มุมมองในสายตาของหลายคน

เจอบทความดีๆ ก็นำมาฝากไว้ที่บอร์ดนี้นะคะ ไม่ว่าจะเป็นบทความที่ท่านเขียนเอง หรือบทความจากแหล่งอื่นๆ และอย่าลืมให้เครดิตกับบทความที่ท่านนำมาด้วยนะคะ ทางเราจะพิจารณาเพื่อนำลงเว็บไซต์ http://www.jpthai.org อีกทีค่ะ

มุมมองในสายตาของหลายคน

โพสต์โดย ago_demon » พฤหัสฯ. 14 พ.ค. 2009 4:14 pm

ทักษิณ เป็นอย่างนี้ ในสายตาผม
มีนักข่าวนักคิดหลายคนพยายามเข้าใจทักษิณ สนธิ นักข่าวคนหนึ่ง บอกว่าทักษิณมีหกมิติ และเขาทำได้ดีทั้งหกมิติ นักข่าว Straight Times of Singapore เรียกทักษิณง่ายๆว่า “Can Do Prime Minister” นักข่าวมติชนคนหนึ่งเขียนว่าทักษิณ เป็น “Social Capitalist” สิ่งที่น่าจะสะท้อนได้ดีว่าทักษิณเป็นอย่างไรคือการที่เขาจะส่งลูกสาวไปทำงาน McDonalds เพื่อเป็นตัวอย่างให้เด็ดไทยหัดทำงานหาเงิน แทนที่จะขายตัวหาเงิน อีกสิ่งที่น่าจะสะท้อนนิสัยทักษิณได้ดีคือการไปสอนหนังสือเด็ก บทบาทที่สนธิไม่ได้พูดถึงเกี่ยวกับทักษิณ คือการเป็น “ครู” ให้แก่สังคมไทย
พอนึกถึง “ครู” ก็ต้องนึกถึงนิสัยครูเอาไว้ก่อน ทักษิณให้อะไรเมืองไทยไว้มากมายแล้ว ไม่ต้องสงสัยถึงความสามารถ ความจริงจะเอาสิ่งที่เขาทำมาเป็นเงาสะท้อนว่าเขาเป็นคนอย่างไรก็ได้ และถ้าผนึกกับคำพูดหาเสียงจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เราก็คงจะมีภาพทักษิณที่ออกมาชัดพอสมควร สรุปคร่าวๆจากการมองสองสิ่งนี้ก็คือเขาเข้าใจปัญหาของเวลาไหนเวลาหนึ่งดี และมีวิธีที่จะแก้ไขปัญหานั้นอย่างได้ผล คือมองเรื่องออกและสร้างสรรค์หาคำตอบได้ พูดง่ายๆตามภาษา “ครู” คือมองเด็กออกและชอบช่วยเด็กแก้ปัญหาต่างๆ
แต่สังคมการเมืองการเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราจะเห็นได้ว่าทักษิณจะมีคำพูดคมๆ คำพูดที่พังแล้วแปลกน่าตกใจ ออกมาให้คิดเสมอ ถ้าจำกันได้ นักข่าวจะสลับไปมาด่าทักษิณ ว่าเป็น สังคมนิยม ทุนนิยม เสรีนิยม อินเตอร์นิยม ชาตินิยม คะแนนเสียงนิยมหรือประชานิยม ไปจนถึง เผด็จการนิยม ไม่น่าเชื่อว่าคนๆเดียวจะถูกกล่าวหาได้ว่าเป็นไปหมดทุกอย่างแบบนี้ แต่ความจริงสื่อคงมองถูก ทักษิณ ถ้าจะมีปรัชญาชีวิต ผมคิดว่าคงจะอีงอยู่กับศาสนาพุทธพอดู “คือไม่มีอะไรแน่นอนยั่งยืน” รวมไปถึงทฤษฏีตะวันตกเหล่านั้น ที่เราคนไทย อิมปอร์ตเข้ามาทั้งนั้น ความจริงคือทักษิณดูจะเป็น “ไทยพันธ์แท้” อยู่เอาการ คือเลือกสิ่งที่ดีในสิ่งต่างๆมาผสมกัน ออกมาเป็นอะไรใหม่ที่ทำให้คนตื่นเต้นสนใจ ต้องศึกษาต้องคิด คนไม่เข้าใจก็มากเป็นธรรมดา ในสังคมที่ชอบอะไรง่ายๆและตื้นๆ
ก็ใช่ที่ว่าเหมือนไม่มีจุดยืน คนไทยนี่ถูกเขาด่ามามากแล้วว่าจอมพริ้ว แต่ทักษิณต่างจากปลาไหลเหมือนกัน ตรงที่ถ้าดูเขา เขามีจุดยืนเหมือนกันถึงแม้ว่าจะเสียคะแนนเสียง เช่นการออกกฏหมายต่อต้านการก่อการร้าย ที่นักวิชาการเอนจีโออาจารย์มหาวิทยาลัยองกรอิสระไม่ชอบเลย นอกจากนี้การผสมสารก็สร้างจุดยืนขึ้นมาเหมือนกันเป็นจุดยืนใหม่ ที่มองดูด้วยตาเดิมๆอาจจะเหมือนไม่มีจุดยืน บางทีจุดยืนของคนก็ออกมาเหมือนกลายเป็นสุดโต่ง แบบ ดูพวกสิทธิมนุษย์ไทย ที่รับทฤษฏีสิทธิจากนอกมาอย่างเต็มๆ ยังพูดกันได้ว่าสำหรับคนไม่มีทางต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมทางอื่น การใช้กำลังเป็นสิ่งที่ถูก พูดง่ายๆฆ่าคนได้ เราจะไม่ได้เห็นทักษิณสุดโต่งไปทางไหนแน่
เราเห็นนายกเป็นแบบผู้ดีอังกฤษ แบบเป็นทนายความ แบบเป็นเผด็จการ แบบทหารประชาธิปไตย หรือแบบเชื้อสายจีน มาแล้ว มาคราวนี้ เรามีนายกแบบที่เรียกว่า “ไทยพันธ์แท้” ก็ว่าได้ เอาเป็นว่าเรากำลังดูอยู่ว่าแบบไทยไทยจะสู้เขาได้หรือไม่ เท่าที่ดูรู้สึกว่าจะยิ่งกว่าสู้ได้เสียอีก เอาเป็นว่าแค่สองปีก็ชนะนายกเกือบทุกคนที่ไทยเคยมีมาแล้ว แล้วไปคว้าเหรียญทองมาจากนอกประเทศหลายอัน ก็ต้องดูต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร ให้ผมทาย คนไทยพื้นๆก็นิสัยเหมือนทักษิณ ทักษิณพูดอะไรออกมาหลายครั้ง ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ปัญญาชนหรือสังคมชั้นสูงหรือฝ่ายค้าน เขาพูดกับคนไทยทั่วๆไป สนธิพูดไว้ถูกมากที่บอกว่าทักษิณเป็นนักการเมืองมือฉมังคนหนึ่ง แต่ผมอยากเสริมว่าทักษิณเขาใหญ่พอมานานแล้วที่จะให้ความเป็น “คนไทยคนหนึ่ง” ครอบงำนิสัยจิตใจและความคิด ของเขาไปอีกนาน พูดง่ายๆว่าทักษิณไม่มีอะไรต้องพิสูจน์สำหรับตัวเขาเองมานานแล้ว Forbes ลงไว้ว่าทักษิณรวยเป็นที่ 400 กว่าของโลก ก็ไม่ใช่ย่อย สร้างอณาจักรทางธุรกิจพนักงานเป็นหมื่นก็ทำมาแล้ว ต่อสู้กับชีวิตแบบล้มลุกครุกคลานจนหาจุดยืนได้ก็ทำมาแล้ว
ผมคิดว่าทักษิณมาทำงานการเมืองก็ด้วยจุดประสงค์เดียว คือเพื่อกอบกู้ชาติและสร้างเมืองไทยให้เป็นที่ภูมิใจของคนไทย เขาจะมีทฤษฏีนอกเป็นพันเป็นร้อยเล่มมาสอนคนไทยอย่างไร ผมว่าสิ่งที่ทักษิณใช้ปกครองประเทศก็คือความเป็น “คนไทย”


แต่สนธิ ลิ้มทองกุล บอกว่า ทักษิณเป็นคนแบบนี้
คำตอบต่อคำถาม “ยอดนิยม” เกี่ยวกับ “ทักษิณ” โดยสนธิแห่งหนังสือพิมพ์ “ผู้จัดการ”
1. นายกเป็นคนอย่างไร 2. ฉบับประชาชนต้องการ Strong Prime Minister
3. นายกสร้างอาณาจักรหรือเปล่า 4. รวมอำนาจหรือกระจายอำนาจ
มาดูกันครับ..
1. นายกเป็นคนอย่างไร 1. เขาเป็นนักธุรกิจ นักธุรกิจจะมองเห็นกำไร ขาดทุน มองเห็นช่องทาง มองเห็นโอกาส 2.เป็นนักบริหาร เขาสามารถจะบริหารจัดการ สามารถจะเอาคนนั้นมาเป็นผู้จัดการตรงนี้ คนนี้มาเป็นผู้จัดการตรงนี้ เมื่อทำงานไม่ดีแล้วเขาก็ย้ายคนนี้ออกทันที ไม่เชื่อไปดูประวัติศาสตร์ของบริษัทที่เขาเคยทำมาก่อนในเครือชินวัตร ผู้จัดการในเครือชินวัตรย้ายเป็นว่าเล่นเลย เพราะเขาถือว่านี่ทำงานไม่สำเร็จ หรือว่าไม่เหมาะกับงานเขาย้ายทันที
สโรชา – เอาคนอื่นมาทำ
สนธิ – เอาคนอื่นมาทำทันที เอาคนนี้จากกรรมการผู้จัดการขึ้นเป็นรองประธาน เอาคนนี้ย้ายจากฝั่งนี้มา เพราะว่าเขาเอางานเป็นหลัก เขาไม่ได้เอาตัวคนเป็นหลักนะครับ นั่นคือนักบริหาร 3. นักปกครอง นายกรัฐมนตรีคนนี้เป็นนักปกครองชั้นหนึ่ง เขาสามารถที่จะพูดโน้มน้าวใจคน สามารถที่จะพูดให้กำลังใจคน และเขาสามารถที่จะพูดให้คนเข้าใจว่าสิ่งที่เขาทำอยู่เขาทำเพื่ออะไร 4.เขาเป็นนักการศึกษา ครับเมื่อวานนี้เราดูมาแล้วไม่ใช่หรือ ที่ท่านนายกฯไปสอนหนังสือมา
สโรชา – ค่ะ ไปสอนหนังสือมา
สนธิ – คุณสโรชารู้ไหมว่าบทบาทที่เขาสอนหนังสืออยู่ ณ เวลานั้นเป็นสิ่งซึ่งผมดูแววตาเด็กไม่ใช่เด็กตื่นเต้นที่ได้เรียนหนังสือกับท่านนายกฯ แต่ผมฟัง ดูแล้วดูท่าทางเด็กจะเข้าใจสิ่งที่นายกฯพูดดี ก็แสดงว่านายกฯเข้าใจเลยว่าจริงๆ แล้วการศึกษาต้องเริ่มตรงไหน แล้วเขาเป็นคนที่แคร์เรื่องการศึกษามาก เพราะเขายอมรับ เขายอมรับว่าสังคมไทยจะเจริญต่อไป ต้องเริ่มจาก Database ข้อมูลพัฒนาเป็นข่าวสาร ข่าวสารพัฒนาเป็นความรู้ Knowledge แล้วก็พัฒนาไปสู่ปัญญา คือ Wisdom จะพัฒนาสิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้อย่างไร ถ้าฐานการศึกษาไม่มั่นคง ไม่แน่น 5. เขาเป็นนักการเมือง วันนี้จะยอมรับหรือไม่ยอมรับ คนนี้เล่นการเมืองเก่งมาก เขารู้จักฉกฉวยโอกาส เขารู้จักว่าจังหวะไหนควรรุก จังหวะไหนควรถอย จังหวะไหนควรประนีประนอมกับคุณเสนาะ เทียนทอง จังหวะไหนที่ปล่อยให้คุณเสนาะ เทียนทอง จะต้องโดนรุมยำโดยพรรคพวกเขา สุดท้ายสำคัญที่สุด 6.นายกฯคนนี้เป็นนักเลง นักเลงไม่ใช่ในลักษณะที่ไปรังแกใคร เขาเป็นคนซึ่งกล้าได้กล้าเสีย เขาเป็นคนจริง แล้วข้อหนึ่งความเป็นนักเลงนี้เขาไม่รังแกคน แต่ใครอย่ามารังแกเขาก่อน เขาไม่ยอมนะครับ ถ้ามองในมุมกลับนี้ คุณสโรชาก็ถามว่า เอ๊ะ ถ้าอย่างนั้นแล้วท่านนายกฯนี้ลักษณะช่วงหนึ่งเคยไปรังแกหลายๆ คนในสังคมไทย เราต้องมองภาพรวมทั้งหมด วันที่เลือกตั้งเสร็จ พรรคไทยรักไทยขึ้นมามีเสียงข้างมาก คุณสโรชาคุณก็อยู่ในเหตุการณ์ ผมก็อยู่ในเหตุการณ์
2. ฉบับประชาชนต้องการ strong Prime Minister
สนธิ – ก็เพราะเขาไม่เลือก ถ้าวันนั้นเขาเลือกนายกฯคนนี้ไปเป็นสมาชิก สสร. วันนี้อาจจะไม่ใช่นายกฯแล้ว ฉะนั้นวันนี้เขาได้แมนเดทจากรัฐธรรมนูญปี 2540 มาเต็มๆ เพราะรัฐธรรมนูญปี 2540 นี้ได้มอบ ต้องการจะสร้าง ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Strong Prime minister ขึ้นมา คือกึ่งๆ ระบบประธานาธิบดี เพื่อให้มีการบริหารการจัดการที่เด็ดขาด ที่สามารถอยู่ได้ 4 ปี เพื่อที่จะทำงานให้ได้สำเร็จ เพราะฉะนั้นนายกฯ คนนี้ก็เลยใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 ซึ่งเปิดโอกาสให้เข้ามาทำงานตรงนี้ได้ เมื่อเปิดโอกาสเข้ามาทำงานตรงนี้ได้แล้ว คุณสโรชาต้องเข้าใจว่าเมืองไทยยุคที่นายกฯคนนี้เข้ามาบริหารงานภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่นี้ เมืองไทยเหมือนบ้านป่าแดนเถื่อน เหมือนตรงไหน เรามียาบ้า เรามียาเสพติด เรามีผู้มีอิทธิพล เรามีหวยเถื่อน เรามีข้าราชการ เรามีนักการเมือง เรามีตำรวจกินส่วย เรามีทหารมาเฟีย มีเต็มไปหมดเลย ในระบบเก่า แล้วปี 2540 นี้เป็นเพียงแต่ตัวอักษร บทบัญญัติ แล้วจู่ๆ อุปมาอุปมัยเหมือนกับว่าประเทศไทยในยุคนั้นก็คือ Wild Wild West ทางตะวันตกอเมริกา แล้วอยู่มาวันหนึ่งทางวอชิงตัน สมมตินะครับ ส่งไวแอท เอิร์พ เข้ามาปราบ เข้ามาตั้งกติกา ก็เหมือนนายกรัฐมนตรีคนนี้ได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นเอกฉันท์ แล้วใช้อาวุธ ก็คือเอารัฐธรรมนูญปี 2540 มาปราบต่างๆ นาๆ พวกนี้ของธรรมดาย่อมต้องมีคนไม่พอใจ นั่นคือสิ่งซึ่งท่านนายกฯได้ทำลง
3. นายกสร้างอณาจักรหรือเปล่า
สนธิ – อีกวิธีหนึ่งที่ผมอยากจะถามก็คือว่า บางครั้งเราต้องยุติธรรมเหมือนกัน คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แต่งงานกับคุณเยาวภา ชินวัตร ตอนที่แต่งงานนี้เคยคิดไหมว่าจะเป็นปลัดกระทรวง ตอนที่แต่งงานเคยคิดไหมว่าพี่ภรรยาจะเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่เคย
สโรชา – ก็คงนึกไปไม่ถึงล่ะค่ะ
สนธิ – นึกไปไม่ถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาแต่งงานกับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ตอนที่คุณหญิงพจมานเป็นนางสาวพจมาน ดามาพงษ์ แล้วมีพี่ชายคือ คุณเพรียวพันธ์ ดามาพงษ์นี้ ก็ไม่ได้คิดเหมือนกันใช่ไหม ว่าวันหนึ่งตัวเองจะได้เป็นนายกฯ พล.อ. ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เป็นญาติผู้พี่ก็ไม่ได้คิด ผมนี้นะมีญาติ ผมมีพี่ชายเป็นรองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ผมมีพี่สะใภ้เป็นรองอธิบดีอยู่กระทรวงพาณิชย์ แล้วผมมีน้องชายเป็นสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ถ้าวันข้างหน้านี้ผมเกิดมาบริหารชาติบ้านเมืองนี้ แสดงว่า 3 คนนี้โตไม่ได้แล้วสิ คือต้องเพื่อความยุติธรรมต้องพิจารณากันนิดหนึ่ง คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมนี้ เป็นสมัยยุคพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้เป็นยุคนี้ นั่นข้อที่หนึ่ง
ข้อที่ 2 คุณชัยสิทธิ์ ชินวัตร ตามอาวุโสก็มีสิทธิ์ ถ้าพูดถึงการถูกข้ามหัวมาตลอด ทุกคนถูกข้ามหัวมาตลอด ผมก็ไม่ตำหนิท่านนายกฯ สมมติว่าในเสี้ยวหนึ่งของหัวใจท่านนายกฯอยากได้พี่ชายนี้ ผมไม่ตำหนิ ผมถือเป็นเรื่องธรรมชาติ ฉะนั้นผมว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องเอามาพูดเป็นประเด็น คือทุกคนพยายามจะโยงว่าท่านนายกฯ กำลังจะสร้างอาณาจักรขึ้นมา โดยใช้ชินวัตรเป็นคนที่คุมแต่ละจุด ผมคิดว่าพูดอย่างไม่ยุติธรรมตรงนี้ ทำไมเราไม่ดูว่าเขาทำงานมาเท่าไหร่ คุณชัยสิทธิ์ก็จะเกษียณอีกประมาณ 2 ปี หรือ 3 ปี คนที่เป็น ผบ.ทบ.อายุขนาดนี้ต้องถือว่าแก่แล้ว 57-58 ปี แล้ว เขาผิดตรงไหน เวลาเขาโดนข้ามหัวสมัยซึ่งน้องชาย ญาติลูกผู้น้องเขาไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ทำไมไม่มีใครพูดบ้างล่ะ ไปดูประวัติศาสตร์ได้สมัยพล.อ.ชาติชายเป็นนายกรัฐมนตรี พล.ต.หรือพล.ท.กมล ทัพพะรังสี ล่ะ หลานหรือเปล่าล่ะ แล้วทำไมไม่มีคนพูด
สโรชา – คือทุกคนห่วง หลายๆ ท่านที่ออกมาแสดงความเป็นห่วง วิพากษ์วิจารณ์กันเรื่องนี้ก็เพราะว่ากลัวว่าเป็นการสร้างอาณาจักรหรือเปล่า คือพอถึงเวลาจุดหนึ่งแล้วมองไปรอบๆ เมืองไทยแล้วมีแต่คนสำคัญๆ ในตำแหน่งสำคัญๆ ล้วนแล้วแต่เป็นคนสนิทท่านทั้งนั้นเลย
สนธิ – เอาอย่างนี้ดีกว่า กรรมนี้เราต้องดูที่เจตนา เหมือนกับงบประมาณ ท่านนายกฯ ณ วันนี้นี่บริหารงานแบบซีอีโอ ผมอยู่ในวงการธุรกิจ เป็นทั้งสื่อสารมวลชน และผมก็ทำธุรกิจทางด้านสื่อสารมวลชน ผมเข้าใจ ยกตัวอย่างง่ายๆ เวลาคุณบริหารงานคุณจำเป็นต้องใช้เงิน ต้องทำงานทันที เพราะในยุคนี้เป็นยุคซึ่ง Globalization ยุคโลกานุวัตร ต้องไว ทีนี้มาเจอระบบราชการที่คุณติดนี้ ถ้าคุณจะใช้งานเพื่อสร้างโครงการ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการนี้ คุณต้องรอไปอีกปี เพราะเขาบอกว่าต้องตั้งงบประมาณครับ ต้องอย่างโน้นอย่างนี้ครับ
สโรชา – ต้องรออนุมัติค่ะ
สนธิ – ไม่ทันกิน นายกฯทักษิณมาจากภาคเอกชน เขาบริหารงานทางเอกชนจนประสบความสำเร็จ นั่นคือนัยยะของการเป็นนักบริหารธุรกิจ เขาก็เลยคิดว่าทำไมไม่เอาตั้งเงินที่ต้องใช้เอาไว้เป็นงบกลางก่อน แล้วเมื่อมีเหตุที่ต้องใช้ในขณะนั้น ก็ใช้งบกลางไปทันทีเลย แล้วค่อยมาต่อยอดด้วยงบประมาณอีกทีหนึ่ง
สโรชา – ค่ะ

สนธิ – ทีนี้พอทำอย่างนี้ปั๊บ แทนที่คนจะมองทุกอย่าง exact value ว่าเรามาวัดกันที่ผลดีกว่า ถ้าอย่างนั้น ทุกคนก็บอกว่าตั้งงบกลางเพื่อคอรัปชั่น ตั้งงบกลางไม่มี
สโรชา – เป็นการเปิดทางหรือเปล่า
สนธิ – นี่คือนิสัยและสันดาน วิธีการเล่นการเมืองแบบเก่าๆ ซึ่งต้องเลิกได้แล้ว นะครับก็เช่นกันว่านี่คือนิสัยว่าตั้งคนนั้นเป็นญาติ ผมคิดว่าดูภาพรวมดีกว่า พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ต้องตั้งให้เขาขึ้นมาแล้วดูว่าเขาบริหารงานได้หรือเปล่า ถ้าเขาบริหารงานไม่ได้ค่อยวิพากษ์วิจารณ์เขาต่อไป หรือว่าคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งจริงๆ นายกฯก็ไม่ได้เป็นคนตั้ง เพราะเขาถูกตั้งเมื่อสมัยรัฐบาลยุคคุณชวน หลีกภัย ก็ต้องดูว่าเขาทำงานได้ไหม ถ้าเขาทำงานไม่ดี หรือมีปัญหาอะไรก็ค่อยว่าอีกที ผมคิดว่าคนไทยในขณะนี้ขาดการมองที่ผล แต่ไปมองสิ่งซึ่งกำลังจะเริ่มต้น และไม่เข้าใจปรัชญา ถ้าเข้าใช้ปรัชญาสิ่งนี้จะไม่ลามปามมาถึงขณะนี้
4. รวมอำนาจหรือกระจายอำนาจ
สนธิ – ที่ผมไม่เห็นด้วย ไม่ใช่ว่าผมเชียร์ท่านนายกฯ จนไม่ลืมหูลืมตา ผมคิดว่าลักษณะของการบริหารงานในขณะนี้ เราต้องเข้าใจอย่างหนึ่ง ลักษณะของโครงสร้างการปกครองนี้ จะต้องมีส่วนสัมพันธ์กับลักษณะของปัญหาของสังคม โครงสร้างอย่างหนึ่งกับลักษณะปัญหาอย่างหนึ่ง ณ เวลาหนึ่ง เมื่อเปลี่ยนเวลาไปแล้ว โครงสร้างนั้นอาจจะต้องเปลี่ยนแปลงไป ในขณะนี้อย่างที่ผมบอกว่านายกฯทักษิณ เข้ามาบริหารประเทศด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 2540 มาในช่วงเปลี่ยน มาเพื่อปรับ ปราบพวกยาเสพติด พวกมาเฟียทั้งหลาย เพื่อให้ทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอย และระบบราชการก็เป็นส่วนหนึ่ง ตรงนี้แหล่ะที่เกิดมาจากการกระจายอำนาจในอดีต เพราะฉะนั้นแล้วเพื่อที่จะทำให้ทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอย ต้องดึงพวกนี้เข้ามาอยู่ตรงนี้ก่อน เมื่อดึงเข้ามาแล้วค่อยจัด คุณมาอยู่ตรงนี้นะ คุณมาอยู่ตรงนั้นนะ เพราะถ้าคุณไม่ทำอย่างนี้นะ คุณไม่มีทาง คุณเอาระบบราชการไม่อยู่ สมัยก่อนถ้าคุณศึกษาการปกครองไทย การปกครองไทยสมัยก่อนปกครองเป็นมณฑล ผู้ว่ามณฑลนี้ มีอำนาจเด็ดขาดเลย สามารถจะตัดสินได้ทันทีเลยโดยไม่ต้องส่งเรื่องกลับมาที่กรุงเทพมหานคร หรือจังหวัดส่วนกลาง แต่พอมีการกระจายอำนาจมากขึ้นต่อมาเรื่อยๆ ก็เริ่มบอกว่าให้อำนาจผู้ว่าฯ ให้อำนาจส่วนท้องถิ่น ให้อำนาจโน้นอำนาจนี้ เราก็รู้ว่าอำนาจท้องถิ่นในอดีตคืออำนาจมาเฟีย ผู้มีอิทธิพล เพราะฉะนั้นแล้วพอมายุคนี้ ต้องการเดินต่อไปนี้เราต้องกุมส่วนต่างๆ ซึ่งแตกสลายหมดแล้ว รวบรวมเข้ามา แล้วแยกเป็นหมวด แยกเป็นหมู่ แยกเป็นกอง พอจบเรียบร้อยแล้ว คือกลับไปสู่การปกครองระบบที่มีผู้ว่ามณฑล นั่นคือที่มาผู้ว่าซีอีโอ ปัญหาทุกอย่างในจังหวัดต้องจบในจังหวัดนั้น นี่คือ pilot project ซึ่งมีการทดลอง
คำตอบง่ายๆ ต่อข้อสงสัยยากๆ ข้อโต้เถียงง่ายๆ ต่อคำกล่าวหายากๆ ที่มีต่อ ทักษิณ
ทักษิณซื้อประเทศไทย (ผลผลิตของไทย 100US Billion ต่อปี กลุ่มชินกำไร 50 US$ Million ต่อปี ซื้อได้ก็เก่ง)
ทักษิณซื้อสื่อหมดประเทศ (อ่านหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ มติชน เนชั่น คมชัดลึก ประชาชาติ และโพส ดู พวกนี้ด่าทรททุกวัน)
ทักษิณปิดเรื่องนก (สว หมอ และ อาจารย์จุฬา ออกมาแฉ ก่อนเขารู้จริง 100% รัฐกำลังรอให้ 100% ก่อน)
ทักษิณเผด็จการ (เขาซีอีโอ ไทยไม่เคยแบบนี้มานานแล้ว ที่มีนายกเด็ดเดี่ยว ภาวะผู้นำสูง บางคนกลัวแบบนี้)
ทักษิณผลประโยชน์ทับซ้อน (เห็นคลังไม่ยอมไอทีวีแน่นี่ บีโอไอให้ผู้ลงทุนทุกคนรวมถึงพวกชิน มือถือใหม่ก็มีมา)
ทักษิณผิดพลาดในสามจังหวัดภาคใต้ (ไม่มีอะไรที่รัฐทำไป พอที่จะทำให้คนแค้นพอ ที่ฆ่าพระด้วยอีโต้)
ทักษิณผิดพลาดในการเสนอกฏหมาย (บางอันก็ไม่ผิดเลย แต่บางอันก็เผลอ ออกมากมาย ผิดนิดเดียวก็ OK)
ทักษิณจะทำให้ไทยเป็นอาเจนตีน (ประชานิยมในอาเจนตีน ทำให้เงินเฟ้อ 5000% กว่า ในไทยไม่มีปัญหานี้)
ทักษิณการตลาด (เศรษฐกิจดี สร้างงานเป็นล้าน เอื้ออาทรมากมายที่ทำได้แล้ว การตลาดด้วยผลงาน ผิดหรือ?)
ทักษิณไม่เอาสังคม (เศรษฐกิจดีและสังคมดี เป็นของคู่กัน มาตรการสังคมทรทมีมาก แต่สังคมไม่ค่อยยอมรับ)
ทักษิณเอาแต่ตัวเลขเติบโต (ยิ่งโตเร็ว หนี้ก็เล็กลงไป คนมีงานทำ บริษัทกำไรดี ภาษีก็มาก เอื้ออาทรคนจนได้อีก)
ทักษิณทำให้หนี้รากหญ้าเพิ่ม (สภาพัฒบอกว่าหนี้ส่วนมาก คือรถและบ้าน คือสินทรัพย์ถาวรขึ้นด้วย)
ทักษิณกดดันข้าราชการเจ้าพ่อพวกผิดกฏหมาย ให้เลิกเป็นฐานคนอื่นและเข้าข้างทรท (พวกนี้อิสระจะตายไป)
ทักษิณสั่งให้ฆ่าพวกค้ายาเป็นพันศพ (พอดีฟังในหลวงมา ท่านบอกว่ามีไม่มาก)
ทักษิณดันทุรังแปรรูปรัฐวิสาหกิจ (การบินไทยแปรแล้วดีนะ คลังก็ยังเป็นเจ้าของส่วนมาก ปชชก็ได้เป็นเจ้าของ)
ทักษิณปากไวด่าเก่งเหมือนปชปเข้าไปทุกที (ไม่ไว ไม่เก่งเท่าปชปแน่)
ภาพประจำตัวสมาชิก
ago_demon
Newbie
Newbie
 
โพสต์: 2
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. 14 พ.ค. 2009 4:00 pm
ที่อยู่/Country: New Zealand

ย้อนกลับไปยัง บทความดีๆ น่าอ่าน

ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน

cron