บทความล่าสุด |
---|
Whale Rider โดย ลีออง ๑๙๖๘ |
Thursday, 08 June 2006 | ||||
Whale Rider
ตอนที่ฉันเกิดไม่มีความยินดี พี่ชายฝาแฝดฉันตายและเอาแม่ไปด้วย ทุกคนรอคอยเด็กผู้ชายที่เกิดใหม่มาเป็นผู้นำ ฉันไม่ได้เป็นผู้นำอย่างที่ปู่คาดหวังไว้ เพราะการที่ฉันเกิดมา ได้ทำลายเชื้อสายของบรรพบุรุษเรา มันไม่ใช่ความผิดของใคร แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว จากคำพูดต่างๆ เหล่านี้ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าต้องออกมาจากปากของ ผู้หญิง ที่ไม่ค่อยเป็นที่ปรารถนาของผู้ที่รอคอยสักเท่าไหร่.....พวกเขาต้องการเด็กผู้ชาย นี่คือเรื่องราวของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องการจะเติมเต็มให้กับชะตาชีวิตของตัวเอง เธอเป็นทายาทคนสุดท้ายของตระกูลผู้นำชนเผ่าเมารี (Maori) ชนเผ่าเล็กๆ ที่มีความเชื่อว่า บรรพบุรุษของตนนั้นเดิมทีอาศัยอยู่ที่ฮาวายกิ (Wawaiki) เดินทางมาค้นพบและตั้งรกรากบนแผ่นดินที่ว่างเปล่าชายฝั่งตะวันออกของนิวซีแลนด์ โดยบุรุษหนุ่มนาม ไพเคีย (Paikea) บุรุษที่เดินทางมาบนหลังของปลาวาฬ WHALE RIDERไพเคียเป็นผู้นำคนแรกของเผ่าและส่งต่อตำแหน่งนี้ให้กับลูกชายคนแรกของเขา โดยที่ลูกชายของไพเคียก็ทำเช่นเดียวกันกับพ่อของเขา และก็เป็นเช่นนี้ยึดถือสืบต่อกันมารุ่นแล้วรุ่นเล่าหลายชั่วอายุคน WHALE RIDER จากตำนานปรัมปราของชนเผ่าเมารี ถูกนำมาขัดเกลา เล่าใหม่บนแผ่นฟิล์ม ผ่านการร้อยเรียงของ นิกิ คาโร ผู้กำกับสาวชาวนิวซีแลนด์ ซึ่งก็ดูลงตัวเสียเหลือเกินที่ได้ผู้กำกับที่เป็นหญิงมาถ่ายทอดเรื่องราวของหนังที่มีตัวนำเป็นเด็กผู้หญิง ผู้เกิดมาพร้อมๆ กับการจากไปของพี่ชายฝาแฝดและแม่ของเธอ โดยที่เธอไม่มีโอกาสจะได้รับรู้ถึงความอบอุ่นจากอ้อมกอดของผู้เป็นแม่เลย สิ่งเดียวที่ได้รับจากแม่ก็คือชื่อของเธอและมันก็เป็นเสียงสุดท้ายในชีวิต จากแม่ของเธอ ไพเคีย ไม่ เธอจะใช้ชื่อนี้ไม่ได้ แกจะต้องเริ่มต้นใหม่มีครอบครัวใหม่ โคโร ผู้นำเผ่าคนล่าสุดซึ่งเป็นปูของไพเคีย ซึ่งเพิ่งจะผิดหวังจากการตายของหลานชายที่เขาคาดหวังจะให้มารับตำแหน่งต่อจากเขา บอกกับ พอรอรางิ - พ่อของไพเคียอย่างนั้น แต่พอรอรางิยืนยันจะให้ลูกสาวของเขาใช้ชื่อไพเคียตามที่แม่ของเธอเรียกจนเกิดเป็นความขัดแย้งกัน และมันก็เป็นความขัดแย้งที่สร้างความรู้สึกย่ำแย่อย่างหนักให้กับผู้ที่สูญเสียเมียและลูกชายอย่างพอรอรางิ เขาจึงตัดสินใจทิ้งทุกอย่างเดินทางออกจากหมู่บ้านไปตั้งแต่วันแรกที่ไพเคียเกิดมา มาถึงตรงนี้ผู้อ่านหลายๆ ท่านคงจะคิดว่าหมดกันแล้วสำหรับความรักและความอบอุ่นซึ่งดูจะเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเด็กน้อยอย่างไพเคีย แต่เปล่าเลย12 ปี ผ่านไป ไพเคียเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความรักและความอบอุ่นจากทุกๆ คนในครอบครัวโดยเฉพาะจากปู่ของเธอ....ไม่ต้องแปลกใจครับก็อย่างที่รู้ๆ กันมาว่าเลือดย่อมข้นกว่าน้ำฉันใด ปู่ที่ไม่ค่อยจะยินดีกับการเกิดมาของเธอก็ต้องพ่ายแพ้ต่อความผูกพันของสายเลือดฉันนั้น โคโรถ่ายทอดทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นวิถีชีวิตของชนเผ่าเมารีที่มีอยู่ในตัวเขาให้กับหลานสาว และไพเคียก็ซึมซับทั้งหมดเข้าไปในสายเลือดชาวเผ่าเมารีของเธออย่างเต็มภาคภูมิ ยกเว้นเพียงสิ่งเดียวมันเป็นสิ่งเดียวจริงๆ ที่ปู่ของเธอไม่ยอมให้เธอได้แตะต้อง และก็เป็นสิ่งเดียวกันกับสิ่งที่ไพเคียมั่นใจว่ามันมีอยู่ในตัวเธอ นั่นก็คือ ความเป็นผู้นำชนเผ่า ไคโรนั้นเป็นผู้นำเผ่าที่ยึดถือและปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมประเพณีอย่างเคร่งครัด แน่นอนโคโรต้องการจะสืบทอดตำแหน่งของเขาให้กับเด็กผู้ชายที่เป็นลูกชายคนแรกของครอบครัวเท่านั้น สงครามทางความคิดระหว่างปู่กับหลานจึงเริ่มขึ้น มันเป็นสงครามระหว่างเพศและวัยที่แตกต่างกัน โดยที่ต่างฝ่ายต่างเป็นเสมือนตัวแทนของโลกคนละยุค เด็กในโลกยุคใหม่อย่างไพเคียต้องการให้ปู่ของเธอเปลี่ยนความคิดและยอมรับในความเป็นผู้นำที่อยู่ในความเป็นผู้หญิงของเธอ แต่แน่นอนไม่มีอะไรจะมาเปลี่ยนความคิดของโคโรได้ เคยยึดถือกันมาอย่างไรก็จะต้องเป็นไปอย่างนั้นเพราะถ้าเปลี่ยนแปลงบางสิ่งก็อาจจะทำให้ทุกสิ่งดับสิ้นไป โคโรนั้นเคยคาดหวังในตัวของพอรอรางิ ลูกชายคนแรกของเขาและพยายามอย่างหนักที่จะทำให้ลูกชายคนนี้เป็นในสิ่งที่เขาต้องการ แต่กลับไม่เป็นไปตามนั้นเพราะดูเหมือนว่าพอรอรางิจะไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น เขารู้ดีว่าสิ่งที่พ่อต้องการนั้นไม่ได้มีอยู่ในตัวเขาเลย และดูเหมือนว่ามันจะไปอยู่ในตัวของ ราวิรี่ - น้องชายของเขามากกว่าซึ่งโคโรเองก็รู้ดีและยอมรับว่าราวิลี่นั้นเพรียบพร้อมมากกว่า แต่ราวิรี่ก็ถูกพ่อของเขาละเลยและมองข้ามไป ด้วยเหตุผลที่ว่าราวิรี่ไม่ได้เป็นลูกชายคนแรก...เพียงแค่นั้นเอง! เห็นมั้ยครับว่านายโคโรของเรานั้นแกเคร่งครัดขนาดไหน เขาไม่ยอมที่จะลดราวาศอกให้กับสิ่งใดๆ ที่อาจจะผิดพลาดคลาดเคลื่อนเลย เมื่อยังหาผู้นำคนใหม่ไม่ได้ ความกดดันทั้งหมดจึงมาตกอยู่ที่โคโร มันเป็นความกดดันที่มาพร้อมๆ กับกระแสของโลกยุคใหม่ที่ตรงเข้าสั่นคลอนความเชื่อ ด้วยเทคโนโลยีและขนบธรรมเนียมประเพณีซึ่งอาจจะถูกกลืนหายไป แต่โคโรจะยอมให้เป็นไปเช่นนั้นไม่ได้ ชนเผ่าเมารียังต้องการผู้นำ ผู้ที่จะนำพาทุกๆ คนในเผ่าเพื่อดำรงความเป็นเมารีไว้ โคโรจึงตัดสินใจเปิดรับลูกชายคนแรกจากทุกครอบครัวภายในเผ่า เพื่อเข้ารับการฝึกฝนและทดสอบเพื่อเป็นผู้นำเผ่าคนต่อไป ไพเคียรู้ดีว่าปู่ของเธอจะต้องคว้าน้ำเหลว
มันถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องแสดงให้เห็นและยอมรับในชะตาชีวิตของเธอ ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่ไพเคียคิดไว้
เมื่อวันที่จะต้องทดสอบเด็กผู้ชายที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนักมาถึง มันเป็นการทดสอบขั้นตอนสุดท้ายที่โคโรจะต้องนำเด็กทั้งหมดนั่งเรือออกไปกลางทะเลลึกแล้วโยนฟันปลาวาฬซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผู้นำเผ่าที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่สมัยของไพเคีย
ผู้นำคนแรก ลงไปในทะเล เด็กที่นำมันขึ้นมาได้จะได้เป็นผู้นำ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยและแทบจะเป็นไปไม่ได้
โคโรกลับเข้าฝั่งด้วยความสิ้นหวัง นั่นอาจหมายถึงการสิ้นสุดของตระกูลผู้นำเผ่าเมารี
และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีใครได้ยินเสียงของโคโรอีกเลย
จนกระทั่ง คืนหนึ่งได้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความหวาดหวั่นให้กับชนเผ่าเมารีทุกผู้คน
เมื่อเหล่าปลาวาฬที่ชาวเมารีให้ความเคารพเสมือนเป็นบรรพบุรุษของพวกเขาได้พากันขึ้นมานอนเกยตื้นรอความตายเรียงรายกันอยู่บนชายหาด
โคโรนำชาวบ้านออกไปให้ความช่วยเหลือพวกมัน โคโรนั้นมั่นใจว่าถ้านำปลาวาฬตัวที่ใหญ่ที่สุดที่ทุกคนเชื่อว่าเป็นของไพเคีย
ผู้นำคนแรกลงกลับสู่ทะเลได้ ตัวอื่นๆ ก็จะต้องทำตาม แต่เขาทำไม่สำเร็จ ดูเหมือนว่ามันต้องการจะอยู่เพื่อรอคอยอะไรบางอย่าง
และคนเดียวที่รู้คำตอบนั้นดีก็คือไพเคีย ภาพบุรุษที่ขี่หลังปลาวาฬในตำนานกลับมาสู่โลกของความเป็นจริงอีกครั้ง หากแต่มีบางอย่างที่เปลี่ยนไป ผู้ที่อยู่บนหลังปลาวาฬไม่ใช่ไพเคียผู้นำคนแรกที่เป็นบุรุษแต่เป็นไพเคียที่เป็นหลานสาวของโคโร สงครามระหว่างปู่กับหลานได้ยุติลงแล้ว ไม่มีสิ่งใดสูญเสียหรือล้มหาย มีเพียงแค่บางสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป แต่สิ่งดีๆ ยังคงอยู่ เพียงแค่แปรเปลี่ยนไปในกระแสของโลกสากล เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ หลายท่านก็หลายความคิดอาจจะแตกต่างกันไป สำหรับตัวผู้เขียนเองนั้นรู้สึกว่า ถึงเวลาแล้วล่ะครับที่บรรดาเราเหล่าผู้ชาย ต้องยอมรับกันได้แล้วครับกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ลู่ทางและบทบาทของทุกชีวิตในสังคมก็ต้องเปลี่ยนตามไปด้วยโดยเฉพาะเรื่อง บทบาทของผู้หญิง ถึงแม้จะมีให้เห็นและเป็นที่ยอมรับกันมากขึ้นในสังคมบ้านเมืองเรา แต่ผู้เขียนคิดว่าน่าจะยังมีสุภาพสตรีอีกมากมายหลายท่านที่มากด้วยความรู้และความสามารถ แต่ยังขาดโอกาสที่จะก้าวพ้นจากบทบาทเดิมๆ ออกมา.... ให้โอกาสพวกเธอได้ออกมาเถอะครับ เพราะไม่ว่าพวกเธอจะเปลี่ยนบทบาทไปอย่างไร ความสวยงามในจิตใจของผู้ที่เป็นเพศแม่ที่เราชื่นชมยังคงอยู่ ให้โอกาสเธอได้ค้นพบตัวเอง ให้โอกาสพวกเธอได้ออกมาเคียงข้างกับเรา (จาก วารสารผู้ไถ่ ปีที่ ๒๖ ฉบับที่ ๖๙ ก.ย. - ธ.ค. ๒๕๔๘ หน้า ๒๖-๒๗)
Powered by AkoComment 2.0! |
< ก่อนหน้า | ถัดไป > |
---|