานที่เป็นการชั่วคราวสำหรับการดำเนินงานจากบาทหลวงนิพจน์ เทียนวิหารและเจ้าหน้าที่ในศูนย์ฯ และกัลยาณมิตรรอบข้างเป็นอย่างดี บ้านดอกไม้ป่ากำลังระดุมทุนสำหรับการก่อสร้างอาคารที่พักในพื้นที่ใหม่

ในการระดมทุนทำงานได้ขอทุนสนับสนุนจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ และกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการขอจดทะเบียนมูลนิธิฯ โดยมีรายนามคณะกรรมการดังนี้

คุณสุภาพร ญาณสาร              ผู้อำนวยการโรงเรียนนานาชาติเชียงใหม่
บาทหลวงนิพจน์ เทียนวิหาร     ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและฝึกอบรมศาสนาและวัฒนธรรมชุมชน
คุณนัยนา วิจิตรพร                 ผู้ประสานงานคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อสตรีสังฆมณฑลเชียงใหม่
คุณประภา วงศ์จอมพร            คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อสตรีสังฆมณฑลเชียงใหม่
คุณนิตยา กฤษณานนท์          ผู้จัดการบ้านดอกไม้ป่า
คุณศรัญญา สุขโท                ผู้ประสานงานบ้านดอกไม้ป่า

ช่วงเวลาขวบปีกว่าๆ ที่ผ่านมาบ้านดอกไม้ป่าได้ทำงานกับกลุ่มผู้หญิงซึ่งตั้งครรภ์เมื่อไม่พร้อม*และแม่ที่เลี้ยงลูกเพียงลำพัง* ส่วนใหญ่ผู้หญิงที่เข้ามาพักในบ้านดอกไม้ป่าจะเป็นกลุ่มช่วงวัย 14-22 ปี ทั้งที่มาจากสังคมชนบทและสังคมเมือง ซึ่งการรับเข้าบริการจะผ่านกระบวนการพิจารณาตามขั้นตอนและคุณสมบัติที่กำหนดไว้ในเบื้องต้น
อาทิ กรณีถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถูกทำร้ายร่างกาย ไม่มีสามีหรือคนรักคอยดูแล ไม่เป็นผู้ติดยาเสพติด ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง และไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือการสนับสนุนจากใครหรือองค์กรใดๆ ส่วนเงื่อนไขระยะเวลาในการเข้าพักจะพิจารณาเป็นกรณีๆ ดูที่ปัญหาและความพร้อมของผู้หญิงแต่ละคน

แผนในอนาคตอันใกล้ สำหรับสถานที่จัดตั้งเป็นมูลนิธิฯ จะทำการสร้างที่พักอาศัยสำหรับรองรับผู้หญิงและเด็กรวมถึงเจ้าหน้าที่อาสาสมัครที่มาร่วมทำกิจกรรม สำหรับส่งเสริมการสร้างพลังจากภายใน ด้วยความคาดหวังที่จะเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้และช่วยเหลือผู้หญิงกลุ่มเป้าหมาย ให้ได้ฝึกทักษะการใช้ชีวิตที่เน้นในเรื่องการพึ่งตนเอง การสร้างกระบวนการเรียนรู้ และให้โอกาสสำหรับผู้หญิงแต่ละคนเพื่อใช้พัฒนาตนเองและลูก การพัฒนาจิตวิญญาณ การยอมรับ และเห็นคุณค่าของตนเองเป็นสำคัญ รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพภายนอกให้สามารถกลับเข้าไปใช้ชีวิตในสังคมไทยได้อีกครั้ง

คำขยายความ        
ผู้หญิงตั้งครรภ์เมื่อไม่พร้อม* : ผู้หญิงที่เริ่มตั้งครรภ์ 
แม่ที่เลี้ยงลูกเพียงลำพัง*      : ผู้หญิงมีลูกติดมาด้วย (ลูกอายุไม่เกิน 8 ขวบ)

บ้านดอกไม้ป่าจะรับทั้งแม่และลูกเข้าพักด้วยกัน จะช่วยเกื้อกูลหนุนเสริมให้เกิดความพร้อมทั้งทางกายและใจในการเลี้ยงลูกโดยลำพัง หากกรณีที่ไม่พร้อมจะดูแลลูกได้เองหลังจากคลอดแล้ว จะให้คำปรึกษาและช่วยติดต่อกับบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อความเป็นธรรมและประโยชน์สูงสุดต่อกลุ่มเป้าหมาย

บ้านดอกไม้ป่าคืออะไร…
บ้านดอกไม้ป่าเป็นชุมชนของแม่ที่เลี้ยงลูกน้อยตามลำพัง และหญิงสาวที่ตั้งครรภ์เมื่อไม่พร้อม  ซึ่งอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก และสิ้นหวังมาใช้ชีวิตร่วมกันด้วยความกลมกลืนกับธรรมชาติ เพื่อค้นหาคุณค่าของตนเอง และสร้างความแข็งแกร่ง และกำหนดชะตาชีวิตของตนเองได้ เพื่อให้พวกเธอสามารถดูแลลูกของตนเองด้วยความรักและเอาใจใส่

จุดประสงค์เบื้องต้นของบ้านดอกไม้ป่าคืออะไร
เมื่อการใช้ชีวิตที่บ้านดอกไม้ป่าสิ้นสุดลง ผู้หญิงในโครงการจะ:
o  กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา หรือมีงานทำ และมีชีวิตบนเส้นทางพึ่งพาตนเองได้อย่างพอเพียง 
o  กลับคืนสู่สังคมที่เกื้อกูลได้อย่างมั่นใจ
o  สามารถดูแลลูกในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความรักและมั่นคง

เราคาดหวังว่าสิ่งที่ผู้หญิงได้รับจากบ้านดอกไม้ป่าจะส่งผลดีกับชีวิตของเธอต่อไปในอนาคต

รูปแบบการดำเนินงาน
โครงการจะให้บริการด้านการศึกษา และให้คำปรึกษาแก่ผู้หญิง ที่เข้าพักในด้านต่างๆ อาทิ 
o  การช่วยให้รู้หนังสือ สอนภาษาไทย/อังกฤษ
o  สนับสนุนการศึกษาทั้งการเรียนในระบบและนอกระบบ
o  ให้ความรู้เรื่องดูแลลูก 
o  ดูแลสุขภาพและโภชนาการ
o  การจัดการการเงิน
o  การจัดการ- ปัญหาชีวิตของตนเอง และลูก
o  พัฒนาทักษะและส่งเสริมอาชีพ
o  ทำกิจกรรมสร้างพลังหรือให้กำลังใจกับตนเอง

หากท่านมีเวลาว่างสามารถที่จะสละแรงกายเข้าร่วมกิจกรรม เช่น ช่วยสอนหนังสือ, ดูแลเด็ก, ทำอาหาร, งานฝีมือ, ปลูกต้นไม้, ขุดดินปรับพื้นที่, ทำการเกษตร, งานก่อสร้างบ้านพัก บ้านไม้ไผ่, บ้านดิน เป็นต้น

รายละเอียดเรื่องการสร้างบ้านพัก
ขณะนี้สมาชิกบ้านดอกไม้ป่ามีทั้งหมด 33 คน
เจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร 7 คน
ผู้หญิง 13 คน
เด็กแรกเกิด-2 ขวบ 8 คน
เด็ก 3-8 ขวบ 5 คน

บ้านพักที่กำลังจะสร้างในพื้นที่ใหม่จะสร้างฐานโดยใช้เสาปูนและโครงบ้านเป็นไม้เนื้อแข็งหรือไม้ยูคา ผนังใช้ไม้ไผ่ หลังคาอาจจะมุงกระเบื้องเพื่อความคงทนในการใช้งาน
ห้องน้ำจะอยู่ในตัวบ้านเพื่อความสะดวกของแม่และเด็กๆ ทั้งนี้เพื่อความกลมกลืนกับธรรมชาติซึ่งถือเป็นสถาปัตยกรรมที่เหมาะกับท้องถิ่น เราสร้างบ้านหลังแรกเสร็จไปแล้ว และกำลังจะเริ่มดำเนินการต่อในเดือนกันยายนนี้ (รอดูตามสภาพอากาศในฤดูฝน) จำนวนบ้านที่จะสร้างตามแผนที่กำหนดไว้ ดังนี้
สำนักงาน 1 หลัง
อาคารเพื่อทำกิจกรรมการเรียน 2 หลัง
ห้องครัวห้องอาหาร 1 หลัง
บ้านพักผู้หญิงและเด็ก 10 หลัง, บ้านพักเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร 5 หลัง
(บ้านพักประมาณราคาหลังละ 70,000 /ดูค่าแรงและราคาวัสดุตามท้องตลาด)

หากท่านใดมีวัสดุอุปกรณ์ที่ไม่ใช้แล้วแต่ยังอยู่ในสภาพใช้งานได้ เรามีความยินดีที่จะนำมาปรับและใช้ต่อเพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า

ท่านใดสนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่
ศรัญญา สุขโท   โทร. / โทรสาร 053-386-568 มือถือ 08-9632-8847
บ้านดอกไม้ป่า  106 หมู่ 9 ต.สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ 50220
www.wildflowerhome.net  Email:
หรือจะติดต่อโดยตรงที่

การเดินทางโดยรถประจำทาง
นั่งรถสองแถวสายสันกำแพงคันสีขาว ขึ้นต้นสายที่ตลาดวโรรส (กาดหลวง)
มาลงที่ปากซอยบ้านต้นเปา   ค่ารถ 13 บาท
*หากท่านใช้บริการรถไฟรถจะผ่านถนนฝั่งตรงข้ามหน้าสถานีรถไฟ
ท่านสามารถต่อรถจากที่นั่นไม่ต้องย้อนไปตลาดวโรรส


อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง ตถาตา…เป็นเช่นนั้นเอง โดย สายลมจอย

ความคิดเห็น

เขียนความคิดเห็น
ชื่อ:
หัวเรื่อง:
BBCode:Web AddressEmail AddressBold TextItalic TextUnderlined TextQuoteCodeOpen ListList ItemClose List
ความคิดเห็น:



รหัส:* Code

Powered by AkoComment 2.0!

< ก่อนหน้า   ถัดไป >