สายน้ำ....ที่ผ่านไป
โดยวนิดา ลอยชื่น แม้แสงแดดที่เคยอุ่นเปลี่ยนแปรไปเป็นแผดเผา แม้สายลมเย็นเปลี่ยนเป็นพายุ แม้ทะเลสวยเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราดกวาดสรรพสิ่ง แม้แม่น้ำที่ไหลเรื่อยเหมือนแม่ใหญ่ใจดีจะเปลี่ยนเป็นอุทกธารที่ล้นรี่ไหลเชี่ยว นั่นคงเป็นเรื่องที่ไม่เหนือความคาดหมายของผม เป็นสิ่งที่เคยเห็น เคยรู้เคยสัมผัส วันนี้เมื่อน้ำเหนือหลากมาถึงที่ราบลุ่มภาคกลางเป็นอุกทกภัยอันน่าเศร้าสลดหลายคนก่นว่าคนต้นน้ำไม่รักษาป่า ผมอยากจะชวนท่านผู้อ่านเดินทวนน้ำไปกับผมไปสู่ต้นน้ำเจ้าพระยา สายเลือดหลักของชาติ ทวนตามน้ำไปสู่สี่แคว สิบลำคลอง ร้อยลำธาร พันลำน้ำ หมื่นแสนหยดหยาดของน้ำซับ
สมัยก่อนบทอาขยานบังคับท่องเรื่อง สัตว์สวยป่างาม จาก มูลบทบรรพกิจของ พระยาศรีสุนทรโวหาร(น้อย) ท่อนตอนท้ายๆ บอกว่า ป่าสูงยูงยางช้างโขลง บอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าดง แต่นัยที่แฝงอยู่คำว่ายางในที่นี้คงไม่ได้หมายถึงต้นยาง เพราะยางเป็นไม้นำเข้ามาจากถิ่นอื่น ยางที่คู่กับช้างนั่นหมายถึง ชนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่สูงมาเก่าแก่นานเท่าอาณาจักรไทย ชนเผ่ายาง ที่คนพื้นราบเรียกเขาว่ากะเหรี่ยงในอดีตและปกาเกอะญอในปัจจุบัน เป็นเผ่าที่ครอบครองต้นน้ำลำธารเชี่ยวชาญการเลี้ยงช้างมาแต่ดึกดำบรรพ์ ต้นแม่น้ำเจ้าพระยามาจากน้ำซับสายน้อยที่ชนกลุ่มนี้อาศัยประทังชีวิต กินอาบ รดพืชผลพวกเขารักมันยิ่ง พยายามรักษาไว้สุดชีวิต เพราะเขาไม่มีน้ำประปา น้ำดื่มหลายยี่ห้อเหมือนคนเมือง สายน้ำจึงเป็นสายเลือดหล่อเลี้ยงทุกคนเรื่อยมา ถึงกับเป็นกฏของกลุ่มชนที่ต้องรักษาน้ำ-ป่าให้ยั่งยืน พวกเขาแบ่งสรรปันส่วนป่าอย่างลงตัวเพื่อป่าจะเลี้ยงเขาและลูกหลายได้นานเท่านาน อาทิตย์ จันทร์ ผันผ่าน เวลาก้าวย่างอย่างสม่ำเสมอซื่อตรงต่อหน้าที่ ความแปรเปลี่ยนได้เข้ามาอย่างช้าช้า วันนี้น้ำซับที่เอ่อล้นสม่ำเสมอกลับเหือดหาย น้ำกลายเป็นสิ่งที่ต้องสรรปันส่วน น้ำกลายเป็นทรัพยากรที่ต้องแย่งชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวิถีแห่งเมืองคืบเข้ามาถึง การทำสวนส้มขนาดใหญ่ ทำไร่ขนาดใหญ่เพื่อเข้าสู่กลไกทางเศรษฐกิจ การแข่งขันส่งออกเพื่อเป็นหนึ่งในเวทีการค้าโลก มีผู้ประสบความสำเร็จหลายรายแต่ผู้พ่ายและตกเป็นจำเลยคือชนเผ่าที่รักษาป่ารักษาต้นน้ำยิ่งชีวิต เมื่อลมฝนกระหน่ำโตรกธารน้ำซับที่เคยไหลเรื่อยกลายเป็นธารโคลนถาโถมสู่หมู่บ้าน กวาดทุกอย่างที่ขวางหน้า ทลายซอกเขาต้นไม้น้อยใหญ่พังลงอย่างยับเยิน ชาวบ้านที่อยู่เบื้องล่างหนีตายอลหม่าน แข่งกับคลื่นโคลนยักษ์ที่เร็วรี่ลงสู่หุบเขาเบื้องล่าง เกิดทางใหม่สายสีแดงฉานดังเพลิงนรกเป็นร่องรอยความสูญเสีย บ้านเรือน สัตว์เลี้ยง ไร่นาหายไปกับโคลนคลั่ง หลายหมู่บ้านตกอยู่ในความมืดที่เงียบงัน มีเพียงเสียงสะอื้นในอกเท่านั้นที่บอกว่ายังมีลมหายใจ ลำน้ำขุ่นข้นไหลอย่างอิสระลงไปเรื่อย เรื่อยไปสู่ลำห้วย ลำคลอง แม่ปิง แม่วัง แม่ยม แม่น่าน ความกราดเกรี้ยวยังไม่ลดละแม่ที่เคยนิ่งเย็นเป็นแม่มดใจร้าย ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า แม่ไหลไปไหนใครๆก็ปิดหน้าร่ำให้ แม่ล้นท้นหลากทลายกลืนสรรพสิ่งที่ขวางแม้ มนุษย์ตัวเล็กมากมายพยายามขวางเปลี่ยนทาง แต่แม่ยามนี้เป็นช้างสารตกมันแก่วงงวงฟาดงาห้อตะบึงสู่เมืองหลวงก่อนลงถาโถมสู่อ้อมอกอ่าวไทย สายน้ำตาคงเป็นธารน้ำที่เล็กที่สุดในโลก หากแต่เมื่อมันไหลรินกลับเกิดความรู้สึกรู้สามหาศาล เมื่อสายน้ำผ่านไปคำถามมากมายถูกตั้ง คนมากมายช่วยซับน้ำตาของเหล่าผู้ประสบภัย เกิดแรงผลักดันมหาศาลสู่งบประมาณเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย เจ้าของที่ดินรายใหญ่ เกษตรกรรายใหญ่ เจ้าของกิจการรายใหญ่ รัฐทดแทนความเสียหายเต็มกำลัง เสียงสะอื้นเบาๆดังในหุบเขา คงไม่ได้ยินถึงเมืองหลวง เมืองใหญ่ สายธารน้ำใจไม่ไหลทวนเจ้าพระยามาสู่ที่นี่แน่นอน นอกจากการเป็นจำเลยของคนพื้นล่างว่าเป็นผู้ทำลายป่า เสียงสะอื้นในหุบเขามองหาธารน้ำมิตรอย่างวังเวง **********************************************
Powered by AkoComment 2.0! |