หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ไม่ซื้อ...ไม่ ตาย(อยากให้ทุกคนได้อ่าน)

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 25 ก.พ. 2010 12:22 pm
โดย Admin_NuCh
ไม่ซื้อ...ไม่ ตาย(อยากให้ทุกคนได้อ่าน)

รูปภาพ


1,222,245,200,000คือ


ยอดขายโทรศัพท์มือถือในปี 2551


จากสถิติ ของ Worldwatch institute ระบุว่า

ระยะ เวลาเฉลี่ยในการใช้โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง

ใน ปัจจุบันมีอยู่ราว 14 เดือน ก่อนจะเปลี่ยนเครื่องใหม่

นับว่าน้อยกว่าอายุการใช้งานจริงที่ควรจะเป็น




ทั้งๆที่มือถือยุคใหม่ ไม่ได้ทำอะไรออกมาสนองความต้องการมากนัก

และระยะเวลาในการใช้งานอาจจะน้อยเกินไปกว่านั้น

ในกลุ่มผู้ใช้มือถือที่เห็นเป็นเพียงอุปกรณ์ เสริมความมั่นใจ
เปลี่ยน เครื่องใหม่ทุกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในเทรนด์


และได้ของที่ฉลาดสุดๆอยู่ในมือ

รูปภาพ

แต่รู้หรือไม่ว่า เบื้องหลังความพอใจที่ได้อินเทรนด์นี้



ยอดขายหลาย ล้านๆเครื่องในแต่ละปี หมายถึง น้ำตา ฝันร้าย


และความตายของชาวคองโกนับล้านชีวิต


นี่ยังไม่นับรวมการฆาตกรรมหมู่ในป่าลึก,



ความตายของกอริลล่ายักษ์ที่อาจเหลือฝูง สุดท้ายในรวันดา



รูปภาพ

รูปภาพ



ตัวเชื่อมที่ทำให้มือถือโยงไปถึงสงครามร้ายแรงที่สุด



ในประวัติ ศาสตร์แอฟริกาคือ โคลัมไบต์-แทนทาไลต์



หรือแร่โคลแทนที่พบมากใน แอฟริกากลาง,แน่นอน...ในคองโก

รูปภาพ


ด้วยคุณสมบัติทนความร้อนสูง ทำให้ผงแทนทาลัม

ที่สกัดได้จากโคลแทน กลายเป็นวัตถุดิบจำเป็นที่อยู่ในมือถือ

คอมพิวเตอร์,เพลย์สเตชั่นฯลฯ


โคลแทน กลายเป็น black gold ในขณะเดียวกัน

สงครามคองโกครั้งที่ 2 ทำให้แร่สีดำชนิดนี้


กลายเป็นแร่สีเลือด blood coltan



รูปภาพ


เพราะการลักลอบทำ เหมืองและส่งออกโคลแทน

กลายเป็นแหล่งหารายได้ที่เติมเชื้อไฟให้ กับAfrican World War



ในจำนวนประเทศ ทั้ง8 ที่ติดหล่มสงคราม

และกองกำลังติดอาวุธกว่า20กลุ่ม

หลายกลุ่มหาผลประโยชน์จากพื้นที่คองโก

ที่ประเมินว่ามีแร่โคล แทนมากถึง 80% ของปริมาณโคลแทนในโลก


รูปภาพ


การดิจิไทซ์โลก ถนนทุกสายจึงมุ่งไปที่พื้นดินของคองโก

กองกำลังประชาธิปไตย กลุ่มปลดปล่อยรวันดาหรือ FDLR

ที่มีชาวฮูตูเป็นแกนนำ เป็นตัวอย่างที่เห็นชัด

ของการทำเหมืองแร่ในคองโกอย่างผิดกฏหมาย
แม้จะต้องเสี่ยงจากการถูกปราบ ปรามจากรัฐบาลคองโก
แต่FDLR และอีกหลายกลุ่ม

ก็เห็นว่ามันเป็นความ เสี่ยงที่คุ้มค่าอยู่ดี



เพราะแทนทาลัมเพียง 1 ปอนด์ ทำเงินร่วม หมื่นบาท

แทนทาลัม 1 ปอนด์ เป็นได้ทั้งตัวเก็บประจุในโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่

และแปลงเป็น AK-47 พร้อม กระสุนให้กับกองกำลังติดอาวุธ




หน่ำซ้ำในกระบวนการร่อนแร่หาโคลแทน

แรงงานที่ถูกบังคับให้ทำ เยี่ยงทาส ก็คือเด็กๆคองโกลีส

ซึ่งองค์การสหประชาชาติรายงานว่า ในบางพื้นที่ของคองโก
ในเด็ก 100 คนจะมี 30 คน ที่ต้องใช้เวลาทั้งวัน

ไปกับการ แยกโคลแทนออกจากเศษหินอื่นๆ




เงินค่าจ้างไม่ถึง 35 บาท ต่อการหาโคลแทนให้ได้ 1 ปอนด์



รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ


เรื่องมือถือเปื้อนเลือดถูกพูดถึงเมื่อหลายปีก่อน

บริษัทระดับโลกอย่าง Nokia,Ericsson,Moto,Acer ,Compaq

ออกมาปฎิเสธเสียงแข็งว่า โคลแทนที่ใช้ในการผลิตของตน

ไม่ได้มาจากคองโก แต่มีซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้หามาให้


ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วแทบ จะเป็นไปไม่ได้เลยที่บอกได้ว่า

แทนทาลัมในมือถือที่พกติดตัวจนกลายเป็น อวัยวะที่33

นั้นมาจากคองโกหรือเปล่า



การตรวจสอบ เส้นทางของแทนทาลัมนั้น

ต่อให้ใช้วิธีตามไปดูถึงที่แบบกบนอกกะลา

ก็ยังไม่สามารถบอกที่มา ได้
โคล แทนได้ถูกลักลอบเอาออกนอกคองโก
เข้าสู่ตลาดมืด และขายทอดต่อไปเรื่อยอีกอย่างน้อย 10 ทอด

กว่าจะไปถึงผู้จัดหารายใหญ่ ที่บริษัทบิ๊กๆเลือกเป็นคู่ค้า

ความพยายามทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้วัตถุดิบ

มารองรับความต้องการการซื้อมือถือในตลาดโลก

นอกจากจะมีส่วนสร้างประวัติศาสตร์เลือดให้กับ อัฟริกาแล้ว

ยังส่งผลร้ายต่อสัตว์ป่าด้วย สัตว์ป่าน้อยใหญ่ กอริล่า และช้างป่านับพัน
ถูกฆ่าจากการโดนบุกรุกของมนุษย์เพื่อหาโคลแทน


รูปภาพ

เพราะในพื้นที่ๆขุดหาโคลแทน มันคือบ้านของ กอริลล่าภูเขา

ที่เหลืออยู่บนโลกนี้ไม่กี่ร้อยตัว




สัตว์ร่วมวงศ์กับ มนุษย์ ที่แสนจะขี้อาย สุภาพ

ไม่เพียงถูกเหมืองคุกคามถิ่นที่อยู่


พวกทำเหมืองยังล่า พวกมันเอาหัว บางทีก็ชำแหละนำเนื้อมากินด้วย


รูปภาพ
รูปภาพ

รูปภาพ

สวนสัตว์ในแอฟริกาหลายแห่ง รณรงค์การรีไซเคิลมือถือ

เพื่อลดอัตราการใช้โคล แทนในการผลิตมือถือใหม่

ด้วยหลังจะชะลอการสูญพันธุ์ของกอริลล่าภูเขาในคองโกได้บ้าง



แต่ดูเหมือนไม่ทันต่ออัตราการเติบโต

ของอุปกรณ์ที่เป็น “มากกว่าใช้พูด” แต่ส่วนใหญ่”ก็ใช้แค่พูด”เท่านั้น




ในทวีปแอฟริกาเอง พิษภัยจากมือถือคุกคามชีวิตและทรัพยากรตัวเอง

แต่อัตราการใช้มือถือก็เพิ่มขึ้น 1000%



เช่นเดียวกับจำนวนคนบริสุทธิ์ที่ล้มตาย ลง

ใน สงครามกลางเมืองคองโก ประมาณการณ์กันว่า

นับแต่ปี 2547 ซึ่ง เป็นปียุติสงครามอย่างเป็นทางการ
ยัง มีผู้เสียชีวิตจากความรุนแรงรูปแบบต่างๆถึงเดือนละ 45,000คน
หรือปี ละ 540,000
คน
ตัวเลขนี้ยังไม่รวมถึง
ผู้หญิงหลายหมื่นที่ถูกทารุณทางเพศ

ของกลุ่มติดอาวุธต่างๆ เพียงแต่พวกเธอยังไม่ตาย


รูปภาพ
รูปภาพ


รูปภาพ


1,222,245,200,000 กับ 540,000 อาจมีหน่วยนับต่างกัน

แต่อัตราการขยายตัวกลับ แปรตามกันอย่างน่ากลัว

ถ้า ความอินเทรนด์ของคุณ นำมาซึ่งตัวเลขที่มีหน่วยศพเพิ่มมากขึ้น

คุณยังอยากเปลี่ยนมือถือทัชสกรีนมาใช้เล่นอีก สักเครื่องไหม ...!?!




จากคอลัมน์ "ไม่ ซื้อ..ไม่ตาย" นิตยสาร ค คน
จากฟอร์เวิร์ดเมล์ Dek-D.com

Re: ไม่ซื้อ...ไม่ ตาย(อยากให้ทุกคนได้อ่าน)

โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 26 มี.ค. 2010 4:06 pm
โดย JAMEZJAMEZ
น่ากลัวจังอะครับ
น่าเศร้ามากๆๆ

เห็นยอดขายแล้วอึ้งอะ 555

มือถือมันสำคัญกับชีวิตนะแต่ว่า
จะให้ไม่ใช้เลยก็ไม่ได้
ยังไงใช้ให้พังแล้วค่อยซื้อ 555







:whistle:

Re: ไม่ซื้อ...ไม่ ตาย(อยากให้ทุกคนได้อ่าน)

โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 26 มี.ค. 2010 4:08 pm
โดย JAMEZJAMEZ
ปล. รูปหัวลิงในถ้วยย เห็นแล้วสยองอะ

Re: ไม่ซื้อ...ไม่ ตาย(อยากให้ทุกคนได้อ่าน)

โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 10 เม.ย. 2010 10:42 pm
โดย dak_ubon
โห.....

ไม่น่าเชื่อเลยว่าเบื้องหลัง

ของความสบายของคนนับล้านกว่าคนจะ

ทำให้อีกหลายชีวิตต้องสูญเสีย



:hurt: :hurt: :hurt: :hurt: :hurt:

Re: ไม่ซื้อ...ไม่ ตาย(อยากให้ทุกคนได้อ่าน)

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 16 ก.ค. 2014 6:00 pm
โดย earthredrank
:kiku: จะใช้นานๆเลยทีนี้

Re: ไม่ซื้อ...ไม่ ตาย(อยากให้ทุกคนได้อ่าน)

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 12 ก.พ. 2015 11:51 am
โดย toraeyong
แย่เลยอ่ะ แบบนี้

Re: ไม่ซื้อ...ไม่ ตาย(อยากให้ทุกคนได้อ่าน)

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 07 ต.ค. 2015 10:40 am
โดย Gatelomokis
เป็นความรู้ที่ดีมากเลยครับผม

Re: ไม่ซื้อ...ไม่ ตาย(อยากให้ทุกคนได้อ่าน)

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 08 พ.ค. 2017 2:32 pm
โดย Muzzachi
เห็นแล้วเศร้าเลยอะ พึ่งรู้ว่าจริงๆแล้วประวัติเป็นมามันน่ากลัวอย่างนี้