โดย นุช » พฤหัสฯ. 20 ธ.ค. 2007 10:33 am
จาก Forword Mail ค่ะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ่านแล้วกินใจมาก ลองอ่านและซึมซาบความรู้สึกอย่างช้า ๆ
เมื่อคุณต้อง การหย่าหรือเลิกกับคนที่คุณกำลังรัก....
ในวันแต่งงานของผม ผมจูงมือภรรยาของผมในอ้อมแขน รถแต่งงานจอดหน้าที่พักของเรา
เพื่อนเจ้าบ่าวบอกผมว่า ผมควรจะอุ้มเธอเข้าไปในบ้าน ดังนั้นผมจึงทำตาม
เธอเขินอายในอ้อมแขนผม ผมช่างเป็นเจ้าบ่าวที่มีความสุขที่สุดในโลก...
นี่เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วสิบปี... ในวันถัดๆ มา ทุกอย่างก็เหมือนเดิม เรามีลูกด้วยกัน...ผมทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะหาเงินมาจุนเจือครอบครัว... เมื่อเราเริ่มมีฐานะที่ดีขึ้น... ความห่างของเราก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน... ทุกๆเช้าเราออกจากบ้านไปด้วยกันแล้วก็ถึงบ้านเวลาเดียวกัน ลูกเราเรียนที่โรงเรียนใกล้บ้าน ดูเหมือนความรักของเราช่างน่าอิจฉายิ่งนัก...
แต่แล้วความสงบสุขก็เริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างมิได้คาดหมาย....
เจนเข้ามาในชีวิตของผม ..... ผมยืนอยู่ที่ระเบียงบ้าน... เจนเข้ามาสวมกอดผมจาก ด้านหลัง..
หัวใจผมเต้นแรงด้วยความรัก.... ที่นี่...เป็นอพาร์เมนท์ที่ผมซื้อให้เธอ...เธอบอกว่า คุณเป็นผู้ชายที่ผู้หญิงทุก คน ถวิลหา...
คำพูดของเธอทำให้ผมนึกถึงภรรยาผม... ตอนที่เราแต่งงานกันใหม่ ๆ ..เธอบอกว่า วันที่คุณประสบความสำเร็จ ผู้ชายอย่างคุณจะมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้ามาหา...
ผมเริ่มรู้สึกลังเล... ผมรู้ว่าผมกำลัง ทรยศภรรยาผม... แต่ผมก็ได้ทำลงไปแล้ว.... ผมปลีกตัวออกจากเจน "วันนี้คุณไปเลือกเฟอร์นิเจอร์เองแล้วกันน๊ะ ผมต้องเข้าออฟฟิศ" ... แน่นอน... เธอไม่ค่อยพอใจนัก เพราะผมสัญญากับเธอว่าเราจะไปด้วยกัน...
ในตอนนั้น...ความรู้สึกถึงการหย่าร้างเริ่มวิ่งเข้ามาในความคิดผม....ทั้งที่จริงๆ แล้ว ผมไม่เคยมีความคิดนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
แต่ผมก็พบว่าเป็นเรื่องยากที่จะบอกกับภรรยาของผม.... ไม่ว่าผมจะพูดกับเธอดีสักเพียงใด... เธอจะต้องเจ็บปวดใจอย่างแน่นอน... จริง ๆ แล้วเธอเป็นภรรยาที่ดีมาก.... ทุก ๆเย็นเธอจะวุ่นวายกับการทำอาหาร..ในขณะที่ผมนั่งอยู่หน้าทีวี ทานอาหารเสร็จเราก็นั่งดูทีวีด้วยกัน...
หรือ... ผมจะนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์.... มองเรือนร่างอันงดงามของเจน... ช่างเป็นอะไรที่น่าฝันถึงเสียจริง
วันนึงผมพูดทีเล่นทีจริงกับภรรยาของผมว่าเธอจะทำยังงัยถ้าเราหย่ากัน... เธอจ้องมองผม อย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน... และเธอก็ไม่ได้ตอบว่าอะไร..เธอมั่นใจว่าการหย่าเป็นเรื่องที่ ไกลตัวเธอมาก...ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่าหากเธอรู้ว่าเรื่องที่ผมกำลังพูดอยู่นั้นเป็นเรื่องจริง... เธอจะเป็นอย่างไร
วันนึงภรรยาผมมาที่ออฟฟิศ....สวนทางกับเจนที่เพิ่งจะออกไปพอดี... พนักงานทุกคนทำหน้าตาเลิกลัก... เหมือนกำลังพยายามซ่อนอะไรบางอย่างจากเธอ.... เธอเหมือนจะรับรู้มันได้.... แต่เธอก็ยิ้มน้อย ๆ กับพนักงานทุกคน....แต่ผมก็สังเกตุเห็นแววตาที่เจ็บปวดของเธอภายใต้รอยยิ้มนั้น
ในที่สุด...เจนก็บอกกับผมว่า...หย่ากับเธอน๊ะ..แล้วเราอยู่ด้วยกัน..ผมพยักหน้า..... ผมจะลังเลอีกต่อไปไม่ได้อีกแล้ว....
ผมตัดสินใจบอกภรรยาผมในอาหารค่ำ..
ผมมีอะไรจะบอกคุณ... เธอนั่งทานอาหารอย่างเงียบๆ...ผมสังเกตุเห็นแววตาอันเจ็บปวดของเธอ...มันทำให้ผมพูดในสิ่งที่ผมต้องการพูด ไม่ออก...
แต่ท้ายที่สุดผมก็พูดออกไป...ผมต้องการหย่า...เธอดูไม่ตกใจ
กับสิ่งที่ผมเพิ่งจะพูดออกไปเลย...ผมย้ำกับเธออีกครั้ง... เธอเขวี้ยงตะเกียบในมือทิ้ง...แล้วตะโกนใส่หน้าผมว่า..คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย...เราไม่ได้คุยกันอีกเลยคืน นั้น...
เธอร้องไห้อย่างหนัก... ผมรู้ว่าเธออยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตแต่งงานของเรา...แต่ผมเองไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้...เ ป็นเพราะใจผมได้ให้เจนไปหมดแล้วงั้นเหรอ...ผมคงไม่สามารถบอกเธออย่างนั้นได้..มันจะทำให้ผมรู้สึกผิดมากขึ ้นไปอีก...
ผมร่างสัญญาการหย่าร้างขึ้น...ระบุว่า..เธอเป็นเจ้าของบ้าน...ทุก ๆอย่างในบ้านทั้งรถ... หุ้นบริษัท 30% ผมยกให้เธอหมด.... เธอเหลือบมองกระดาษที่ผมร่างขึ้น...แล้วฉีกมันทิ้ง...
มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น...ผู้หญิงที่ผมอยู่ด้วยมาเป็นระยะเวลาสิบปีกลายเป็นคนแปลกหน้ากันภายในหน ึ่งวัน...ผมไม่สามารถคืนคำที่ผมพูดไปได้...เธอร้องไห้ด้วยความเสียใจอย่างที่สุด...สำหรับผมแล้ว...การร้อ งไห้ของเธอเหมือนเป็นการปลดปล่อยความสับสนของตัวผมเอง...หลังจากที่ผมกลุ้มใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ของผม ..ในที่สุด...มันก็เป็นรูปธรรมขึ้นมาจริงๆ เสียที
คืนนั้น...ผมกลับถึงบ้านค่อนข้างดึก...เห็นเธอเขียนอะไรบางอย่างบนโต๊ะ..ผมหลับไปอย่างรวดเร็วด้วยความเพล ีย...ผมตื่นขึ้นมาอีกทีแล้วพบว่า....
เธอเขียนเงื่อนไขการหย่าร้างว่าเธอไม่ต้องการสิ่งใดจากผม...แต่เธอต้องการให้ผมให้เวลาเธอหนึ่งเดือนเพื่อ ตั้งตัวสำหรับการหย่า...และในช่วงระยะเวลาหนึ่งเดือนนั้นทุกอย่างต้องดำเนินไปตามปกติ...ด้วยเหตุผลที่ว่า เธอต้องการให้ลูกจบการศึกษาซึ่งกำลังจะมาถึงเสียก่อน..เธอไม่อยากให้ลูกต้องเห็นความล้มเหลวในการแต่งงานข องพ่อแม่ก่อนเวลานั้นจะมาถึง...
เธอบอกว่า.....รัชต์..คุณจำได้มั๊ย...วันที่เราแต่งงานกัน...คุณ ประคองชั้นไว้ในอ้อมกอด ในวันที่เราเข้าเรือนหอ..ผมพยักหน้า..นั่นเป็นความทรงจำที่ดีที่สุดของชั้น...
ชั้นมีเรื่องขอร้อง...
ชั้นอยากให้คุณประคองชั้นไว้ในอ้อมกอดจากห้องนอนไปถึงด้านล่างทุกวันนับจากวันนี้ไปจนถึงวันที่เราต้องแยกจากกัน ผมยอมรับด้วยความเต็มใจ...ผมรู้ดีว่าเธอคิดถึงวันดีๆ เหล่านั้น...และเธอต้องการให้ชีวิตการแต่งงานเธอจบลงด้วยความทรงจำที่ดี
ผมบอกเจนถึงเงื่อนไขที่ภรรยาผมตั้งขึ้นในการหย่าร้าง...เธอหัวเราะถึงความไร้สาระของเงื่อนไข....
ภรรยาผมบอกกับผมว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม.... เธอจะต้องยอมรับผลของการหย่าร้างให้ได้...คำพูดของเธอทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่ง....
เราไม่ได้ถูกต้องตัวกันเลยนับแต่วันที่ผมขอเธอหย่า....ความจริงเหมือนจะเป็นคนแปลกหน้าต่อกันด้วยซ้ำไป...
พอถึงวันที่ผมประคองเธอลงจากห้องวันแรก...มันจึงทำให้ผมทำตัวไม่ถูก...ลูกชายเราตบมือแล้วพูดด้วยความดีใจ ว่า ว้าว... วันนี้พ่ออุ้มแม่ลงจากห้องด้วย....มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น......เธอบอกว่าอย่าบอกลูกเราถึงเรื่อง ของเรา....ผมพยักหน้า...ด้วยความรู้สึกผิดอย่างเต็มเปี่ยม...ผมขับรถ ไปส่งเธอที่ป้ายรถเมล์..แล้วเลยไปออฟฟิศ
วันถัดมา...ความรู้สึกขัดเขินเริ่มน้อยลงไป...เธอซบบนอกผม...เราใกล้ชิดกันมาก จนผมได้กลิ่นน้ำหอมของเธอ...ผมถึงได้ตระหนักว่า....เธอไม่ใช่เด็กสาว.อีกต่อไปแล้ว...เธอเริ่มมีริ้วรอยบน ใบหน้ามากขึ้น
ในวันที่สาม...เธอกระซิบบอกผมว่าสวนกำลังรื้ออยู่ให้เดินระวังด้วย...
ในวันที่สี่ี่....มันช่างเหมือนกับว่าเราเป็นคู่รักที่หวานชื่นมาก...ภาพของเจนเริ่มเลือนลางไป...
วันที่ห้าและหก. ..เธอคอยเตือนผมในเรื่อง เล็กๆน้อยๆ เช่นเธอวางเตารีดไว้ที่ไหน...ผมควรจะระวังอะไรบ้างตอนทำอาหาร...และอื่นๆ อีกมากมาย...ความสนิทสนมของเราเพิ่มมากขึ้นทุกที...ผมไม่ได้บอกเจนถึงเรื่องนี้เลย....
ผมรู้สึกว่าผมอุ้มเธอง่ายขึ้นทุกวันโดยไม่ได้สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเธอเลย...หรือบางทีคงเป็นเพรา ะผมแข็งแรงขึ้น...
แต่แล้วผมก็พบว่ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด...เป็นเพราะว่าเธอผอมลงจนไม่สามารถใส่เสื้อผ้าเดิมได้..นั่นต่าง หากที่ทำให้ผมอุ้มเธอได้ง่ายขึ้น
ผมรู้ดีว่าเธอพยายามซ่อนความขมขื่นเอาไว้...
ลูกของเราร้องขึ้นว่าพ่อได้เวลาอุ้มแม่แล้วน๊ะ....สำหรับลูกแล้ว...การได้เห็นพ่ออุ้มแม่เป็นภาพที่เขามีค วามสุขที่สุด....เธอเอื้อมมือไปกอดลูกไว้แน่น...ผมทนมองภาพนั้นไม่ได้จริง ๆ
ผมกลัวว่าผมจะเปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้าย
และแล้ววันสุดท้ายก็มาถึง....ผมอุ้มเธอไว้ในอ้อมกอด...เท้าผมแทบจะก้าวไม่ออก..
.....เธอบอกกับผมว่า...ความจริงแล้ว....ชั้นอยากให้คุณอุ้มชั้นไปจนเราแก่เฒ่า...ผมกอดเธอแน่น .....และผมก็ตระหนักว่า...ชีวิตคู่ของเราขาดการดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน...ผมขึ้นรถทันทีเพื่อจะไปยังจุดหมายใหม่..ผมลังเลเล็กน้อย...แต่ในที่สุดแล้ว..ผมก็มาพบเจนจนได้
....เธอเปิดประตูออก....ผมบอกเธอว่า เจน..ผมขอโทษ... ผมจะไม่หย่า....เธอมองหน้าผม แตะหน้าผากผม.. คุณสบายดีหรือเปล่า เจน...ผมขอโทษ...ผมขอโทษจริง ๆ... ผมจะไม่หย่ากับภรรยาผม...ชีวิตการแต่งงานของเราน่าเบื่อมันเป็นเพราะผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล ็กๆ น้อยๆ...ผมขาดการเอาใจใส่ในตัวเธอ....มันไม่ได้ หมายความว่าเราไม่ได้รักกัน....ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว....ว่าตั้งแต่วันที่ผมอุ้มเธอเข้าบ้าน...เธอมีลูกให้ผ ม...ผมควรจะประคองเธอไปจนแก่...
เจนตบหน้าผมอย่างแรงและกระแทกประตูใส่ผม....ระหว่างทางกลับบ้านผมแวะร้านดอกไม้
......
พนักงานขายดอกไม้ถามว่าจะเขียนว่าอะไร....ผมให้เธอเขียนว่า..."ผมจะอุ้มคุณทุกเช้าจนกว่าเราจะแก่" :lov: