หลากหลายวิธี...ในการ
ปฏิบัติการ...สันติวิธี
ทุกวันนี้ สันติวิธีมิใช่เรื่องแปลกที่มิได้อยู่ในความสนใจของสาธารณชนโดยทั่วไปอีกแล้ว แต่การทำความเข้าใจความหมายของ “ปฏิบัติการสันติวิธี” ยังต้องขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแต่ละบุคคล ชุมชน หรือสังคมที่ประสบหรือเผชิญกับระดับแห่งความรุนแรงของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งแน่นอนที่สุดว่าความหมายของสันติวิธี มิใช่อยู่ตรงที่การไม่ปฏิบัติการใดๆ เลย หรือการนิ่งเฉย ซึ่งเป็นความเข้าใจอย่างพื้นฐานที่สุดของคำๆ นี้ (ซึ่งนัยยะกลับกันจะดูเหมือนว่าเป็นการสนับสนุนความรุนแรงโดยอ้อมเสียด้วยซ้ำไป)
ข้อสรุปของเหตุการณ์ความรุนแรง ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคมโลก จากอดีตที่ผ่านมา ได้เกิดตัวอย่างมากมายที่เป็นการพัฒนาความหมายของปฏิบัติการสันติวิธีออกไปอย่างกว้างขวางและน่าสนใจอย่างยิ่ง “ผู้ไถ่” ฉบับนี้ขอนำเสนอตัวอย่างปฏิบัติการสันติวิธีจากหนังสือ “อำนาจและยุทธวิธีไร้ความรุนแรง”๑ ของ ยีน ชาร์ป (Gene Sharp) นักทฤษฎีสันติวิธี ซึ่งได้แบ่งประเภทของปฏิบัติการสันติวิธีไว้ ๓ ประการใหญ่ๆ คือ
๑. การประท้วงโดยไร้ความรุนแรงและการโน้มน้าว
๒. การไม่ให้ความร่วมมือ
๓. การแทรกแซงโดยไร้ความรุนแรง
การประท้วงโดยไร้ความรุนแรงและการโน้มน้าว
เป็นวิธีการเชิงสัญลักษณ์ที่มีจุดมุ่งหมายชักจูงฝ่ายตรงข้ามหรือคนอื่น ให้เห็นด้วยกับฝ่ายตน หรือเพื่อแสดงให้เห็นถึงความไม่เห็นด้วยหรือไม่พอใจของกลุ่ม๒ ได้แก่
คำประกาศอย่างเป็นทางการ :
จดหมายคัดค้านหรือสนับสนุน ได้แก่ จดหมายส่วนตัวและจดหมายเปิดผนึก, แถลงการณ์ขององค์กร หรือสถาบันเพื่อแสดงสถานะต่อกรณีนั้นๆ
การสื่อสารกับคนในวงกว้างขึ้น :
แผ่นผ้า แผ่นป้ายและแผ่นประกาศ, หนังสือพิมพ์และวารสารทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย, การเขียนข้อความบนท้องฟ้าและพื้นดิน โดยเขียนคำหรือสัญลักษณ์บนท้องฟ้าโดยใช้เครื่องบิน
ตัวแทนกลุ่ม :
การตั้งคณะผู้แทนเพื่อเข้าแสดงเจตนารมณ์ เจรจา, การให้รางวัลล้อเลียน เช่น รางวัล “ผู้ก่อให้เกิดมลภาวะแห่งปี” การวิ่งเต้นในสภา (ล็อบบี้), การชุมนุมชี้ชวน
การปฏิบัติการเชิงสัญลักษณ์ :
- การติดธงและสีสัญลักษณ์ เช่น การไว้อาลัย
- การสวมใส่สัญลักษณ์ เช่น การสวมใส่เสื้อผ้าสีเข้ม การสวดภาวนาและการทำพิธีบูชา
- การใช้สัญลักษณ์ เช่น การประท้วงการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของโซเวียต คนในลอนดอนได้นำขวดนมนับร้อยไปวางหน้าสถานทูตโซเวียต โดยขวดแต่ละใบตีตราสีแดงไว้ว่า “อันตรายกัมมันตภาพรังสี”
- ไฟสัญลักษณ์ เช่น เทียน ตะเกียงแขวนไว้หน้าบ้านเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งเปลวเพลิงเสรีภาพที่ลุกสว่างอยู่ในหัวใจ
- เสียงสัญลักษณ์ ระหว่างช่วงที่ได้เกิดการแข็งข้อขึ้นในกองทัพฝรั่งเศส เมื่อ ปี ค.ศ.๑๙๑๗ ขณะทหารชั้นผู้น้อยในกรมกองกำลังเดินสู่สนามเพลาะ ทหารทุกคนต่างก็ร้องเลียนเสียงลูกแกะถูกเชือดกันดังลั่นไปทั่วกองโดยที่แม่ทัพทั้งหลายก็ยืนงง และไม่สามารถระงับอะไรได้
แรงกดดันต่อปัจเจกบุคคล
- การติดตามเจ้าหน้าที่ เพื่อจะเตือนเจ้าหน้าที่ถึงความไร้จริยธรรมของการกระทำของเขา
- การแสดงความเป็นมิตร ขณะเดียวกันก็จงใจนำเขา ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม
ละครและดนตรี
- การแสดงละครและดนตรี เป็นการล้อเลียนเหตุการณ์นั้นๆ การร้องเพลง เช่น การร้องเพลงขัดจังหวะปาฐกถาที่เราไม่ต้องการ
ขบวนแถว
- ขบวนแห่ทางศาสนา ได้แก่ การเดินขบวนโดยมีความหมายทางศาสนา
- การเดินจาริก เป็นการเดินโดยใช้เวลาหลายวันหรือหลายเดือน
- ขบวนพาหนะ การขับรถยนต์โดยเอาแผ่นป้ายติดกับรถยนต์เพื่อจะแสดงทัศนะของตน
การให้เกียรติผู้ตาย
- พิธีฝังศพประท้วง เช่น พิธีวีรชน ๑๔ ตุลา, การแสดงความเคารพ ณ ที่ฝังศพ หรือบริเวณฌาปนกิจ
การชุมนุมในที่สาธารณะ
- การชุมนุมประท้วงหรือสนับสนุน
- การชุมนุมประท้วงแบบพรางตา เช่น ในช่วงปี ค.ศ.๑๙๔๓ – ๑๙๔๘ รัฐบาลฝรั่งเศสไม่ยอมให้ชุมนุมแสดงทัศนะทางการเมือง ฝ่ายสาธารณรัฐนิยมและเสรีนิยมได้ร่วมกันประท้วงโดยจัดในรูปของการเลี้ยงสังสรรค์
การเพิกถอนและการสละสิทธิ์
- การตบเท้าออก
- การนิ่งเงียบ เป็นการนิ่งเงียบรวมกลุ่ม
- การสละเกียรติยศ เช่น การคืนเกียรติยศพิเศษที่ได้รับ
- การหันหลังให้ เช่น หลังจากการลุกฮือเมื่อ วันที่ ๑๖ – ๑๗ มิถุนายน ค.ศ.๑๙๕๓ ในเยอรมันตะวันตกหนึ่งวันให้หลังคนงานได้กลับเข้ามาทำงานตามปกติตามโรงงานต่างๆ แต่ก็ปฏิเสธที่จะทำงาน และต่างนั่งลงตามม้านั่งโดยหันหลังให้กับเจ้าหน้าที่ของพรรค
การไม่ให้ความร่วมมือ
การไม่ให้ความร่วมมือทางสังคม
- การอัปเปหิบุคคล : การคว่ำบาตรทางสังคม, การระงับกิจกรรมทางศาสนา
- การไม่ให้ความร่วมมือกับกิจกรรมประเพณีสถาบันทางสังคม : การคว่ำบาตรทางสังคม เช่น การไม่เข้าร่วมฉลองงานเลี้ยงสังสรรค์ งานรับรอง, การหยุดเรียนของนักศึกษาหรือไม่เข้าห้องสอบ, การถอนตัวจากสถาบันสังคม อาจเป็นการลาออกอย่างเป็นทางการ
- การถอนตัวจากระบบสังคม : การอยู่แต่ในบ้าน โดยประชาชนหรือผู้ร่วมปฏิบัติการ ไม่ยอมออกจากบ้าน, การผละของคนงาน ได้แก่ การผละงานโดยไม่บอกล่วงหน้า, การอพยพเพื่อประท้วง
การไม่ให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
- การปฏิบัติการโดยผู้บริโภค : การคว่ำบาตรของผู้บริโภค ทั้งระดับชาติและระดับนานาชาติ โดยปฏิเสธที่จะซื้อสินค้าหรือใช้บริการ, การไม่บริโภคสินค้าที่ถูกคว่ำบาตร, นโยบายประหยัด ไม่ยอมใช้สินค้าฟุ่มเฟือย
- ปฏิบัติการของคนงานและผู้ผลิต : การคว่ำบาตรของคนงานโดยการงดใช้วัตถุดิบหรือเครื่องมือ หรือทำงานให้กับสินค้าหรือเครื่องมือที่ตนไม่ต้องการร่วมมือ, การคว่ำบาตรของผู้ผลิต ได้แก่ การปฏิเสธของผู้ผลิตที่จะขายหรือจัดส่งผลิตภัณฑ์ของเขา
- ปฏิบัติการของคนกลาง : การคว่ำบาตรของผู้จัดจำหน่ายและผู้จัดส่ง
- ปฏิบัติการของเจ้าของและผู้จัดการ : การคว่ำบาตรของพ่อค้าในการปฏิเสธที่จะซื้อหรือขายสินค้าชนิดใดชนิดหนึ่ง, การปฏิเสธให้เช่าหรือขายทรัพย์สิน, การนัดหยุดงานทั่วไปของพ่อค้า ได้แก่ การปิดร้านหรือกิจการพร้อมๆ กัน
- ปฏิบัติการของผู้กุมทรัพยากรทางการเงิน : การถอนเงินจากธนาคาร, การปฏิเสธการจ่ายค่าธรรมเนียมเงินต้นชำระและภาษี, การให้รัฐขาดรายได้ เช่น การปฏิเสธที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ที่เสียภาษีพันธบัตรรัฐบาล
- ปฏิบัติการโดยรัฐบาล : การห้ามค้าขายภายในประเทศ เป็นการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลเริ่ม, การห้ามขายสินค้าระหว่างประเทศ ได้แก่ การที่รัฐบาลปฏิเสธที่จะขายผลิตภัณฑ์ชนิดใดชนิดหนึ่งแก่ประเทศใดประเทศหนึ่ง
- การนัดหยุดงานเชิงสัญลักษณ์ : การนัดหยุดงานประท้วง, การนัดหยุดงานโดยฉับพลัน เป็นการนัดหยุดงานเพื่อประท้วงซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ
- การนัดหยุดงานทางการเกษตร : การนัดหยุดงานของคนงานในไร่
- การนัดหยุดงานทางอุตสาหกรรม : การนัดหยุดงานในโรงงาน เป็นการนัดหยุดงานของคนงานทั้งหมดในโรงงานหนึ่ง, การนัดหยุดงานเพื่อแสดงความเห็นใจ เป็นการนัดหยุดงานของคนงานกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเพื่อสนับสนุนข้อเรียกร้องของคนงานกลุ่มอื่นๆ
- การนัดหยุดงานจำกัดเขต : การนัดหยุดงานแบบเฉื่อยชา คนงานเจตนาที่จะทำงานให้ช้าลงเพื่อให้ผลิตผลลดลงอย่างฮวบฮาบ, การแจ้งป่วยโดยคนงานไม่ทำงานและแจ้งว่าพวกตนป่วย (ทั้งที่ไม่ได้ป่วยจริง), การลาออก โดยบุคคลที่มีความสำคัญซึ่งเป็นผู้เกี่ยวของในกรณีพิพาท
- การผสมระหว่างการนัดหยุดงานกับการหยุดยั้งทางเศรษฐกิจ : การปิดร้าน, อัมพาตทางเศรษฐกิจ การหยุดยั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่หนึ่งๆ ในขั้นที่รุนแรงพอที่จะทำให้เศรษฐกิจเป็นอัมพาตได้
การไม่ให้ความร่วมมือทางการเมือง
- การปฏิเสธอำนาจหน้าที่
: การปฏิเสธการสนับสนุนอย่างเปิดเผย เช่น การจงใจไม่ให้การสนับสนุนเปิดเผยต่อระบบการปกครองและนโยบาย, ข้อเขียนและคำพูดที่ส่งเสริมการต่อต้าน ได้แก่ คำพูดหรือการตีพิมพ์
- การไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล
: การคว่ำบาตรองค์กรนิติบัญญัติ ได้แก่ การปฏิเสธโดยถาวรในการเข้าร่วมในสภานิติบัญญัติ
: การคว่ำบาตรการเลือกตั้ง ได้แก่ การชักชวนให้ประชาชนไม่ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งที่ไร้ความบริสุทธิ์ยุติธรรม
: การคว่ำบาตรกระทรวง ทบวง กรม ตัวแทน และองค์กรของรัฐ เป็นการปฏิเสธที่จะร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐทั้งหมด
: การลาออกจากสถาบันการศึกษาของรัฐบาล
: การคว่ำบาตรองค์กรที่รัฐสนับสนุน
: การปฏิเสธที่จะช่วยเหลือกองกำลังของรัฐ
- ทางเลือกของประชาชนที่จะดื้อแพ่ง
: การยอมตามอย่างไม่สมัครใจและเชื่องช้า คือ การถ่วงเวลาที่จะทำตามคำสั่งให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้, การดื้อแพ่งของประชาชน เป็นการจงใจละเมิดกฎหมายหรือระเบียบโดยไม่ใส่ใจ, การปฏิเสธที่จะสลายการชุมนุม หรือการประชุม, การดื้อแพ่งต่อกฎหมายที่ไม่ชอบธรรม
- ปฏิบัติการโดยบุคลากรของรัฐบาล
: การเลือกปฏิเสธความช่วยเหลือโดยกลไกของรัฐ, การไม่ให้ความร่วมมือในการบริการงานทั่วไป คือ การที่ข้าราชการพนักงานของรัฐบาลปฏิเสธที่จะร่วมมือกับผู้กุมอำนาจ, การไม่ให้ความร่วมมือทางศาล, การกบฎ ได้แก่ สมาชิกกองกำลังทหาร และตำรวจปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำสั่ง
- ปฏิบัติการภายในประเทศของรัฐบาล
: การหลีกเลี่ยง และการหน่วงเหนี่ยวในแง่กฎหมาย เป็นความพยายามที่จะเลี่ยงในการทำตามกฎหมาย / คำสั่งนโยบายซึ่งพวกเขาไม่พอใจ, การไม่ให้ความร่วมมือโดยกลไกของรัฐบาล
- ปฏิบัติการระหว่างประเทศของรัฐบาล
: การเปลี่ยนตัวทูตและผู้แทนอื่นๆ , การหน่วงเหนี่ยว และการยกเลิกกิจการทางทูต, การตัดความสัมพันธ์ทางการทูต, การถอนตัวจากองค์กรระหว่างประเทศ
การแทรกแซงโดยไร้ความรุนแรง
วิธีนี้เป็นการแทรกแซงเข้าไปในสถานการณ์ซึ่งสามารถให้ผลได้ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ บางทีก็ก่อให้เกิดแบบแผนพฤติกรรม นโยบาย ความสัมพันธ์ หรือสถาบันชนิดใหม่ที่มหาชนพอใจ เป็นวิธีการที่ท้าทายโดยตรง ฉับพลัน ชัดเจนและตรงเป้ามากกว่าวิธีการที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ ในกรณีที่ประสบผลสำเร็จ ชัยชนะที่ได้รับจากการนี้มักจะเกิดขึ้นรวดเร็วกว่า ๒ วิธีการแรก แต่ผลลัพธ์ไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วเสมอไป เพราะอาจนำมาซึ่งการปราบปรามอย่างรุนแรงและรวดเร็วกว่า ซึ่งก็ไม่ได้หมายถึงความพ่ายแพ้เสมอไป๓
- การแทรกแซงทางจิตวิทยา : การสัมผัสความยากลำบากด้วยตนเอง คือ การทำให้ร่างกายของบุคคลใดบุคคลหนึ่งอยู่ในสภาพที่ยากลำบาก, การอดอาหาร, การก่อกวนโดยไร้ความรุนแรง
- การแทรกแซงทางกายภาพ : การนั่งประท้วง, การยืนประท้วง, การนั่งรถประท้วง เช่น เพื่อให้ยกเลิกคำสั่งเกี่ยวกับการใช้บริการคมนาคมขนส่ง, การลุยฝ่าเข้าไป เป็นการฝ่าฝืนของบุคคลซึ่งถูกกฎหมายหรือประเพณี กีดกันมิให้เข้าไปในสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง, การสวดภาวนา, การจู่โจมโดยไร้ความรุนแรง ได้แก่ การเดินขบวนไปยังสถานที่ซึ่งถือว่ามีความหมายในเชิงสัญลักษณ์, การบุกรุกโดยไร้ความรุนแรง เป็นการจงใจเข้าไปในพื้นที่ซึ่งถูกห้ามนั้นอย่างเปิดเผยโดยไร้ความรุนแรง, การกีดขวางโดยไร้ความรุนแรง, การครอบครองพื้นที่โดยไร้ความรุนแรง
- การแทรกแซงทางสังคม : การสร้างแบบแผนทางสังคมขึ้นใหม่, การหน่วงเหนี่ยว คือ การที่ลูกค้าบริษัทห้างร้านติดต่อธุรกิจที่ถูกกฎหมาย แต่พยายามหน่วงเหนี่ยวให้เป็นไปอย่างล่าช้าที่สุด, ละครจรยุทธ การแสดงละครเหน็บแนมทางการเมืองหรือปฏิบัติการอื่นๆ ที่คล้ายกัน, การตั้งระบบการสื่อสารชนิดใหม่
- การแทรกแซงทางเศรษฐกิจ : การดื้อแพ่งต่อการปิดล้อม เป็นการดื้อแพ่งโดยไร้ความรุนแรงต่อการปิดล้อมของระบอบปกครองที่เป็นปฏิปักษ์โดยการนำอาหารให้แก่ประชาชนที่ถูกปิดล้อมนั้นด้วย, การยึดครองทรัพย์สิน, การเลือกสนับสนุน
- การแทรกแซงทางการเมือง : การสร้างภาระหนักแก่ระบบการบริหาร ได้แก่ การที่ประชาชนจงใจเรียกใช้บริการอย่างล้นหลาม, การเปิดเผยตัวสายลับ, การหาทางเข้าคุก โดยฝ่ายต่อต้าน (จำนวนมาก) เรียกร้องที่จะเข้าคุก ทำให้คุกแน่นไปด้วยนักโทษ
ทั้งหมดที่ผ่านมานี้ คงจะพอทำให้ทราบว่า ความหมายที่แท้จริงของ “สันติวิธี” คืออะไร เพื่อว่าเราจะได้เข้าใจอย่างถูกต้องและไม่สับสนกับคำกล่าวหาต่างๆ ของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่กล่าวผ่านสื่อมวลชนอยู่บ่อยๆ เช่นว่า “ชาวบ้านที่ชุมนุมกันอยู่นี้ เป็นพวกชอบก่อกวน สร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้นในสังคม” ทั้งๆ ที่ท่านเหล่านั้นไม่รู้เลยว่านี่แหละที่เรียกกันว่า “สันติวิธี”
(บทความนี้เคยลงในวารสาร “ผู้ไถ่” ฉบับที่ ๓๘ “สิทธิชุมชน” กันยายน – ธันวาคม ๒๕๓๘)
๑ ยีน ชาร์ป. อำนาจและยุทธวิธีไร้ความรุนแรง. แปลโดย ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ และคมสันต์ หุตะแพทย์ พิมพ์ครั้งแรก กรุงเทพ : มูลนิธิโกมลคีมทอง, ๒๕๒๙
๒ อ้างอิงจาก ท้าทายทางเลือก : ความรุนแรงและการไม่ใช้ความรุนแรง โดย ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ หน้า ๑๑๓ สำนักพิมพ์มูลนิธิโกมลคีมทอง ปี ๒๕๓๓
๓ อ้างอิงจาก ท้าทายทางเลือก : ความรุนแรงและการไม่ใช้ความรุนแรง โดย ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ หน้า ๑๑๗ – ๑๑๘ สำนักพิมพ์มูลนิธิโกมลคีมทอง ปี ๒๕๓๓
Powered by AkoComment 2.0! |